“จิรายุ” ลุยจับร้านบุหรี่ไฟฟ้า แฉ จนท.เอี่ยวเพียบ ทั้งชายแดนและด่าน ทั่วกรุง-เมืองท่องเที่ยวเปิดโจ่งครึ่มกว่า 500 แห่ง
เผยแพร่ : 23 ก.พ. 2568 20:24:33
• มีการส่งเอกสารลับ แสดงหลักฐานข้าราชการไทยเอี่ยวธุรกิจบุหรี่ไฟฟ้าเถื่อน ทั้งชายแดนและด่านตรวจ
• พบเจ้าหน้าที่ละเว้นการจับกุม ในหลายพื้นที่ทั่วกรุงเทพฯ และเมืองท่องเที่ยว มีร้านค้าเปิดขายอย่างโจ่งแจ้งไม่ต่ำกว่า 500 แห่ง
• บุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาเถื่อน มีมูลค่าการนำเข้ากว่า 5,000 ล้านบาทต่อปี

“จิรายุ” ลุยจับบุหรี่ไฟฟ้า เผย มีคนส่งเอกสาร ”ลับ” ข้าราชการเอี่ยวเพียบ ทั้งชายแดนและด่าน แฉ พบ จนท. ละเว้น หลายพื้นที่ทั่วกรุงและเมืองท่องเที่ยวเปิดโจ่งครึ่มไม่น้อยกว่า 500 แห่ง ชี้ ทั้งอุปกรณ์และน้ำยานำเข้าเถื่อนมูลค่าปีละกว่า 5 พันล้าน ชี้ ไม่ได้หล่นลงมาจากบนฟ้าเอง หลังชุด ฉก.ลงท้องที่ สน.คันนายาว โคกคราม พิสูจน์หลัง ผกก.บอกไม่มีในพื้นที่ แต่จับได้คาหนังคาเขาเกือบ 5 ที่
วันนี้ (23 ก.พ.) เวลา 16.00 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตนพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พร้อมชุดเฉพาะกิจสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สคบ. ฝ่ายปราบปรามการยาสูบได้ร่วมกันลงพื้นที่ถนนเลียบคลองสอง และถนนสุเหร่าคลอง 1 เขตคลองสามวา ในพื้นที่ สน.คันนายาว ปรากฏว่า หลายแห่งข่าวรั่ว พอทราบข่าวว่าเจ้าหน้าที่จะลงตรวจปิดร้านกันหมด
จากนั้นหน่วยข่าวได้เฝ้าสังเกตการณ์ที่บริเวณตลาดสามวาพลาซ่า ถนนเลียบคลองสอง เขตคลองสามวา พบว่า เปิดให้บริการทุกวัน แต่เมื่อทราบข่าวว่าจะมีเจ้าหน้าที่ลงตรวจได้ปิดร้านแต่ยังพบข้อความด้านหน้าว่าชุดนักเรียนห้ามเข้า
จากนั้นทีมเฉพาะกิจได้ลงพื้นที่บริเวณปากซอยคู้บอน 25 ถนนคู้บอน โดยไม่แจ้งกำหนดการ พบร้านเปิดขายบุหรี่ไฟฟ้า และเข้าจับกุมร้านขายบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ผิดกฎหมาย โดยเปิดร้านเป็นอาคารพาณิชย์ นำส่งพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว ดำเนินคดี
จากนั้น เวลา 15.15 น.ทีมเฉพาะกิจ “จิรายุ” ลงพื้นที่ในซอยคู้บอน 27 เขตพบร้านขายบุหรี่ไฟฟ้า เปิดให้บริการหลายร้านได้แสดงตัวจับกุมส่ง สน.คันนายาว
จากนั้น เวลา 15.20 น. นำทีมเฉพาะกิจชุด 2 ลงพื้นที่ซอยนวลจันทร์ 35 ท้องที่ สน. โคกคราม พบร้าน ขายอุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้า มีลักษณะเป็นการขายส่งมีอุปกรณ์การสูบบุหรี่ไฟฟ้าที่เป็นอาร์ตทอยและสีสันสวยงาม เจาะกลุ่มเด็ก และเยาวชน
นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า นายกรัฐมนตรีได้ให้นโยบายให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการกวดขันกวาดล้างจับกุมการขายบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยา และอุปกรณ์ต่อเนื่องผิดกฎหมาย ซึ่งได้รับการร้องเรียนจากผู้ปกครองจำนวนมาก ว่ามีตำรวจในบางพื้นที่ ปล่อยปละละเลย บางแห่งกลับปล่อยให้ตั้งอยู่ใกล้สถานศึกษา นอกจากนี้ ตนได้รับเอกสารงาน “ลับ” เรื่องธุรกิจบุหรี่ไฟฟ้าสีเทา มูลค่ากว่า 5 พันล้านต่อปี รวมทั้งแผนผังผู้ที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้า ทั้งอุปกรณ์และน้ำยาจากต่างประเทศผ่านช่องทางต่างๆโดยระบุว่า มีเจ้าหน้าที่ไปมีส่วนเกี่ยวข้องหลายหน่วยงาน ทั้งผู้ดูแลสินค้าน้ำเข้าที่ด่านพรมแดน ช่องทางธรรมชาติ 51 แห่ง เพราะบุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้ผลิตในไทยและไม่ได้ตกลงมาจากบนฟ้า
