* ไต้หวันกำลังพิจารณาซื้ออาวุธจากสหรัฐฯ มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ * การซื้ออาวุธครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อให้ได้การสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ ต่อไป * จีนสร้างแรงกดดันต่อไต้หวันอย่างหนัก * ไต้หวันหวังใช้การซื้ออาวุธเพื่อรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับสหรัฐฯ
ไต้หวันกำลังพิจารณาสั่งซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์จากสหรัฐฯ ตามข้อมูลจากแหล่งข่าว ซึ่งระบุว่าไทเปหวังใช้วิธีนี้ซื้อใจรัฐบาลประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ให้มอบการสนับสนุนช่วยเหลือต่อไปท่ามกลางแรงกดดันข่มขู่จากจีน

แหล่งข่าวไม่ประสงค์ออกนาม 3 คนให้ข้อมูลกับรอยเตอร์ว่า ไต้หวันอยู่ระหว่างเจรจากับสหรัฐฯ เรื่องการซื้อขายอาวุธจริง 

หนึ่งในนั้นระบุว่า การสั่งซื้ออาวุธล็อตนี้มุ่งแสดงให้สหรัฐฯ เห็นว่าไต้หวันมีเจตนารมณ์มุ่งมั่นที่จะป้องกันตนเอง ขณะที่แหล่งข่าวรายที่ 2 ชี้ว่าแพกเกจนี้จะครอบคลุมขีปนาวุธร่อนป้องกันชายฝั่ง และจรวด HIMARS

"ผมจะประหลาดใจหากมูลค่าของมันต่ำกว่า 8,000 ล้านดอลลาร์ ผมเชื่อว่ามันน่าจะอยู่ที่ระหว่าง 7,000-10,000 ล้าน" แหล่งข่าวระบุ

ทำเนียบขาวยังไม่ออกมาตอบข้อซักถามของรอยเตอร์ในประเด็นนี้ ทว่า ไมค์ วอลซ์ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ เคยออกมาพูดว่าต้องการเร่งรัดจัดส่งอาวุธให้กับไต้หวัน

กระทรวงกลาโหมไต้หวันก็ยังปฏิเสธที่จะตอบคำถามสื่อในประเด็นนี้เช่นกัน แต่ยืนยันว่ารัฐบาลไทเปมุ่งมั่นที่จะเสริมเขี้ยวเล็บเพื่อปกป้องตนเอง

"ระบบอาวุธและเครื่องไม้เครื่องมืออะไรก็ตามที่จะช่วยให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการยกระดับความเข้มแข็งของกองทัพ ก็ล้วนแต่อยู่ในการพิจารณาทั้งสิ้น" กระทรวงระบุ

จีนอ้างว่าเกาะไต้หวันซึ่งปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของตนเอง และไม่ปฏิเสธการใช้กำลังทหารเข้ายึดครองเกาะแห่งนี้หากจำเป็น ขณะที่ไทเปคัดค้านการอ้างอธิปไตยของจีนอย่างแข็งขันมาโดยตลอด และย้ำว่าอนาคตของไต้หวันมีเพียงประชาชนไต้หวันเท่านั้นที่จะตัดสินใจได้

ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เคยสร้างความกังวลต่อไต้หวันในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง โดยกล่าวหาว่าไต้หวันขโมยธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ไปจากชาวอเมริกัน และยังขู่ในเดือนนี้ว่าจะรีดภาษีชิปนำเข้าด้วย

กระนั้นก็ตาม รัฐบาล ทรัมป์ ยังคงรักษาจุดยืนในการสนับสนุนไต้หวันให้สามารถต่อกรกับจีนได้

ทรัมป์ และนายกรัฐมนตรี ชิเงรุ อิชิบะ แห่ง ญี่ปุ่นได้ออกคำแถลงร่วมที่วอชิงตันเมื่อวันที่ 7 ก.พ. โดยระบุว่าคัดค้านความพยายามเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ในช่องแคบไต้หวันด้วยกำลังทหารหรือการข่มขู่ใดๆ นอกจากนี้กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยังได้ถอดข้อความบนเว็บไซต์ที่ระบุว่าสหรัฐฯ "ไม่สนับสนุนเอกราชไต้หวัน" ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่เรียกเสียงชื่นชมยินดีจากไทเป ขณะที่จีนออกมาเตือนสหรัฐฯ ให้เร่ง "แก้ไขการกระทำอันผิดพลาด" นี้

ที่มา : รอยเตอร์

ที่มา : MgrOnline