SINO ปั๊มรายได้งวดนี้ที่ 1,375 ล้าน
เผยแพร่ : 15 พ.ย. 2567 15:47:57
• กำไรสุทธิไตรมาส 3/2566 อยู่ที่ 37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 429% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
• กำไรสุทธิไตรมาส 3/2566 สูงกว่าไตรมาสก่อนหน้า
• รายได้ 9 เดือนแรกของปี 2566 เพิ่มขึ้น 120% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ไซโน โลจิสติกส์ คอร์ปอเรชั่น ทำรายได้ไตรมาส 3 ที่ 1,375 ล้านบาท สูงสุดในรอบปี และกำไรสุทธิ 37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 429% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนและสูงกว่าไตรมาสก่อนหน้า หนุนรายได้ 9 เดือนแรกพุ่งแรง 120% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และขึ้นแท่นผู้ให้บริการ Sea Freight บนเส้นทางไทย-สหรัฐฯ เป็นอันดับ 2 ของโลก
ขณะแนวโน้มไตรมาส 4 จะได้รับปัจจัยบวกจากดีมานด์ขนส่งสินค้าทางทะเลและทางอากาศที่อยู่ในระดับสูง
นายนันท์มนัส วิทยศักดิ์พันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทไซโน โลจิสติกส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SINO เปิดเผยผลการดำเนินไตรมาส 3/2567 ว่าบริษัทมีรายได้จากการให้บริการ 1,375 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 429% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนและสูงกว่าไตรมาสก่อนหน้า โดยนับเป็นไตรมาสที่มีรายได้จากการให้บริการสูงสุดในรอบปี ขณะที่กำไรสุทธิทำได้ 37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 429% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนและสูงกว่าไตรมาสก่อนหน้า
แม้ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเนื่องจากเงินบาทที่แข็งค่าอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา โดยมีปัจจัยการเติบโตมาจากดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มธุรกิจ “บริการขนส่งสินค้าทางทะเล” (Sea Freight) ซึ่งเป็นสัดส่วนรายได้หลักของบริษัท โดยเฉพาะดีมานด์ในเส้นทางสหรัฐอเมริกาและยุโรป และการขยายธุรกิจในภูมิภาคอาเซียน เช่น มาเลเซีย เวียดนาม อินโดนีเซีย ส่งผลให้บริษัทมีปริมาณการขนส่งสินค้าทางทะเลในไตรมาส 3/2567 กว่า 11,000 ตู้ และก้าวขึ้นเป็นผู้ให้บริการ Sea Freight ในเส้นทางไทย-สหรัฐฯ เป็นอันดับ 2 ของโลก และยังคงครองอันดับ 1 ผู้ให้บริการธุรกิจดังกล่าวในประเทศไทย
ขณะที่กลุ่มธุรกิจ “บริการให้เช่าคลังสินค้า” มีอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยเกือบเต็ม 100% จากพื้นที่ให้เช่าคลังสินค้า 2 แห่งรวมประมาณ 20,000 ตารางเมตร เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่มีอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ย 70% ส่วนกลุ่มธุรกิจ “บริการขนส่งสินค้าทางอากาศ” (Air Freight) และกลุ่มธุรกิจ “บริการสนับสนุนงานบริการโลจิสติกส์” มีรายได้อยู่ในระดับที่ดี นอกจากนี้ ยังได้รับผลดีจากค่าระวางเรือที่เพิ่มขึ้นประมาณ 10% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
จากผลการดำเนินงานดังกล่าว ส่งผลให้ภาพรวมผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปีนี้มีรายได้จากการให้บริการรวม 2,884 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 120% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 55 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยกำไรสุทธิ 9 เดือนแรกดังกล่าวอยู่ในระดับเดียวกับกำไรสุทธิทั้งปี 2566 ที่ทำได้ 53 ล้านบาท
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SINO กล่าวว่า ช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม-ตุลาคม) บริษัทมีปริมาณการขนส่งสินค้าทางทะเลแล้วกว่า 43,200 ตู้ จึงคาดว่าทั้งปี 2567 จะทำได้ถึง 53,000 ตู้ตามเป้าหมาย โดยแนวโน้มการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 4/2567 จะได้รับปัจจัยบวกจากความต้องการขนส่งสินค้าทางทะเลและทางอากาศที่ยังคงอยู่ในระดับสูง จากการเร่งขนส่งสินค้าไปสหรัฐฯ ให้ทันก่อนถึงช่วงวันหยุดปลายเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งจะทำให้ค่าระวางเรือมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นอีก 10-20% ในช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้
ส่วนกรณีที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และมีนโยบายปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศจีนนั้น มองว่าจะเป็นผลเชิงบวกต่อธุรกิจของบริษัท เนื่องจากคาดว่าจะมีดีมานด์การนำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้นจากฐานการผลิตในประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียน เช่น ไทย เวียดนาม เพื่อทดแทนการนำเข้าจากประเทศจีนโดยตรง
ทั้งนี้ บริษัทได้รุกขยายฐานธุรกิจในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่อง หลังจากได้ร่วมกับพาร์ตเนอร์ในมาเลซียจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในประเทศมาเลเซียเพื่อรองรับการให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ล่าสุด เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา คณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทมีมติอนุมัติการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในเวียดนามร่วมกับพาร์ตเนอร์ในท้องถิ่น เพื่อรองรับการให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ โดยเวียดนามเป็นประเทศที่ส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯ มากเป็นอันดับ 2 ของโลก เช่น ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ยางล้อ อาหาร โดยคาดว่าจะมีปริมาณการขนส่งสินค้าในช่วงแรกประมาณ 1,000 ตู้ต่อเดือน
นอกจากนี้ บริษัทเตรียมทำสัญญาขยายคลังสินค้าให้เช่าอีก 20,000 ตารางเมตร ภายในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง ซึ่งคาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการภายในเดือนมกราคม 2568 เพื่อตอบสนองความต้องการจัดเก็บสินค้าที่เพิ่มขึ้น หลังจากผู้ประกอบการจีนได้ย้ายฐานการผลิตมาไทยค่อนข้างมาก รวมถึงมีแผนขยายธุรกิจบริการขนส่งสินค้าทางอากาศเพื่อเพิ่มศักยภาพให้บริการอย่างครบวงจร
ที่มา : MgrOnline