บุกทลายโกดังจีนกลางกรุง ซุกบุหรี่ไฟฟ้า อาหารและยาไม่ผ่าน อย. มูลค่ากว่า 100 ล้าน
เผยแพร่ : 19 ก.พ. 2568 16:37:17
• ผู้ต้องหาเป็นกลุ่มชาวจีนเช่าโกดังเก็บสินค้า
• สินค้าที่พบเป็นบุหรี่ไฟฟ้า อาหาร และยาไม่ได้รับอนุญาตจาก อย.
• มูลค่าสินค้าทั้งหมดกว่า 100 ล้านบาท

ตำรวจร่วมกับสาธารณะสุขบุกค้นบ้านพักย่านห้วยขวาง หลังสืบทราบกลุ่มชาวจีนเช่าทำโกดังเก็บบุหรี่ไฟฟ้า อาหารและยาไม่ผ่าน อย. รวมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท
วันนี้ (19 ก.พ.) พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.เจษฎา สวยสม ผบก.น.2 พ.ต.อ.พรเทพ เฉลิมเกียรติ ผกก.สน.สุทธิสาร พ.ต.อ.อัครพล โทยะ ผกก.สส.บก.น.2 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.สุทธิสาร และ น.พ.วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการอาหารและยา เจ้าหน้าที่ อย.กระทรวงสาธารณสุข นำหมายค้นเข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 75 ซอยประชาราษฏร์บำเพ็ญ 17 แยก 8 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง ภายหลังจากสืบทราบว่าบ้านดังกล่าวใช้เป็นโกดังเก็บสินค้า อาหารและยา ที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับอย.กระทรวงสาธารณสุข ยาไวอากร้า และบุหรี่ไฟฟ้า เป็นจำนวนมาก
พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. กล่าวว่า พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่รับผิดชอบให้ระดมติดตามกวาดล้างสิ่งผิดกฎหมายในพื้นที่ โดยในวันนี้ได้รับการประสานมาจากเจ้าหน้าอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข จึงได้เข้าตรวจค้นบ้านพัก 2 ชั้น ภายในซอยดังกล่าวโดยพบว่ามีกลุ่มชาวจีนได้เข้ามาเช่าไว้เพื่อทำโกดังเก็บสินค้าอาหารและยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนอาหารและยา บุหรี่ไฟฟ้า ยาไวอากร้า จำนวนมาก รวมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท รวมทั้งเงินสด 300,000 บาท ซึ่งจากการสืบสวนและเข้าตรวจค้นในวันนี้พบว่ากลุ่มชาวจีนยังได้เช่าบ้านทำเป็นที่เก็บสินค้าอยู่อีก 2 หลัง ซึ่งอยู่ภายในซอยเดียวกัน โดยมีคนงานชาวจีนเป็นผู้ดูแล จึงได้นำกำลังเข้าตรวจค้นพร้อมยึดสินค้าทั้งหมดไว้เพื่อตรวจสอบต่อไป และขอฝากถึงประชาชนที่ทราบเบาะแสการกระทำผิดกฎหมาย โปรดแจ้งมาที่ 191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตำรวจนครบาลจะรวบรวมข้อมูลเพื่อสืบสวนเครือข่ายชาวต่างชาติที่ลักลอบกระทำผิดในไทย โดยตรวจสอบทั้งสถานบันเทิง โกดัง และธุรกิจที่อาจเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมข้ามชาติ จึงฝากเตือนประชาชนว่า หากพบเห็นชาวต่างชาติมาเช่าบ้าน เปิดร้านค้า หรือดำเนินธุรกิจที่น่าสงสัย สามารถแจ้งข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบได้ทันที ซึ่งในคดีนี้จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหาชาวจีน เพิ่งเดินทางเข้าไทยได้เพียง 2 สัปดาห์ โดยใช้วีซ่านักศึกษา ขณะที่ โกดังสินค้าผิดกฎหมายไม่พบการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล และมีข้อมูลว่าผู้ที่เป็นเจ้าของตัวจริงยังอยู่ที่ประเทศจีน จึงเตรียมประสานสถานทูตจีน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป และเร่งขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติมต่อไป
ด้านนายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการ อย. ระบุว่า สินค้าของกลางที่พบมีทั้ง ยาเถื่อน ยาปลอม สมุนไพรที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน และเครื่องสำอางผิดกฎหมาย ซึ่งไม่ได้รับอนุญาตให้จำหน่าย หากสินค้ากลุ่มนี้หลุดออกไปสู่ตลาดอาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อผู้บริโภค
ขณะที่ นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ได้ทดสอบแกะบรรจุภัณฑ์ หนึ่งในสินค้าของกลางที่พบคือ ยาเพิ่มสมรรถภาพทางเพศปลอม ซึ่งมีลักษณะบรรจุภัณฑ์แตกต่างจากของแท้ โดยตัวอักษรที่ควรพิมพ์แนวนอนถูกเปลี่ยนเป็นแนวตั้ง ถือเป็นสินค้าลอกเลียนแบบที่อาจเป็นอันตรายหากนำไปรับประทาน



ที่มา : MgrOnline