* ตลาดเครื่องปรับอากาศปีนี้คาดว่าจะเติบโต 6% มูลค่า 34,567 ล้านบาท * LG เปิดตัวเครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่ LG DUALCOOL AI Air * LG ลงทุนด้านการตลาด 100 ล้านบาท สำหรับแคมเปญนี้ * เจฟ ซาเตอร์ เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ LG สำหรับแคมเปญนี้
ผู้จัดการรายวัน 360- อากาศร้อนเริ่มแล้ว เชื่อตลาดแอร์ปีนี้คึกคัก คาดโตอีก 6% สู่ 34,567 ล้านบาท “แอลจี” เดินเกมส์ลุย เปิดตัวเครื่องปรับอากาศภายในบ้านใหม่ ซีรีส์ใหม่ “LG DUALCOOL™ AI Air ” ชูนวัตกรรม AI สุดล้ำเป็นจุดขาย พร้อมงบตลาด 100 ล้านบาท ดึง ‘เจฟ ซาเตอร์’ รั้งแบรนด์แอมบาสเดอร์เจาะตลาดคนรุ่นใหม่ มั่นใจยอดขายแตะ 2,300 ล้านบาท โต 40% สู่ท็อป 5 ด้วยแชร์ 8%

นายซองฮัน จอง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของแอลจี กับการเปิดตัว LG DUALCOOL™ AI Air ที่พัฒนาขึ้นมาให้สอดคล้องกับเป้าหมายการเป็น Smart Life Solution Company อย่างแท้จริง ด้วยการผสานรวมนวัตกรรม AI อัจฉริยะที่ก้าวล้ำไปอีกขั้นในเครื่องปรับอากาศภายในบ้าน เพื่อส่งมอบความสะดวกสบายที่ปรับให้เข้ากับความต้องการของแต่ละบุคคลได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น

ทั้งยังตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัลในทุกด้าน ทั้งด้านความเย็นสบาย อากาศสะอาด และประหยัดพลังงาน ตามพันธกิจ นวัตกรรมเพื่อชีวิตที่ดีกว่า ของแอลจีที่เราได้ยึดมั่นเสมอมาในการส่งมอบความสะดวกสบายในรูปแบบต่างๆ ให้กับผู้บริโภค มั่นใจว่าจะสามารถสร้างนิยามใหม่ของการอยู่อาศัยที่สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตอัจฉริยะในยุคดิจิทัลได้อย่างครอบคลุมทุกการใช้งานของลูกค้าทุกกลุ่ม

ด้านนายอำนาจ สิงหจันทร์ หัวหน้าฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวต่อว่า ปัจจุบันเป็นยุคของเทคโนโลยี AI ผู้บริโภคต่างก็มองหาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทุกด้านได้อย่างชาญฉลาด รวมถึงเครื่องปรับอากาศที่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นสำหรับการอยู่อาศัยในเมืองไทยที่มีอากาศร้อนเกือบตลอดปี ส่งผลให้ปีนี้ทางแอลจีจะมีเครื่องปรับอากาศวางขายทั้งหมด 7 ซีรีส์ และเป็น 3 ซีรีส์ใหม่ ในชื่อ LG DUALCOOL™ AI Air ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภค ด้วยเทคโนโลยี AI อัจฉริยะ พร้อมดีไซน์เรียบหรูล้ำสมัย เข้ากับทุกสไตล์การตกแต่งบ้าน

ประกอบด้วย 1.รุ่น SAQ ระดับความประหยัดไฟ 5 ดาว 2.รุ่น SCQ ระดับความประหยัดไฟ 3 ดาว และ 3.รุ่น SEQ ระดับความประหยัดไฟ 1 ดาว โดยจะมีขนาดตั้งแต่ 9,000 – 24,000 บีทียู ราคาเริ่มต้นที่ 20,000 บาทขึ้นไป สำหรับเครื่องปรับอากาศซีรีส์ LG DUALCOOL™ AI Air เป็นการพัฒนามาจากซีรีส์ LG DUALCOOL™ ในปีที่ผ่านมา ขับเคลื่อนด้วยระบบ DUAL Inverter ช่วยประหยัดพลังงานและทำความเย็นได้เร็วขึ้น

โดยเสริมด้วยนวัตกรรม AI อัจฉริยะล้ำสมัยให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคอย่างครอบคลุมทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ 1.Perfect Comfort AI Air กับความเย็นสบาย ปรับอุณหภูมิ ความแรง และทิศทางลมให้เหมาะสมอัตโนมัติ โหมดลมเย็นที่เหมาะสมภายในห้อง ด้วยการวิเคราะห์ของ AI ThinQ และมีเซ็นเซอร์ระบบควบคุมความชื้นอัตโนมัติ และมีฟังก์ชัน Sleep Timer+ จดจำและวิเคราะห์อุณหภูมิที่เหมาะสมระหว่างนอนหลับ