ขณะที่รายงานฉบับดังกล่าว พบว่า มีเกือบทุกจังหวัดโดยเฉพาะในกรุงเทพมหานคร พบเกือบทุกเขต 50 เขต ที่มีการเปิดร้านขายอุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้ากันอย่างโจ่งครึ่มไม่สนใจตำรวจ บางแห่งถึงขั้นลงโฆษณาในโซเชียล และบางแห่งทำหน้าร้านชนิดที่ไม่เกรงกลัวใดๆ ทำให้สังคมเกิดข้อกังขาว่า เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องตั้งแต่หน้าด่านที่ควบคุมสินค้าต่างๆ และตำรวจทุกหน่วยที่มีหน้าที่ปราบปรามจับกุม ทั้งหน้าร้านและในโซเชียลรู้เห็นเป็นใจและรับสินบนจากร้านค้าขายของผิดกฎหมายเหล่านี้หรือไม่ ทั้งนี้รายงานดังกล่าวมีการการรวบรวมรายชื่อของร้าน จุดที่ตั้ง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ การจ่ายส่วยสถานีตำรวจที่รับผิดชอบทั่วประเทศ ที่กล่าวหาว่ามีการรับส่วยเดือนละ 5,000-10,000 บาท/ร้านค้า ส่วนผู้นำเข้าเจ้าละกว่า 200,000 ขึ้นอยู่กับขนาดของร้านและเมืองท่องเที่ยวต่างๆ อีกด้วย
นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า ในพื้นที่เขตคันนายาว คลองสามวา กทม.ภายใต้ความรับผิดชอบของสถานีตำรวจนครบาลคันนายาว กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 กองบัญชาการตำรวจนครบาล เป็นเพียง 1 โรงพักจากกว่า 50 เขต ในนครบาล และอีกกว่า 500 อำเภอ ภายใต้ความรับผิดชอบของสถานีตำรวจภูธร ซึ่งหลังจากตนเห็นรายงานในเอกสาร “ลับ” ระบุ หลายจุดในพื้นที่ เขตคันนายาว คลองสามวา ตนก็ได้โทรศัพท์สอบถามกับ พ.ต.อ.นเรนทร์ เครื่องสนุก ผู้กำกับการ สน.คันนายาว เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา ว่า มีในพื้นที่หรือไม่ และขอให้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งผู้กำกับก็ยืนยันกับตนอย่างหนักแน่นว่า ในพื้นที่รับผิดชอบของ สน.คันนายาว ไม่มีร้านค้าเปิดขายบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ต่อเนื่องผิดกฎหมายแต่อย่างใด ซึ่งขัดแย้งต่อข้อมูลที่ได้รับรายงานในบัญชี “ลับ” บุหรี่ไฟฟ้ายานรก ของเด็กและเยาวชน” ทำให้น่าสงสัยว่าร้านเหล่านี้เปิดเป็นร้านค้าเป็นเรื่องเป็นราว บางแห่งมีตู้แดงสายตรวจติดอยู่ไม่ไกลนักห่างจาก ร.ร. แค่ไม่ถึง100 เมตร.เหตุใดจึงไม่ทราบ ซึ่งตนจะดำเนินการตรวจสอบว่ามีเจ้าหน้าที่คนใดมีส่วนเกี่ยวข้องกับการรับสินบน หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวหรือไม่เพื่อเอาผิดทางวินัย และทางอาญาต่อไป
จากนั้นหน่วยข่าวได้เฝ้าสังเกตการณ์ที่บริเวณตลาดสามวาพลาซ่า ถนนเลียบคลองสอง เขตคลองสามวา ท้องที่ สน.คันนายาว พบว่า เปิดให้บริการทุกวัน แต่เมื่อทราบข่าวว่าจะมีเจ้าหน้าที่ลงตรวจได้ปิดร้าน แต่ยังพบข้อความด้านหน้าว่าชุดนักเรียนห้ามเข้า
นายจิรายุ กล่าวอีกว่า มีผู้ปกครองร้องเรียนมาว่า ในพื้นที่เขตคลองสามวา คันนายาว เปิดเป็นจำนวนมาก หลายแห่งมีนักเรียนเข้าไปซื้อเป็นจำนวนมาก จนผิดสังเกตถึงขนาดเจ้าของร้านเถื่อนเหล่านี้ ต้องแปะกระดาษประกาศห้าม นร.ในเครื่องแบบเข้าซื้อเลยทีเดียว ตนขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องโดยตรง และผู้บังคับบัญชา ให้เห็นใจถึงหัวอกพ่อแม่ ซึ่งที่ผ่านมามีเด็กและเยาวชนจำนวนมากเข้าไปซื้อทั้งน้ำยาและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง จนทำให้กิจการเหล่านี้รุ่งเรือง ซึ่งหากไม่มีเจ้าหน้าที่รู้เห็นเป็นใจ หรือปล่อยปละละเลยก็จะไม่สามารถเปิดจำหน่ายได้ ทั้งนี้ ตนจะรวบรวมข้อมูลและพฤติกรรมของสถานีตำรวจและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก ส่งให้กับนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป
ที่มา : MgrOnline