ทลายรังบอสจีนแก๊งคอลฯ บุกตึกใจกลางกรุง เปิดบริษัทลวงเหยื่อขโมยข้อมูลกว่า 8 หมื่นราย

เผยแพร่ : 18 ก.พ. 2568 15:57:36
X
• แก๊งดังกล่าวเปิดบริษัทหลอกลวง
• มีเหยื่อกว่า 80,000 ราย
• ขโมยข้อมูลส่วนตัวเหยื่อ
• ขายข้อมูลให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์

ตำรวจเปิดปฏิบัติการ “ทลายรังปลวกบอสจีน” ขยายผลลุยค้นตึกย่านห้วยขวาง เปิดบริษัทหลอกขโมยข้อมูลเหยื่อกว่า 8 หมื่นราย ขายให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์

วันนี้ (18 ก.พ.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ/ผอ.ศปอส.ตร. พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์รอง ผบช.น./รองหัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ข้อมูล ศปอส.ตร. พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น.พร้อมคณะ ร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. (PCT) และ บก.สส.บช.น. เปิดปฏิบัติการ “ทลายรังปลวกบอสจีน” ย่านห้วยขวาง โดยนำหมายค้นศาลอาญาที่ ค.77/2568 ลงวันที่ 14 ก.พ. 68 เข้าตรวจค้นอาคาร ถ.รัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง จ.กรุงเทพฯ

โดยสิ่งของที่สามารถตรวจยึดเบื้องต้น ประกอบด้วย 1.ป้ายบริษัท ลัคคิง จำกัด 2.บัตรห้อยคอพนักงาน 13 ใบ 3.เสื้อโปโล โลโก้ลายปัก LUCKKING จำนวน 8 ตัว 4.วงล้อเสี่ยงทาย จำนวน 1 อัน 5.แผ่นสติกเกอร์คิวอาร์โค๊ดไลน์ LUCKKING 1 แผ่น 6.แผ่นคูปองเติมเงิน LUCKKING จำนวน 10 ใบ 7.โบชัวร์ จำนวน 1 ชุด 8.อุปกรณ์สำหรับไลฟ์สด 1 ชุด 9.เอเทอร์นอล ฮาร์ดดิส จำนวน 3 อัน 10.ไข่ทองสำหรับจับรางวัล จำนวน 1 กล่อง 11.สมุดโน๊ต จำนวน 13 เล่ม 12.เอกสารที่เกี่ยวข้องของบริษัท ลัคคิง จำกัด จำนวนหนึ่ง และ 13.ตู้เซฟ จำนวน 1 ตู้

โดยพฤติการณ์กล่าวคือ สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา พล.ต.อ.ธัชชัย สั่งการให้ พล.ต.ท.สยาม นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด PCT บุกไปจับกุม นายยี วานโยว (Mr.YE Wanyou) อายุ 29 ปี สัญชาติจีน และ นายลี่ เว่ยเจีย (Mr.Li Weijie) อายุ 30 ปี สัญชาติจีน ซึ่งเป็นบอสคอลเซ็นเตอร์ในตึก 25 ชั้น (เมืองปอยเปต) โดยจับกุมได้ ณ หมู่บ้านหรูย่านรัชดาภิเษก พร้อมยึดทรัพย์สินได้จำนวนประมาณ 15 ล้านบาท

ต่อมา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ผบ.ตร. ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจากประเทศจีนมาร่วมสืบสวนขยายผลกระทั่งพบกระเป๋า “วอลเล็ตลับ” จนนำไปสู่การอายัดเงินได้จำนวน 2,477,294.91 USDT หรือเป็นจำนวนประมาณ 84 ล้านบาท รวมทรัพย์สินที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดและอายัดไว้ได้ทั้งหมดประมาณ 100 ล้านบาท และยังพบหลักฐานว่าทั้งสองพัวพันกับการเป็น ธุระ จัดหา คนไปยังพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้านผ่านทาง อ.แม่สอด จ.ตาก และภายในโทรศัพท์มือถือของบอสจีนทั้งสองพบว่าเป็น Admin ที่ควบคุมระบบหลังบ้านบราวเซอร์ที่ใช้หลอกลวงจนนำไปสู่การค้นพบ “รังปลวกในประเทศไทย”

