"บิ๊กต่าย"ตามติดคดี "ดิไอคอน" บช.ก.ลุยค้น11 จุด บ้านคนสนิท 18 บอส หาหลักฐานออกหมายจับล็อต 2

เผยแพร่ : 22 ต.ค. 2567 12:31:07
X
• เหยื่อพุ่ง 6,979 คน เสียหายรวม 2,046 ล้านบาท
• บช.ก. ลุยค้น 11 จุด บ้านพนักงานและคนสนิทของ 18 บอสเพื่อหาหลักฐาน
• ออกหมายจับล็อต 2 แต่ยังไม่พบหลักฐานเพียงพอที่จะออกหมายจับภรรยาของ บอสกันต์

ผบ.ตร.แถลงคววามคืบหน้า"ดิไอคอนกรุ๊ป" ล่าสุดเหยื่อพุ่ง6,979 คน เสียหายรวม 2,046 ล้าน บช.ก.ลุยค้นอีก 11 จุด บ้านพนักงาน-คนสนิทบรรดา 18 บอสหาหลักฐานออกหมายจับล็อต 2 ยันยังไม่ออกหมายจับเมีย "บอสกันต์"



วันนี้ (22 ต.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.)เมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. พล.ต.ท.อัครเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ ,พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ. และ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. ร่วมเเถลงความคืบหน้าคดีดิไอคอนกรุ๊ป

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า สำหรับการเข้าแจ้งความตลอดช่วงเช้าวันนี้ยังคงมีผู้เสียหายเดินทางมาเพื่อรับบัตรคิวเข้าแจ้งความที่ศูนย์รับแจ้งความที่ บชก.ประมาณ 50 คิว และสำหรับยอดรวมผู้เสียหายทั่วประเทศ ที่เข้าแจ้งความที่ศูนย์รับแจ้งความ บช.ก. และสถานีตำรวจท้องที่ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 10 - 21 ต.ค.67 พบมีผู้เสียหายเดินทางมาแจ้งความทั้งสิ้น 6,979 คน รวมความเสียหายกว่า 2,046 ล้านบาท

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ผู้ต้องหาทั้ง 18 คน อยู่ในการควบคุมที่เรือนจำพิเศษ ส่วนการขยายผลอยู่ระหว่างการสอบสวนทั้งเรื่องเส้นทางการเงิน ,วิเคราะห์บัญชีการเงิน โดยวันนี้ยังมีการเข้าตรวจค้นหาหลักฐานเพิ่มทั้งหมด 11 จุด ซึ่งเป็นผู้ที่มีความเกี่ยวข้องในฐานะพนักงานและคนใกล้ชิดกับผู้ต้องหาทั้ง 18 คนด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่างสรุปผลปฏิบัติการ ตนยังไม่ได้รายงาน เนื่องจากต้องการที่จะปิดข้อมูลหรือหลักฐานต่าง ๆ ที่อาจจะเป็นประโยชน์ต่อคดี

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวต่อว่าสำหรับหมายจับกลุ่มผู้ต้องหาล็อตที่ 2 อยู่ระหว่างการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน และจะเกี่ยวข้องกับทั้ง 11 จุดที่เข้าตรวจค้นหรือไม่ก็ขึ้นอยู่ที่พยานหลักฐาน หากพบความชัดเจนจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ยืนยันว่าถ้าผลการสอบสวนและหลักฐานพาดพิงไปถึงใครระดับใดก็ตาม ทุกคนก็ต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวถามว่าภรรยาของ นายกันต์ กันตถาวร มีรายชื่ออยู่ในหมายจับล็อตที่สองด้วยหรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ตอบว่า ขณะนี้ยังไม่พบในรายชื่อ และยังไม่พบว่ามีการเดินทางออกนอกประเทศอีกด้วย ทั้งนี้สำหรับการแยกระหว่างผู้เสียหายกับผู้ต้องหานั้น ต้องเรียนว่าผู้เสียหายบางคน เมื่อสอบปากคำแล้วอาจจะพบว่าเป็นผู้ต้องหาในภายหลังก็จะต้องถูกแจ้งข้อกล่าวหา ทั้งหมดอยู่ระหว่างวิเคราะห์คำให้การอย่างละเอียด ผู้ที่มาแสดงตัวก็ให้สิทธิ์เป็นผู้เสียหายก่อน แต่คำให้การทั้งหมดก็จะต้องมาผ่านการวิเคราะห์เรื่องของพยานหลักฐานก่อนอีกด้วย ส่วนกรณีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับผู้ต้องหาทั้ง 18 รายนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน หากพบความผิดอื่นเพิ่ม ก็จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมทันที

