(คลิป)ทหารไทย-กัมพูชาตรึงกำลังเฝ้าระวังเข้มพื้นที่ “ปราสาทตาเมือนธม” ขณะชาวบ้านชายแดนผวาสู้รบ

เผยแพร่ : 18 ก.พ. 2568 18:43:45
X
• ทั้งสองฝ่ายยังสามารถเจรจาพูดคุยกันได้
• ชาวบ้านชายแดนหวั่นเหตุการณ์บานปลาย ขอให้ทหารทั้งสองฝ่ายเจรจาเพื่อป้องกันสงคราม

สุรินทร์- ทหารไทย-กัมพูชา ตรึงกำลังเข้มเฝ้าระวัง ในพื้นที่ชายแดนปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก สุรินทร์ แต่ทั้ง 2 ฝ่ายยังสามารถพูดคุยเจรจากันได้ ขณะชาวบ้านชายแดนผวาเหตุการณ์บานปลาย วอนทหารทั้ง 2 ฝ่ายเจรจากันเพื่อไม่ให้เกิดสงครามชายแดนซ้ำรอยปี 2554 ทำทั้งชาวไทย-เขมรเดือดร้อน เกิดการสูญเสียและต้องอพยพหนีตาย

วันนี้ (18 ก.พ.68) ผู้สื่อข่าวรายงานถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านปราสาทตาเมือนธม บ.หนองคันนา ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังจากเกิดเหตุการณ์ผู้บังคับบัญชาทหารกัมพูชา นำคณะแม่บ้าน 25 คน ขึ้นมาร้องเพลงชาติกัมพูชาปลุกใจทหาร ในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ก่อนที่ทหารไทยจะเข้าไปห้ามปรามและทำให้ผู้บังคับบัญชาของทหารกัมพูชา คือ พล.ต.เนี๊ยะ วงษ์ ผบ.พลน้อย.ร.42 เกิดความไม่พอใจ และพูดจาท้าทายกัน ตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น


ล่าสุดวันนี้ ที่ ปราสาทตาเมือนธม พบว่า ทหารไทยและกัมพูชา ต่างตรึงกำลังในพื้นที่เพื่อเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด แต่ยังสามารถพูดคุยเจรจากันได้ และยังคงเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเยี่ยมชมปราสาทได้ตามปกติ แต่บรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบเหงา ไม่พบว่ามีประชาชนเข้าไปเที่ยวแต่อย่างใด รวมทั้งชาวกัมพูชาก็เช่นกัน

ทั้งนี้ทั้งสองฝ่ายได้มีการพูดคุยเจรจากันในระดับพื้นที่แล้วตั้งแต่วันเกิดเหตุ แต่เพิ่งจะเกิดเป็นกระแสข่าว จากคลิปในโลกโซเชียลทำให้สถานการณ์ระอุขึ้นมาอีกครั้ง โดยกองทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้กองกำลังสุรนารี ทำหนังสือประท้วงการกระทำที่ไม่เหมาะสมไปยังผู้บัญชาการภูมิภาคทหาร ที่ 4 ประเทศกัมพูชา และถือว่าเป็นหนังสือประท้วงถึงการกระทำที่ไม่เหมาะสมเป็นฉบับที่ 2 เนื่องจากเคยมีเหตุการณ์คล้ายลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2567 โดยทางกองทัพก็ได้ทำหนังสือประท้วงไปยังผู้บัญชาการภูมิภาคทหาร ที่ 4 ประเทศกัมพูชา แล้วครั้งที่ 1 และ ครั้งนี้ถือว่าเป็นเหตุการณ์เดิมๆ เกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่ 2

อย่างไรก็ตาม ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพทั้ง 2 ประเทศจะนัดหมายพูดคุยเจรจาและทำความเข้าใจกันอีกครั้งในเร็วๆนี้

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปตามหมู่บ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พบว่า ประชาชนยังคงดำเนินชีวิตออกไปทำไร่ทำสวน กรีดยางตามปกติ แต่ยังคงวิตกกังวลถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่อยากให้เกิดความรุนแรงเกิดขึ้นซ้ำรอยสงครามชายแดนเมื่อปี 2554 ที่ชาวบ้านต้องอพยพหนีตาย ไม่ได้ทำมาหากินมาร่วม 2 เดือน

ยายสังข์ จรุงภัณฑ์ อายุ 64 ปี ชาวบ้านหนองคันนาสามัคคี อยู่บ้านเลขที่ 115 ม.8 ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่อยู่ใกล้กับชายแดนปราสาทตาเมือนธมมากที่สุด กล่าวว่า ตนและชาวบ้านไม่อยากให้มีเหตุรุนแรงบานปลายจนมีสงคราม เพราะชาวบ้านในพื้นที่จะเดือดร้อนเป็นคนแรก ทุกคนกลัวมาก เพราะเคยผ่านสงครามยิงและฆ่ากันมาแล้ว มีทั้งเสียชีวิต บ้านเรือนพังเสียหายเวลากระสุนตก ขอฝากไปถึงเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบตลอดแนวชายแดนทั้งไทยและกัมพูชา ต้องหารือกัน จะแก้ปัญหาจุดนี้แบบไหนให้ชาวบ้านอยู่ได้อย่างมีความสุข ได้ทำมาหากิน ไม่ต้องอพยพ เพราะคนที่เดือดร้อนคือชาวบ้านของทั้งสองประเทศที่อยู่ตามแนวชายแดน

ขณะที่บริเวณประตูด่านจุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องจอม-โอร์เสม็ด ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ยังคงพบว่าประชาชนทั้งสองประเทศและนักท่องเที่ยวยังคงเดินทางเข้าออกชายแดนตามปกติ แต่เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้มีการปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวดมากขึ้น










ที่มา : MgrOnline