โดยทั้งสองบอสชาวจีนนั้นยังเป็นเจ้าของบริษัทภายในประเทศไทย ซึ่งเป็นบริษัทที่เปิดมาเพื่อใช้ขโมยข้อมูลส่วนบุคคล นำไปขายให้กับกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยตรวจพบว่า มีข้อมูลบุคคลรั่วไหลไปแล้วกว่า 88,000 ราย โดยใช้ชื่อบริษัทว่า Luckking อำพลางให้ประชาชนโอนเงินเข้ามาลุ้นชิงของรางวัล แต่แท้จริงเป็นการหลอกลวงเอาทั้งเงินและข้อมูลจากประชาชน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด PCT ได้พบพยานหลักฐานสำคัญว่ารังปลวกดังกล่าวเป็นออฟฟิศตั้งอยู่ภายในตึกสำนักงานชื่อดังย่านห้วยขวาง พื้นที่ สน.สุทธิสาร ภารกิจสายลับอำพลางได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อชุดสืบสวน PCT ได้แอบย่องเข้าไปสอดแนมภายในตึกพบว่ามี ออฟฟิศคนจีนต้องสงสัยอีกหลายบริษัททำการอยู่ในตึกดังกล่าว

จนนำมาสู่การเปิดปฏิบัติการ “ทลายรังปลวกบอสจีน” ซึ่งในวันนี้ (18 ก.พ.) เวลา 13.30 น.พล.ต.อ.ธัชชัย และพล.ต.ท.สยาม สั่งการกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด PCT และสืบนครบาล สน.สุทธิสาร กว่า 50 นาย นำหมายค้นของศาลอาญา บุกเข้าไปในตึกอาคารเสริมทรัพย์ ถ.รัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง จ.กรุงเทพฯ

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช เปิดเผยว่า การตรวจค้นและจับกุมดังกล่าวเจ้าหน้าที่ชุดสืบนครบาลร่วมกับชุด PCT และ สน.สุธิสาร ได้สนธิกําลังนั่งรถเมล์ ขสมก. เปิดปฏิบัติการดังกล่าวโดยนั่งมาจากศูนย์สืบนครบาลมายังบริษัทดังกล่าวที่ตั้งอยู่บริเวณถนนรัชดาภิเษก เมื่อมาถึงได้เข้าจู่โจมทันทีสามารถจับกุมพนักงานคนไทยกว่า 10 ราย แต่มีบางส่วนหลบหนีไปได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวดําเนินคดีตามกฎหมาย

นอกจากนี้ พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.3 กก.สส.บช.น. ได้นำกำลังไป จับกุม MR.ZHANG HONGXIANG สัญชาติจีน ซึ่งเป็นบอสคนสุดท้าย ของบริษัทดังกล่าว ได้ที่คอนโดแห่งหนึ่งบนถนนรัชดา ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามซอยรัชดา 11 และจากการตรวจค้นห้องพักพบของกลางหลายรายการ อาทิ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก จำนวน 9 เครื่อง โทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่อง แฟ้มเอกสารบริษัท จำนวน 5 แฟ้ม แฟลชไดรว์จำนวน 6 อัน ใบรับเงินเดือนจำนวน 1 ชุด และสติกเกอร์บริษัท จำนวน 1 ชุด

อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ตํารวจจะขยายผลต่อว่าใน 88,000 รายชื่อนั้น ถูกนําไปใช้ในการกระทําความผิดแล้วหรือไม่ และเชื่อมโยงกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเพื่อนบ้านหรือไม่ รวมทั้งจะตรวจสอบว่าเป็นบริษัทที่เชื่อมโยงกับ “แก๊งโอริโอ้” ด้วยหรือไม่ เนื่องจากมีการรับสารภาพกับตํารวจว่าซื้อข้อมูลมากจากบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งเพื่อใช้ในการประกาศไล่เช็คบิลคู่อรินอกเกม Five M

ขณะที่ พล.ต.ต.นพศิลป์ ฝากเตือนพี่น้องประชาชนอย่าหลงเชื่อการหลอกลวงให้เล่นเกมต่างๆ บนแอปพลิเคชั่น และเมื่อกรอกข้อมูลส่วนบุคลไป อาจถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์นำไปใช้หลอกลวง และเสียทรัพย์สินได้

เบื้องต้นจึงนำตัว MR.ZHANG HONGXIANG ดำเนินคดีในข้อหา “เป็นบุคคลต่างอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุดลง” และ“ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” ส่วนพนักงานทั้ง 12 ราย อาจถูกดำเนินคดีข้อหา จัดให้มีการเล่นการพนันออนไลน์โดยผิดกฎหมาย ส่งพนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป





ที่มา : MgrOnline