กมธ.ทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา ลงพื้นที่ชุมพรติดตามปัญหาตามแนวชายแดนระหว่างไทย-พม่า
เผยแพร่ : 22 ก.พ. 2568 19:34:57
• พื้นที่สำรวจคือ อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร
• วัตถุประสงค์เพื่อรับทราบข้อมูลด้านความมั่นคงในพื้นที่
• นำโดย นายสมบูรณ์ หนูนวล รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่หนึ่ง

เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2568 คณะกรรมาธิการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา ลงพื้นที่จังหวัดชุมพร อำเภอท่าแซะ เพื่อรับทราบข้อมูลด้านความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชุมพร นำโดย นายสมบูรณ์ หนูนวล รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่หนึ่งในฐานะคณะอนุกรรมาธิการกิจการทหารด้านความมั่นคงแบบองค์รวม นายสิทธิวัชช์ เวชสิทธิ์ นักวิชาการประจำคณะกรรมาธิการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา พ ต.ท.เฉลียว สวัสดิพันธ์ ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการกิจการทหารด้านความมั่นคงแบบองค์รวม ส.อ.รวมพร โรยภิรมย์ เลขานุการประจำคณะกรรมาธิการ
โดยมีนายอภิชาติ สาราบรรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร พร้อมด้วย พ.อ.โชติ ยิกุสังข์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดชุมพร (ฝ่ายทหาร) รวมให้ข้อมูล โดยคณะกรรมาธิการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา ได้เดินทางลงพื้นที่ฐานปฏิบัติการช่องหินหมู ตำบลรับร่อ อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร ซึ่งเป็นฐานปฏิบัติการบริเวณแนวชายแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศพม่า ในพื้นที่อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร โดยได้รับฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับปัญหาตามแนวชายแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศพม่า ในประเด็นแคมป์โรฮิงญา การค้ามนุษย์ แรงงานเถื่อน อาวุธ และยาเสพติดตามแนวชายแดน
นายสมบูรณ์ หนูนวล รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่หนึ่งในฐานะคณะอนุกรรมาธิการกิจการทหารด้านความมั่นคงแบบองค์รวม เปิดเผยว่า คณะกรรมาธิการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา ได้ลงพื้นที่ ฐานปฏิบัติการช่องหินหมู ตำบลรับร่อ อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร ในครั้งนี้ เพื่อมารับทราบข้อมูลเชิงลึกในพื้นที่เกี่ยวกับปัญหาตามแนวชายแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศพม่า ซึ่งมีการนำเสนอผ่านสื่อถึงแคมป์โรฮิงญาที่มีการตั้งอยู่ใกล้กับแนวชายแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศพม่า ในพื้นที่อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร รวมถึงการค้ามนุษย์ แรงงานเถื่อน อาวุธ และยาเสพติดตามแนวชายแดน ซึ่งจากการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบ และรับทราบข้อมูลในพื้นที่ ทราบว่าตลอดแนวชายแดนมีเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองของจังหวัดปฏิบัติหน้าที่อยู่ และมาตรการด้านความมั่นคงบริเวณชายแดนที่มีความเข้มงวด รวมถึงลักษณะพื้นที่จังหวัดชุมพร ที่เป็นพื้นที่แคบ เส้นทางการสัญจรสายหลักมีเส้นทางเดียว ส่วนถนนสายรองมีไม่มาก มีการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ปฏิบัติหน้าที่อย่างต่อเนื่อง จึงเป็นการยากหากมีการลักลอบเข้ามาของโรฮิงญาในช่องทางดังกล่าว
ที่มา : MgrOnline