* พยาบาลถูกทำร้ายร่างกายเป็นปัญหาซับซ้อน มีหลายปัจจัย * การแก้ปัญหาต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย * ต้องการพัฒนาระบบสาธารณสุขไทยให้มีคุณภาพและบริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
พยาบาลสาวชี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นกับพยาบาลที่ถูกทำร้ายร่างกายเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและมีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง การแก้ไขปัญหาจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย เพื่อให้ระบบสาธารณสุขของประเทศไทยมีคุณภาพและสามารถให้บริการประชาชนได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ

เมื่อวันที่ 21 ก.พ. เพจ "บันทึกจากวีลแชร์" ของพยาบาลสาว โพสต์ข้อความถึงเหตุการณ์พยาบาลถูกญาติผู้ป่วยทำร้ายร่างกาย เจ้าตัวชี้ ใจความสำคัญของเรื่องนี้มี 2 ประเด็นหลัก ๆ คือ

1.การทำร้ายร่างกายพยาบาลขณะปฏิบัติหน้าที่เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องและผิดกฎหมายอย่างร้ายแรง ไม่ว่าจะมีเหตุผลใดก็ตาม การใช้ความรุนแรงไม่ใช่ทางออก และผู้กระทำผิดควรได้รับโทษตามกฎหมาย

2.การพูดจาไม่ไพเราะของพยาบาลแม้ว่าการพูดจาไม่สุภาพจะไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง แต่ก็ไม่ควรเป็นเหตุผลที่นำไปสู่การทำร้ายร่างกาย การสื่อสารที่ดีเป็นสิ่งสำคัญในการทำงานบริการ และควรมีการปรับปรุงในส่วนนี้

พร้อมระบุถึงภาระงานของพยาบาลรัฐบาล พยาบาลต้องเผชิญกับภาระงานที่หนักเกินกำลัง เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างมาก ในขณะที่บุคลากรทางการแพทย์ไม่เพียงพอ ทำให้พยาบาลต้องทำงานล่วงเวลาและเผชิญกับความเครียดสะสม

การลาออกของบุคลากรทางการแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์จำนวนมากเลือกที่จะลาออกจากโรงพยาบาลรัฐบาล เนื่องจากภาระงานหนัก ค่าตอบแทนน้อย และสวัสดิการไม่ดีเท่าโรงพยาบาลเอกชน ทำให้เกิดปัญหาการขาดแคลนบุคลากร

ความคาดหวังของผู้ป่วย ผู้ป่วยที่มารับบริการในโรงพยาบาลรัฐบาลมักมีความคาดหวังสูง และต้องการบริการที่รวดเร็วและมีคุณภาพ แต่ด้วยข้อจำกัดด้านบุคลากรและทรัพยากร อาจทำให้ไม่ได้รับการบริการที่ตรงตามความต้องการ

การสื่อสารระหว่างพยาบาลและผู้ป่วย การสื่อสารที่ไม่เข้าใจกัน หรือการใช้คำพูดที่ไม่สุภาพ อาจนำไปสู่ความขัดแย้งและความไม่พอใจได้ ทั้งจากฝั่งผู้ป่วยและพยาบาล

แนะรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรให้ความสำคัญกับการเพิ่มจำนวนบุคลากรทางการแพทย์ และปรับปรุงสวัสดิการและค่าตอบแทนให้เหมาะสม เพื่อดึงดูดและรักษาบุคลากรที่มีคุณภาพไว้ ควรมีการปรับปรุงระบบการทำงานในโรงพยาบาลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อลดภาระงานของบุคลากร และเพิ่มความพึงพอใจของผู้ป่วย บุคลากรทางการแพทย์ควรได้รับการฝึกอบรมและพัฒนาทักษะการสื่อสาร เพื่อให้สามารถสื่อสารกับผู้ป่วยได้อย่างเข้าใจและเหมาะสม ผู้ป่วยและประชาชนทั่วไปควรมีความเข้าใจถึงข้อจำกัดและภาระงานของบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อลดความคาดหวังที่ไม่สมเหตุสมผล และสร้างความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา



ที่มา : MgrOnline