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีจะมีกลุ่มผู้เสียหายไปร้องเรียนกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน เรื่องพนักงานสอบสวนชี้นำจนทำให้เกิดความเสียหายเท็จขึ้นมา ทางตำรวจจะชี้แจงอย่างไร พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า เป็นความเข้าใจของบุคคลบุคคลใดบุคคลหนึ่งได้ อยากจะเรียนว่าตำรวจทำงานกันหนักมาก การสอบสวนจำเป็นต้องมีความรอบคอบรัดกุม ความผิดแต่ละประเภทนั้นจะมีองค์ประกอบความผิดตามกฎหมาย หากใช้ความรู้สึกอย่างเดียวแล้วไปแจ้งข้อกล่าวหาผู้ใดผู้หนึ่ง ตำรวจอาจจะตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาเองก็ได้

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวถึงหลักฐานคลิปเสียงตามที่เป็นข่าวว่า ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เป็นผู้รับผิดชอบ ร่วมบก.ปปป.ทราบว่าอยู่ระหว่างการสอบสวนและก็ขยายหลักฐานทั้งหมดว่าเกี่ยวพันกับผู้ใดบ้าง แต่ขอยังไม่เปิดเผย แต่บอกได้ว่ามีการสอบปากคำบอสพอล และได้รับคำยืนยันว่าเสียงนั้นเป็นเสียงบอสพอลจริง ทั้งนี้หากพบว่าบุคคลใดที่มีหลักฐานชัดเจนและเป็นการกระทำความผิดต่อเจ้าพนักงานของรัฐหรือความผิดต่อแผ่นดิน ก็จะไม่ละเว้นในการดำเนินคดีอย่างแน่นอน ส่วนบุคคลใดที่จะแสดงตัว หรือแสดงความบริสุทธิ์ ก็เป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับหลักฐาน ซึ่งจะมีบุคคลใดเกี่ยวข้องบ้างอยู่ระหว่างตรวจสอบ

เมื่อถามถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่านักร้องเรียนหญิงมีความสนิทสนมกับตำรวจที่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่นั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า หากพบว่าเป็นตำรวจ หรือไม่ว่าใครสังกัดใดก็ตาม หากพบว่ามีส่วนร่วมในการกระทำความผิดจะดำเนินคดีไม่มีละเว้น ทั้งนี้ไม่มีความกังวลและไม่มีความหนักใจ ส่วนเรื่องที่บอสพอลโอนเงินเข้าบัญชีพระผู้ใหญ่ จำนวน 1 ล้านบาทจะต้องอายัดมาตรวจสอบด้วยหรือไม่ ก็ต้องดูว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกันหรือไม่ โดยต้องตรวจสอบและใช้ดุลพินิจอย่างละเอียดรอบคอบ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบในวงกว้าง แต่หากเป็นเงินต้องสงสัยก็สามารถอายัดได้ เพราะเป็นไปตามกระบวนการสอบสวนอยู่แล้ว เพราะที่ผ่านมาตำรวจตามอายัดทั้งอสังหาริมทรัพย์ รถยนต์หรู และทรัพย์สินอื่น ๆ ของกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมดกว่า 400 ล้านบาทแล้ว

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวอีกว่า ส่วนกระแสข่าวผู้ต้องหามีการแปลงของกลางเป็นสกุลเงินดิจิตอลนั้น เรื่องนี้มีการสอบปากคำและก็ตรวจสอบโดย บก.ปปป. อยู่แล้ว แต่อยากเรียนว่า บุคคลที่มีชื่อเสียง หรืออินฟลูเอนเซอร์ต่าง ๆ ควรจะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนที่จะนำข้อมูลเหล่านั้นออกมาเผยแพร่สู่สาธารณะชน จนทำให้เกิดความไขว้เขวต่อข้อเท็จจริงว่าทำไมเจ้าหน้าที่ถึงปล่อยปละให้มีการถ่ายโอนทรัพย์สินในรูปแบบคริปโตได้ ขณะนี้กำลังตรวจสอบ ซึ่งข้อเท็จจริงก็จะปรากฏเร็ว ๆ นี้ด้วย หากใครที่มาให้ข้อมูลเท็จต่อสื่อสาธารณะชน ก็จะต้องรับผิดชอบและถูกดำเนินคดีด้วยแน่นอน

