“บิ๊กเอ” นั่งปธ. คณะอนุกรรมการฯด้านกีฬารอบสอง ดันซอฟต์พาวเวอร์มวยไทย

เผยแพร่ : 14 พ.ย. 2567 12:10:58
X
• ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ หรือ “บิ๊กเอ” ได้รับแต่งตั้งเป็นประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา
• การแต่งตั้งเกิดขึ้นจากคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ชุดของนายกรัฐมนตรี แพรทองธาร ชินวัตร
• นี่คือการกลับมาดำรงตำแหน่งของ “บิ๊กเอ” อีกครั้ง
• คณะอนุกรรมการฯ ด้านกีฬาชุดใหม่ มีคณะทำงานที่พร้อมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมกีฬา

"บิ๊กเอ"ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นั่งแท่นประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา อีกครั้ง หลังคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ชุดของนายกรัฐมนตรี แพรทองธาร ชินวัตร ได้แต่งตั้งคณะกรรมการอนุกรรมการฯด้านกีฬาชุดใหม่ โดยคณะทำงานยังคงเป็นชุดเดิมเกือบทั้งหมดที่เคนทำงาน มวยไทย ซอฟพาวเวอร์ มาตั้งแต่ต้นปี 67 "บิ๊กเอ" ประธานฯสมัย 2 ยันเดินหน้างานต่อโครงการต่างๆที่ประสบความสำเร็จในปีนี้ โดยปี 68 ทุกโครงการต้องเข้มข้น ตั้งเป้า มูลค่าทางเศรษฐกิจ ต้องมากกว่า 2,300 ล้านบาท ดีเดย์ประชุมนัดแรก 22 พ.ย.นี้ ที่การกีฬาแห่งประเทศไทย

ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ผู้ทรงคุณวุฒิของคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา ได้กล่าวว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 31 ตุลาคม ได้มีการประชุมคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ซึ่งในการประชุมวันนั้นได้มีการแต่งตั้ง คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬามา 1 ชุด มีคณะทำงาน 11 คน โดยแต่งตั้งให้ ตนเป็น ประธานคณะอนุกรรมการฯด้านกีฬาอีกครั้ง พร้อมทั้งแต่งตั้งให้ นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา เป็นรองประธานฯ ส่วนอีก 9 คนเป็นอนุกรรมการฯ มี ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, ประธานสภามวยโลก มวยไทย, ประธานเจ้าหน้าที่บริหารวันแชมเปี้ยนชิพ, นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม, นายสมชาย พูลสวัสดิ์, พลเอก อรชัย บุญสุขจิตเสรี, นายไพฑูรย์ ชุติมากรกุล, นายปรีชา ลาลุน รองผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา และนางโปรดปราน สมานมิตร รองผู้ว่าฯ กกท.ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย ซึ่งทุกคนล้วนเป็นทีมงานมวยไทย ซอฟต์พาวเวอร์ ชุดเดิมที่จะมาสานต่อการทำงานในปี พ.ศ.2568

"บิ๊กเอ"ประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนด้านกีฬา เปิดเผยต่อว่า การทำงานของคณะอนุกรรมการฯด้านกีฬา ยังคงจะเน้นเรื่องของ มวยไทย ซอฟต์พาวเวอร์ ซึ่งทำโครงการต่างๆมาตั้งแต่ต้นปี 67 โดยมีเป้าหมายเพื่อต่อยอดทุกโครงการให้เกิดประโยชน์สูงขึ้นไปอีก ไมว่าจะเป็น การพัฒนาองค์วามรู้กีฬามวยไทย, การเพิ่มจำนวนและประสิทธิ์ภาพของบุคคลในวงการมวยไทย, การแข่งขันมวยไทยเพื่อสร้างกระแสความตื่นตัวและเศรษฐกิจให้ประเทศ, การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์มวยไทยทั้งในปละต่างประเทศ, รับรองมาตราฐานมวยไทยเพื่อสร้างรายได้ให้ประเทศ และกำกับติดตามและประเมินผล ซึ่งมีเป้าหมายดำเนินการมากขึ้นไปอีกในปี พ.ศ.2568 ตั้งแต่มูลค่าทางเศรษฐกิจ ต้องมากกว่าปี 2567 เกินกว่า 2,300 ล้านบาท โดยในวันที่ 22 พ.ย.67 จะมีการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬาชุดใหม่ ที่การกีฬาแห่งประเทศไทย เพื่อวางกรอบต่างๆของโครงการ

ที่มา : MgrOnline