ชาวนาซัดมติ อนุ นบข. แก้ปัญหาไม่ตรงจุด เปิดช่องทุจริต ขอประกันราคาตันละ 1-1.2 หมื่นบาท

เผยแพร่ : 21 ก.พ. 2568 13:07:57
X
• มาตรการไม่ตรงจุด แก้ปัญหาความเดือดร้อนของชาวนาไม่ได้
• เปิดช่องให้เกิดการทุจริต
• ขอให้รัฐบาลประกันราคาข้าว 10,000-12,000 บาท/ตัน ตามความชื้นแทน

สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ออกแถลงการณ์คัดค้าน ไม่เห็นด้วยกับมติอนุ นบข. ที่ออก 3 มาตรการ ดูแลผลผลิตข้าวนาปรัง ซัดมาตรการไม่ต้องสนองความเดือดร้อน แก้ปัญหาไม่ตรงจุด เปิดช่องทุจริตเชิงนโยบาย ขอประกันราคา 1-1.2 หมื่นบาท ตามความชื้น ช่วยเหลืองดเผาตอซังข้าวไร่ละ 500 บาท คุมปัจจัยผลิต ชดเชยทุ่งนาที่ใช้เป็นที่รับน้ำ และจ่ายไร่ละพัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ได้ออกแถลงการณ์ ระบุว่า ตามที่ได้ร่วมประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 โดยมีนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุม และได้ร่วมพิจารณามาตรการช่วยเหลือด้านราคาข้าวนาปรังปีการผลิต 2568 ดังนี้

1.ขยายโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปรัง ช่วยค่าฝากเก็บ 1,500 บาท/ตัน ระยะเวลา 1-5 เดือน ในพื้นที่ 72 จังหวัด ปริมาณ 1.5 ล้านตัน วงเงิน 1,219.13 ล้านบาท

2.การเพิ่มช่องทางการตลาดในประเทศโดยเปิดจุดรับซื้อ รัฐสนับสนุนค่าบริหารจัดการตันละ 500 บาท ผู้ประกอบการช่วยซื้อในราคานำตลาด 300 บาทต่อตัน เป้าหมาย 300,000 ตัน ในพื้นที่ 72 จังหวัด งบประมาณ 150 ล้านบาท เป็นทางเลือกให้กับเกษตรกรที่ต้องการจะขายเลย

3.โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต๊อกข้าว ช่วยดอกเบี้ยผู้ประกอบการ 6% สำหรับผู้ประกอบการเก็บสต็อก 2-6 เดือน และผู้ประกอบการรับซื้อราคาสูงกว่าตลาด 200 บาท/ตัน ขึ้นไป เป้าหมาย 2 ล้านตัน วงเงิน 524.40 ล้านบาท โดยทั้ง 3 มาตรการ ใช้งบประมาณรวม 1,893.53 ล้านบาท

ทั้งนี้ สมาคมชาวนนาและเกษตรกรไทย โดยนายปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย นายเกรียงศักดิ์ ตาปนานนท์ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ได้ชี้แจงรายละเอียด ข้อจำกัด และขีดความสามารถของมาตรการดังกล่าวถึงผลเสียที่จะเกิดขึ้นกับการใช้งบประมาณ การเปิดช่องโอกาสให้เกิดการทุจริตเชิงนโยบาย รวมถึงความไม่พร้อมในเรื่ององค์ประกอบในสถาบันที่ร่วมโครงการ และที่สำคัญ มาตรการต่าง ๆ ยังไม่ตรงตามความเดือดร้อนของเกษตรกรที่ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือ

ดังนั้น เพื่อเป็นไปตามมติกรรมการสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย จึงเห็นพ้องว่า มาตรการทั้งหมด มิได้ตอบสนองความเดือดร้อนของเกษตรกรโดยแท้จริง จึงขอให้คณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ ทบทวนและวางมาตรการใหม่ตามที่เกษตรกรร้องขอ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร และป้องกันการสุ่มเสี่ยงทางเสถียรภาพของรัฐบาล

อนึ่ง สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ขอสรุปความเดือดร้อน ของเกษตรกรผู้ทำนาปรังปีการผลิต 2567/68 ดังนี้

1.ขอให้ภาครัฐพิจารณา มาตรการประกันราคาผลผลิตข้าวเปลือกเจ้าในฤดูนาปรังปีการผลิต 2568 โดยความชื้นไม่เกิน 15% ราคาไม่ต่ำกว่า 12,000 บาท/ตัน ความชื้นไม่เกิน 25% ราคาไม่ต่ำกว่า 10,000 บาท/ตัน

2.ขอให้ภาครัฐพิจารณามาตรการช่วยเหลือเกษตรกรในกรณีงดเผาตอซังฟางข้าว ไร่ละ 500 บาท ตามจำนวนพื้นที่เพาะปลูกที่เกษตรกรขึ้นทะเบียนไว้

3.ขอให้ภาครัฐควบคุมปัจจัยการผลิต เช่น ปุ๋ย ยา และน้ำมันเชื้อเพลิง

4.ขอให้ภาครัฐพิจารณาหาแนวทางชดเชยพื้นที่เกษตรกรที่ใช้เป็นทุ่งรับน้ำ ตามที่เกษตรกรร้องขอ

5.ขอให้ภาครัฐพิจารณาโครงการไร่ละ 1,000 ให้ยังคงเดิม อันเป็นการวางมาตรการความเสี่ยงในเรื่องต้นทุนการผลิต

ทั้งนี้ ในการดำเนินโครงการต่าง ๆ ภาครัฐต้องพิจารณาถึงกลุ่มเกษตรกรที่ทำการเก็บเกี่ยวไปแล้วให้ได้รับสิทธิ์ในมาตรการดังกล่าวทุกมาตรการโดยเท่าเทียมกัน

ที่มา : MgrOnline