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวต่อด้วยว่า ส่วนพยานที่มาให้ปากคำกับ บก.ปปป. และ DSI จะเป็นคนเดียวกันหรือไม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่ขอยังไม่พูดถึงเนื้อหารายละเอียดของเรื่องการสอบสวนและพาดพิงถึงบุคคลใดหากยังไม่ชัดเจน

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จะเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์หรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า เบื้องต้นยังไม่พบความเชื่อมโยงกับเว็บพนันออนไลน์ ทั้งนี้ตนอยากเตือนพวกที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหลาย ที่มีการพยายามยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินนั้น จะยิ่งทำให้ปรากฏพฤติการณ์ทำผิดในทางคดีอย่างชัดเจน เบื้องต้นขอยืนยันว่าจะทำคดีแล้วเสร็จทัน 48 วัน ตามกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดอย่างแน่นอน

ด้าน พล.ต.ต.โสภณ กล่าวว่า จากที่มีข่าวปรากฏว่าจะมีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินของกลุ่มผู้ต้องหา ขณะนี้ทางตำรวจเองได้มีการเข้าไปตรวจสอบหลักฐานต่างๆ โดยเฉพาะกล้องวงจรปิดแล้ว ซึ่งการกระทำลักษณะนี้อาจจะเข้าข่ายการฟอกเงินด้วย โดยในส่วนนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งดำเนินการด้วย

ส่วน พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า สำหรับเรื่องข้อมูลเลขบัตรประชาชนของบอสพอลที่มีขึ้นต้นด้วยเลข 5 นั้น เบื้องต้นมีการตรวจสอบฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ พบว่าเป็นการแจ้งตกหล่นในการสำรวจ และมีการเพิ่มชื่อภายหลัง แต่ยืนยันว่าเป็นคนไทย ยังไม่พบว่าเป็นต่างด้าว

 สำหรับเป้าหมาย 11 จุด ที่ทีมสืบสวน บช.ก. นำกำลังเข้าตรวจค้นหาหลักฐานทางคดีเพิ่มเติม ส่วนใหญ่นั้นเป็นบ้านพักของคนใกล้ตัว หรือผู้ที่อาจเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ต้องหาคดีดิไอคอนกรุ๊ปฯ ล็อตแรกนั้น
เป้าหมายจุดแรกคือบ้านเลขที่ 345/259 หมู่บ้าน สิริเพลส ราชพฤกษ์ ถ.345 ต.บางคูวัด อ.เมืองปทุมธานี ,จุดที่ 2 คือบ้านเลขที่ 221 ม.2 ช.สามัคคี 25 ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี
จุดที่ 3.บ้านเลขที่ 2/92 หมู่บ้านพฤกษาวิลล์ 37 ช.เพิ่มสิน34 ถ.เพิ่มสิน คลองถนน กรุงเทพ
จุดที่ 4.บ้านเลขที่ 165/6 เนอวานา @work. ถ.รามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน

จุดที่ 5.บ้านเลขที่ 165/24 ถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน
6.บ้านเลขที่ 2/61 โครงการ JSP City ชอยรังสิด-นครนายก 34/1 ด.ประชาธิปัตย์
อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
7.บ้านเลขที่ 119/47 ซอยรังสิต-นครนายก23 ถนนรังสิตนครนายก ต.
ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
8.บ้านเลขที่ 45/10 เซ็นจูรี่ปาร์คคอนโด ชอยวิภาวดีรังสิด 42 ถนนวิภาวดีรังสีด
แขวงจอมพล เขตจตุจักร
9.บ้านเลขที่ 229/125 ห้อง 0909 ซิลค์เพลส (หลักสี่) ถ.พหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน
10.บ้านเลขที่ 91/261 หมู่บ้านแกรนฟิโน่ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี และจุดที่ 11 คือบริษัท ดิ ไอคอนกรุ๊ป
เลขที่ 165/42-46 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพ
ส่วนผลการตรวจค้นอยู่ระหว่างสรุปว่าพบหลักฐานใด ๆ ที่เกี่ยวของกับคดีเพิ่มเติมอีกบ้าง

ที่มา : MgrOnline