* ฤดูร้อนปีนี้จะเริ่มสิ้นเดือนนี้ * ปีนี้จะร้อนน้อยกว่าปีก่อน * แต่ก็ยังคงร้อนอยู่ ไม่ใช่ว่าไม่ร้อนเลย * สอดคล้องกับเทรนด์อุณหภูมิโลก

ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศทางทะเล โพสต์เฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat ระบุว่า สิ้นเดือนเมื่อไหร่ เราจะเข้าฤดูร้อนจริงจัง ปีนี้คงไม่ร้อนเท่าปีก่อน แต่จะบอกว่าไม่ร้อนเลยก็คงไม่ใช่ เพราะเทรนด์โลกตอนนี้คือมีแต่ร้อนกับร้อนกว่า

ลองดูภาพครับ เป็นกราฟแสดงอุณหภูมิโลกที่เพิ่มขึ้นจากปีฐาน ในยุคก่อนปฏิวัติอุตสาหกรรมเมื่อ 150 ปีก่อน แกนล่างคือปีค.ศ.

ผมใส่ feeling ประกอบให้เพื่อนธรณ์เข้าใจ โดยใช้อารมณ์เด็กยุคผม ผู้เกิดปลายยุค60

สมัยนั้นโลกอยู่ดีมีความสุขมาก ร้อนกว่ายุคอดีตเมื่อร้อยปีก่อนแค่ 0.2-0.3 องศา ว่าง่ายๆ คืออากาศยังเหมือนยุคเมื่อคุณตาคุณยายยังเด็ก

เรื่อยมาถึงยุค80 เริ่มเรียนมหาลัย โดนอ.สุรพลบังคับให้ไปพูดเรื่องโลกร้อน

ยุคนั้นโลกแค่ปริ่มๆ 0.5 องศา ไม่มีคำว่าอินเตอร์เน็ต หาข้อมูลโคตรยาก แถมหามาพูดแล้วไม่มีคนฟังหรือฟังไปก็ไม่เข้าใจอีกต่างหาก

พอมายุค90 เอาละวุ้ย อุณหภูมิโลกเริ่มกระชากขึ้น จนผู้คนเริ่มรู้จักคำว่าโลกร้อน

เข้าสู่ปลายยุค90 เรามี Kyoto Protocol ข้อตกลงว่าด้วยการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

ทว่า ไม่สำเร็จครับ เข้ายุคมิลเลเนี่ยม โลกตอบมนุษย์ว่าตกลงอะไรกันเฟ้ย ก๊าซเรือนกระจกกมีแต่เพิ่มกับเพิ่ม โลกจึงร้อนขึ้นอย่างเร็ว

เราจึงรีบตกลงกันใหม่ เปลี่ยนเป้าไปเรื่อยๆ ยังไงก็ได้เนอะ จึงเป็นที่มาของ Paris Agreement ตั้งเป้าไปเลยว่าห้ามร้อนเกิน 1.5 องศา

ทว่า เราไม่ได้ปล่อยก๊าซลดลงเลยฮะ ในทางตรงข้าม เราปล่อยเพิ่มขึ้นทุกปี

แล้วจะเหลือเหรอ ตั้งแต่ 2010 เรื่อยมาจนถึงตอนนี้ โลกร้อนแบบกระฉูด ลองดูกราฟก็พอเห็นชัด

ในช่วง 0.5-1.0 องศา ใช้เวลา 30 ปี (1980-2010) แต่ช่วง 1.0-1.5 องศา ใช้เวลาแค่สิบปีเศษ ตอนนี้โลกร้อนทะลุ 1.5 ไปเรียบร้อยแล้ว แม้ยังไม่นับว่าทะลุแบบเป็นทางการก็ตามเถอะ

(แบบเป็นทางการต้องทะลุต่อเนื่องหลายๆ ปี แต่กี่ปียังตกลงกันไม่ได้ เหอๆ)

เราจึงเข้าสู่ยุคแปรปรวนของแท้ ฝรั่งเรียก Uncharted territory ไม่เคยมีใครรู้ว่าเป็นไง ไม่มีบันทึกประวัติศาสตร์หน้าไหนเคยบอกไว้

เป็นยุคแห่งการไร้คำทำนาย สมควรส่งเสียง 😱

คำว่าร้อนน้อยกว่าปีก่อน จึงต้องมี ”หวังว่า“ เป็นคำกำกับ หวังว่าเป็นเช่นนั้นนะ

แล้วก็เน้นย้ำ ”ปีก่อน“ ไม่ใช่อดีตยาวนาน หมายถึงปี 2566-67 เท่านั้น อย่าเอาไปเทียบกับเมื่อสิบปีที่แล้วนะจ๊ะ

ที่สำคัญ โลกยังเข้าสู่ยุคสวิง หนาวก็สุดขั้วไปเลย (ญี่ปุ่น อเมริกา) ร้อนก็คงมาแบบสุดขีด (รออีกแป๊บคงได้เห็น)

ฝนนึกว่าจะถล่มก็มาเลยแบบไม่รอ แม้ในครึ่งหลังปีก่อนที่ควรเป็นช่วงปรกติไม่โน่ไม่ญ่า บ้านเราก็โดนน้ำท่วมไปหลายแห่ง

ต่อจากนี้จะเป็นยังไง การทำนายล่วงหน้าของเราทำยากขึ้นทุกปี Uncharted territory ก็มีความหมายอย่างนี้แหละ

เอาเป็นว่าต้องตามข้อมูลกันแบบสุดๆ ทำนายได้ล่วงหน้าแค่สั้นๆ โอกาสพลาดมีสูง ก็โปรดเข้าใจ

หวังว่าจะเป็นปีที่โลกอ่อนโยนกับเรากว่าปีก่อน ร้อนก็ขอแค่เหงื่อไหล อย่าไปถึงขั้นฮีทสโตรค ฝนตกก็รอการระบายสัก 3-4 ชั่วโมง แล้วก็ห้ามน้ำเข้าบ้านเข้ารถนะเฟ้ย ตังค์ยิ่งไม่ค่อยมีอยู่ด้วย

ในเมื่อเราลดก๊าซเรือนกระจกไม่ได้ตามเป้าสักที ชีวิตต่อจากนี้ก็อาศัยการเตรียมตัวให้ดีที่สุด จากนั้นก็ภาวนากับฟ้าดินครับ

ที่มา : MgrOnline