สุดหลอน! สาวพยาบาลศรีสะเกษออกเวรเดินมาเปิดประตูรถเก๋งแทบช็อก เจอคนนั่งเสียชีวิตที่เบาะหลัง

เผยแพร่ : 22 ต.ค. 2567 10:09:54
X
1. พยาบาล รพ.ศรีสะเกษ พบศพชายเสียชีวิตในรถของตัวเอง
2. พยาบาลไม่รู้จักผู้ตาย ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน
3. ญาติของผู้ตายเพิ่งแจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.เมืองศรีสะเกษ

ศรีสะเกษ - สุดหลอน สาวพยาบาล รพ.ศรีสะเกษออกเวรเดินมาเปิดประตูรถเก๋งจอดไว้ก่อนไปทำงาน ตกใจแทบช็อกเจอคนนั่งเสียชีวิตที่เบาะหลังภายในรถของตัวเอง เผยไม่ใช่ญาติไม่รู้จักไม่เคยเห็นหน้าผู้ตาย ขณะญาติเพิ่งแจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.เมืองศรีสะเกษ ก่อนพบเป็นศพ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา (21 ต.ค. 67) ร.ต.อ.เอก แซงเพชร รองสารวัตร (สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรเมืองศรีสะเกษ ได้รับแจ้งว่ามีคนเสียชีวิตอยู่ภายในรถยนต์ ที่ถนนอุบล ตำบลเมืองใต้ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ แถวร้านอินเตอร์เภสัช จึงรีบออกไปตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมกับประสานเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างจิตศรีสะเกษธรรมสถาน พอไปถึงที่เกิดเหตุพบร่างหญิงนั่งเสียชีวิตอยู่เบาะหลังรถยนต์เก๋งยี่ห้องฮอนด้า รุ่น Jazz สีดำ หมายเลขทะเบียน กม 3471 อุบลราชธานี ทราบชื่อผู้เสียชีวิตต่อมาคือ น.ส.บุญธิตา ศิริกุล อายุ 53 ปี สภาพศพสวมกางเกงลายขายาว สวมเสื้อแขนสั้นคอปก ส่วนรถยนต์ที่ผู้ตายไปนั่งเสียชีวิตอยู่นั้นไม่ใช่รถยนต์ของผู้ตาย และไม่ใช่รถยนต์ของญาติผู้ตายด้วย เป็นรถยนต์ของ น.ส.นันทวดี คุณวาที เจ้าหน้าที่พยาบาลโรงพยาบาลศรีสะเกษ

น.ส.นันทวดี เจ้าของรถเก๋งคันเกิดเหตุเล่าให้ฟังว่า เมื่อเช้าตนขับรถยนต์คันดังกล่าวมาจอดไว้ตรงจุดนี้เพื่อไปเข้าเวรที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ จนถึงเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. ตนมาเปิดรถยนต์ดูก็พบร่างคนมานั่งเสียชีวิตอยู่ภายในรถยนต์ ส่วนตัวไม่รู้จักไม่เคยเห็นหน้าผู้ตายเลย คิดว่าตอนลงจากรถยนต์ตนน่าจะรีบจนลืมล็อกรถยนต์ ทำให้ผู้ตายเปิดรถยนต์และเข้ามานั่งเสียชีวิตได้

ผู้สื่อข่าวได้โทร.ไปสอบถามญาติผู้เสียชีวิต ได้เล่าให้ฟังว่า ผู้ตายคือ น.ส.บุญธิตา ศิริกุล อายุ 53 ปี ป่วยเป็นโรคสมองฝ่อมานานกว่า 2 ปี โดยวันนี้ น.ส. บุญธิตาได้ไปหาหมอที่โรงพยาบาลศรีสะเกษกับญาติ แต่ระหว่างญาติเข้าห้องน้ำนั้น น.ส.บุญธิตาเกิดหายตัวไปที่ไหนก็ไม่รู้ ญาติพยายามตามหาแต่ก็ไม่พบ และได้ไปแจ้งคนหายที่สถานีตำรวจภูธรเมืองศรีสะเกษไว้ แต่พอตกเย็นถึงรู้ว่า น.ส.บุญธิตาเสียชีวิตอยู่ในรถยนต์คนอื่น

ทั้งนี้ ญาติไม่ติดใจการเสียชีวิต แต่เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง และเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ ก่อนจะได้ประสานเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่เก็บหลังฐานอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนจะได้ดำเนินการต่อไป




ที่มา : MgrOnline