* อิหร่านและรัสเซียใช้คริปโตเคอร์เรนซีเพิ่มขึ้นอย่างมาก เพื่อหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตรจากชาติตะวันตก * มีเงินดิจิทัลผิดกฎหมายไหลเข้าอิหร่านและรัสเซียประมาณ 15.8 พันล้านดอลลาร์ในปี 2567 * รัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่มความพยายามในการปราบปรามการใช้คริปโตเคอร์เรนซีที่ผิดกฎหมายในอิหร่านและรัสเซีย โดยใช้มาตรการต่างๆ เช่น การบล็อกธุรกรรม, การปราบปรามการฟอกเงิน และการจับกุมเครือข่ายคริปโต
ท่ามกลางการคว่ำบาตรจากชาติตะวันตก อิหร่านและรัสเซียหันมาใช้คริปโตอย่างหนัก! รายงานเผยเงินดิจิทัลผิดกฎหมายไหลเข้า 15.8 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2567 ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ เดินหน้าปราบปรามหนัก ทั้งบล็อกธุรกรรม ฟอกเงิน และจับกุมเครือข่ายคริปโตมืด! 

สำนักวิเคราะห์ Chainalysis เผยว่าสินทรัพย์ดิจิทัลกลายเป็นเครื่องมือสำคัญของอิหร่านและรัสเซียในการรับมือกับมาตรการคว่ำบาตรจากชาติตะวันตก โดยหน่วยงานที่ถูกคว่ำบาตรได้รับเงินดิจิทัลมูลค่า 15.8 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2567 คิดเป็น 39% ของธุรกรรมดิจิทัลที่ผิดกฎหมายทั้งหมด

อิหร่านเร่งใช้คริปโตท่ามกลางเงินเฟ้อพุ่ง

อิหร่านพึ่งพาคริปโตมากขึ้นเพื่อลดผลกระทบจากการคว่ำบาตรและภาวะเงินเฟ้อสูงถึง 40-50% โดยกระแสเงินทุนไหลออกจากประเทศเพิ่มขึ้น 70% ในปี 2567 คิดเป็นมูลค่า 4.18 พันล้านดอลลาร์ ท่ามกลางค่าเงินเรียลอิหร่านที่อ่อนค่าลง รัฐบาลอิหร่านพยายามสกัดการไหลออกของเงินทุนผ่านมาตรการเข้มงวด ขณะที่ประชาชนจำนวนมากหันมาใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อรักษาความมั่งคั่ง

นอกจากนี่สหรัฐฯ ยังได้ตอบโต้ด้วยมาตรการกดดันสูงสุด โดยรัฐบาลทรัมป์กลับมาใช้คำสั่ง NSPM-2 ที่เปิดทางให้กระทรวงยุติธรรมสืบสวนเครือข่ายการเงินของอิหร่าน ยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้อง และปราบปรามธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน

รัสเซียเดินหน้าปรับตัว ใช้คริปโตเชื่อม BRICS

ขณะที่ทางรัสเซียเร่งผลักดันกฎหมายรองรับการใช้คริปโตในการชำระเงินระหว่างประเทศ หวังลดแรงกดดันทางเศรษฐกิจจากมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก พร้อมกระชับความร่วมมือกับ BRICS (บราซิล, รัสเซีย, อินเดีย, จีน, แอฟริกาใต้) เพื่อหาทางเลือกทางการเงินที่ไม่ต้องพึ่งพาเงินดอลลาร์

โดยหน่วยงานตะวันตกเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบธุรกรรมคริปโตที่เชื่อมโยงกับรัสเซีย ในปี 2567 ซึ่ง OFAC ได้ออกมาตรการคว่ำบาตรหลายระลอก รวมถึงการระงับแพลตฟอร์มคริปโต Cryptex และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน

นอกจากนี้ เยอรมนีและอังกฤษ ยังเข้าร่วมปราบปรามเครือข่ายฟอกเงินของรัสเซีย จนนำไปสู่การจับกุม 84 ราย และยึดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 20 ล้านยูโร

คริปโตยังคงเป็นทางเลือกหลักของรัฐที่ถูกคว่ำบาตร

แม้ตะวันตกพยายามปิดช่องโหว่ทางการเงิน แต่คริปโตยังคงเป็นเส้นเลือดใหญ่ของอิหร่านและรัสเซียโดยช่วยให้ทั้งสองประเทศหลีกเลี่ยงข้อจำกัดทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ สงครามการเงินครั้งนี้ยังไม่จบ และคริปโตจะยังเป็นเครื่องมือสำคัญในสมรภูมิระหว่างมหาอำนาจของโลก

ที่มา : MgrOnline