ชง กพช.ออกมติแก้ต้นทุนค่าไฟฟ้าใหม่กลุ่ม SPP และ VSPP ที่ได้รับ Adder-Fit หวังลดค่าไฟลง 17 สต.

เผยแพร่ : 17 ก.พ. 2568 15:02:44

กกพ.ชง กพช.ออกมติแก้ต้นทุนไฟฟ้าใหม่กลุ่มโรงไฟฟ้า SPP-VSPP ที่ได้รับการสนับสนุน Adder และ FiT ต้องสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงเพื่อสร้างความเป็นธรรมทางสังคม คาดช่วยลดค่าไฟลง 17 สตางค์ต่อหน่วย มั่นใจทำได้โดยเน้นเจรจาโครงการที่คืนทุนแล้ว

นายวรวิทย์ ศรีอนันต์รักษา กรรมการคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า ในการประชุม กกพ. ครั้งที่ 2/2568 เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2568 กกพ. มีมติให้สำนักงาน กกพ. นำเสนอทางเลือกให้ภาคนโยบายทบทวนและปรับปรุงเงื่อนไขการสนับสนุนทั้งในรูปแบบส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า (Adder) และ Feed in Tariff (FiT) ผ่านการอุดหนุนราคารับซื้อไฟฟ้าในกลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) และกลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก (VSPP) เพื่อให้การอุดหนุน Adder และ Feed in Tariff (FiT) สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ซึ่งมีผลทำให้ค่าไฟสามารถปรับลดลงได้ทันทีประมาณ 17 สตางค์ต่อหน่วยนั้น

ทาง กกพ.ยืนยันว่าสามารถทำได้ เพราะตามมาตรา 65 (1) กำหนดว่า ภายใต้นโยบายและแนวทางที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ให้ความเห็นชอบให้คณะกรรมการกำหนดหลักเกณฑ์การกำหนดอัตราค่าบริการของผู้รับใบอนุญาตแต่ละประเภท ควรสะท้อนถึงต้นทุนที่แท้จริงและคำนึงถึงผลตอบแทนที่เหมาะสมของการลงทุนของการประกอบกิจการพลังงานที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งในส่วนของค่าไฟฟ้าที่ กกพ.พิจารณาจะมีค่าใช้จ่ายตามนโยบายรัฐ (Policy Expense) ก่อนหน้านี้คือมาตรการส่งเสริมพลังงานสะอาดที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติทำไว้ 4 เรื่อง ประกอบด้วย 1. กำหนดปริมาณ 2. กำหนดราคา 3. กำหนดประเภทเชื้อเพลิง และ 4. วิธีการจัดหา เมื่อมีการจัดหาแล้วมีประเด็นเรื่องค่าไฟฟ้าเกิดขึ้น จึงเข้าตามมาตรา 11 (4) ที่ให้คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่ กำหนดระเบียบและหลักเกณฑ์ในการจัดหาไฟฟ้าและออกประกาศเชิญชวนการรับซื้อไฟฟ้า

ส่วนประเด็นการแก้สัญญาซื้อขายไฟฟ้าคงแก้ไม่ได้ แต่สามารถที่จะเจรจาเรื่องราคาค่าไฟฟ้าได้ ถ้า กพช. มีมติให้แก้ต้นทุนค่าไฟฟ้าใหม่แล้ว สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง เพราะเมื่อ Adder และ FiT หมดแล้ว ยังขายไฟได้ในราคาขายส่งที่ 3.29 บาทต่อหน่วย บวกค่า Ft ซึ่งถือว่ายังสูงกว่าค่าไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเฉลี่ยที่ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงาน (สนพ.) คำนวณได้ ประมาณ 2.16 บาทต่อหน่วย ในขณะที่บางโครงการยังต้องซื้อไฟฟ้า 11 บาทต่อหน่วยต่อไป

ดังนั้น หากผู้ประกอบการรายใดที่ไม่เข้าตามมาตรา 65 (1) และผู้ประกอบการที่คืนทุนแล้ว จะมีการขอปรับลดราคาค่าไฟฟ้า ซึ่งต้องให้ กพช.มีมติตรงนี้ออกมา กกพ. พร้อมจะดำเนินการตามมตินั้น แม้ว่าจะใช้เวลานานแค่ไหนในการเจรจา เพราะ “เป็นสัญญาที่ไม่เป็นธรรม” โดยจะพิจารณาสัญญาแต่ละราย เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ควรจะทำ กกพ.ต้องการปรับสมดุลของค่าไฟฟ้า ซึ่งจะไม่ทำให้ผู้ประกอบการต้องเสียหาย และผู้ใช้ไฟฟ้าต้องไม่ซื้อไฟฟ้าในราคาเกินจริง

กกพ.ต้องทำหน้าที่ดำเนินการในการเสนอความเห็นต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ตามมาตรา 11 (12) โดยขอให้ฝ่ายนโยบายจัดการกับต้นทุนค่าไฟฟ้าในส่วนค่าใช้จ่ายตามนโยบายรัฐ (Policy Expense) อันประกอบด้วย โครงการ Adder และ Feed in Tariff (FiT) ซึ่งมีต้นทุนการรับซื้อไฟฟ้าสูงกว่าราคาต้นทุนจริงในภาวะปัจจุบัน และโครงการผลิตไฟฟ้าแบบ Adder เหล่านี้ไม่มีวันสิ้นสุดสัญญา เป็นเหตุให้ประชาชนต้องแบกรับภาระค่าไฟฟ้าโดยไม่จำเป็น

ที่มา : MgrOnline