2.Total Air Care มอบอากาศสะอาดอย่างทั่วถึง ด้วยการกรองและฟอกอากาศหลายขั้นตอน ตอบโจทย์ภาวะในอากาศ และฝุ่น PM2.5 ทำความสะอาดด้วย Freeze Cleaning สร้างอากาศบริสุทธิ์ กำจัดฝุ่นและแบคทีเรียจากตัวเครื่อง ทำให้แผงคอยล์เย็นสะอาดอยู่เสมอ และยังโดดเด่นด้วยฟีเจอร์ Plasmaster Ionizer++ เพิ่มปริมาณไอออนมากกว่าเดิมเป็น 8 ล้านตัว กำจัดเชื้อโรคได้มีประสิทธิภาพ และกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์

3.Smart Energy Saving ประหยัดพลังงานอย่างชาญฉลาด ด้วยฟีเจอร์ AI kW Manager ที่เรียนรู้พฤติกรรมการใช้งาน กำหนดเป้าหมาย และติดตามค่าการใช้พลังงานได้ และกำหนดค่าไฟที่ต้องการ บนแอปพลิเคชัน LG ThinQ ได้ พร้อมฟังก์ชัน Active Energy Control ควบคุมการทำงานได้ 4 ระดับ ทั้งแบบใช้พลังงานเต็มที่ 100%, 80%, 60% และ 40% พร้อมเทคโนโลยี Window Open Detection ตรวจจับการเปิดประตูหน้าต่างทิ้งไว้ หรืออุณหภูมิห้องเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ตัวเครื่องจะปรับเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงานทันที และจะกลับมาเดินเต็มกำลังอีกครั้งเมื่ออุณหภูมิอยู่ในสภาวะปกติ

โดยปีนี้พร้อมใช้งบการตลาด 100 ล้านบาท (ไม่รวมงบโปรโมชั่น) สำหรับทำตลาดเครื่องปรับอากาศ พร้อมเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์ของกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศแอลจีคนล่าสุด คือ “เจฟ ซาเตอร์” ศิลปินดาราชื่อดัง ที่มาแลกเปลี่ยนแนวคิดการใช้ชีวิตอัจฉริยะในยุคดิจิทัล ผ่านมุมมองของคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ ต้องการความสะดวกสบาย และให้ความสำคัญกับการใช้งานเครื่องปรับอากาศ

บริษัทมั่นใจว่าจบปี 2568 จะมียอดขายเครื่องปรับอากาศที่ 2,300 ล้านบาท เติบโต 35-40% จากปีก่อนทำได้ 1,600 ล้านบาท หรือในปีนี้เชื่อว่าแอลจีจะขึ้นท็อป 5 ของตลาดแอร์ ด้วยแชร์ 8% จากเดิมอยู่ในอันดับ 6 และมีแชร์ 5-6%

อย่างไรก็ตามในปี 2567 ที่ผ่านมา ภาพรวมตลาดเครื่องปรับอากาศภายในบ้านเติบโตถึง 14% คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 32,610 ล้านบาท ส่วนปี 2568 นี้ ยังเชื่อว่าตลาดยังเติบโตได้อีก 6% คิดเป็นมูลค่ารวมที่ 34,567 ล้านบาท โดยกว่า 80% เป็นระบบอินเวอร์เตอร์ และ 20% เป็นระบบธรรมดา

การเติบโตในปีนี้มีปัจจัยหลัก 4 ข้อ คือ 1.นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ 2.ดีมานด์ความต้องการจากภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ทำให้ต้องซื้อแอร์ใหม่ รวมถึงการซื้อเปลี่ยนทดแทนของเดิม 3.สภาพอากาศร้อนของไทย และ4.การเข้าถึงในการเป็นเจ้าของสินค้าได้ง่ายขึ้น เช่น ระบบผ่อนสินค้า 0% และแบบระบบสมาชิกที่แอลจีให้บริการ เป็นต้น ”ปีนี้เชื่อว่าตลาดเครื่องปรับอากาศยังเติบโตได้อยู่แม้จะน้อยกว่าปีก่อน เพราะปีนี้หน้าร้อนอากาศจะไม่ร้อนมากและมาช้ากว่าปีก่อน ในส่วนของแอลจีมั่นใจว่ายอดขายแอร์จะเติบโตมากกว่าปีก่อน เนื่องจากแอลจีปรับโครงสร้างการบริหารธุรกิจใหม่ วางทีมดูแลสินค้าแบบบายโปรดักส์ เชื่อว่าจะทำให้โฟกัสการขายสินค้าได้ดียิ่งขึ้น หรือคาดว่ายอดขายแอร์จะทำได้ 10% ของยอดขายรวม 17,500 ล้านบาทในปี 2568 นี้“ นายอำนาจ กล่าว



ที่มา : MgrOnline