* กระทรวงยุติธรรมพบผู้ต้องขังส่วนใหญ่มีการศึกษาต่ำกว่าเกณฑ์ * กรมราชทัณฑ์จะทดลองโครงการอ่านหนังสือลดวันต้องโทษใน 21 เรือนจำ เมษายนนี้ * โครงการมีขั้นตอนการประเมินผลการอ่านอย่างเข้มงวด
MGR Online - รมว.ยธ. รับผู้ต้องขังส่วนใหญ่การศึกษายังไม่ถึงเกณฑ์พื้นฐาน มอบราชทัณฑ์ เตรียมนำร่อง 21 เรือนจำ อ่านหนังสือลดวันต้องโทษ เม.ย.นี้ ยันมีขั้นตอนประเมิน

วันนี้ (19 ก.พ.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เปิดเผยกรณีโครงการอ่านหนังสือลดวันต้องโทษ (Read for Release) เตรียมนำร่องเรือนจำและทัณฑสถานนำร่อง 21 แห่ง เดือน เม.ย.นี้ ว่า ต้องยอมรับว่าผู้ต้องขังในเรือนจำทั่วประเทศหรือผู้ถูกคุมประพฤติ ส่วนใหญ่การศึกษายังไม่ถึงในเกณฑ์ขั้นพื้นฐาน โดยกรมราชทัณฑ์หากสามารถมีส่วนช่วยรับผิดชอบให้คนได้เรียนหนังสือตามที่รัฐบาลกำหนดได้จะลดผู้ต้องขังในเรือนจำจาก 3 แสนคน เหลือ 7 หมื่นคน เพราะพบว่าการศึกษาขั้นพื้นฐานมีประมาณ 7 หมื่นคน

พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ 2560 ตามมาตรา 52 "นักโทษเด็ดขาดคนใดแสดงให้เห็นว่ามีความประพฤติดี มีความอุตสาหะ ความก้าวหน้า ในการศึกษา และทำการงานเกิดผลดี หรือทำความชอบแก่ทางราชการเป็นพิเศษ อาจได้รับประโยชน์อย่างหนึ่งอย่างใดฯ" จะลดโทษได้เดือนละ 5 วัน แต่ต้องดูความคืบหน้าเรื่องการศึกษา เช่น คนเข้ามาไม่เคยเรียนหนังสือแต่สามารถจบชั้นประถมศึกษาได้ ซึ่งหลักเกณฑ์อ่านหนังสือ 1 เล่ม พักโทษกี่วันจะมีคณะกรรมการตรวจสอบ โดยในต่างประเทศ อ่านหนังสือ 1 เล่มจะพักโทษได้ 4 วัน แต่ของประเทศไทยอยากให้ผู้ต้องขังสามารถอ่านออก เขียนได้ คิดเลขเป็น ทำธุรกิจได้ เพราะหากไม่รู้หนังสือก็จะไม่สามารถทำงานได้ และต้องมีการเขียนสรุปตามหลักวิชาการ

"อยากจะเปลี่ยนเรือนจำ เป็นสถานที่สร้างความปลอดภัยและความมั่นคงให้กับสังคม โดยเรือนจำต้องเปลี่ยนเป็นสถานที่ฟื้นฟูหรือมหาวิทยาลัยชีวิต เพื่อให้เกิดชีวิตใหม่ที่ดีขึ้น"

ที่มา : MgrOnline