ศาลเบิกตัวไต่สวนประกันเมีย"ทนายตั้ม" ทนายอาคม" เผยยื่นประกันแค่คนเดียว
เผยแพร่ : 29 พ.ย. 2567 10:07:03
• ประกันตัวเฉพาะเดือน (ภรรยาของทนายตั้ม)
• เดือน ไม่ใช่ทนายความของทนายตั้ม
• ศาลนัดฟังคำสั่งบ่าย 2 โมง
ทนายอาคม ยื่นหลักทรัพย์ 5 แสนบาท ขอให้ศาลอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว "เดือน" เมียทนายตั้ม เผยยื่นประกันแค่เดือนคนเดียว ไม่ได้เป็นทนายความให้"ทนายตั้ม" ภายหลังไต่สวนเสร็จ ศาลจึงนัดฟังคำสั่งบ่าย 2 โมง
วันนี้ (29 พ.ย.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายอาคม คงสวัสดิ์ ทนายความ เดินทางมายื่นคำร้องขอประกันตัว นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด หรือ "เดือน" ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฉ้อโกงและฟอกเงิน ภรรยาของ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม
นายอาคม ทนายความ กล่าวว่า ภายหลังจากที่ตนเคยยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์จำนวน 500,000 บาท ขอปล่อยชั่วคราว นางปทิตตา และขอให้ศาลไต่สวนคำร้อง ขอปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาในวันนี้ ศาลจึงมีคำสั่งให้เบิกตัวนางปทิตตา จากทัณฑสถานหญิงกลาง มายังศาลอาญาเพื่อรับฟังการไต่สวน
อย่างไรก็ตาม นายอาคม กล่าวว่า ตนเป็นทนายความให้นางปทิตตาเพียงคนเดียว โดยปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นทนายความให้นายษิทราแต่อย่างใด
ต่อมา ที่ห้องพิจารณาคดี 809 ศาลอาญา เมื่อเวลา 10.00 น. ศาลได้เบิกตัวนางปทิตตาจาก ทัณฑสถานหญิงกลาง มาเบิกความเป็นพยาน 1 ปาก ในขณะที่พนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. ผู้คัดค้าน เข้าเบิกความ 1 ปาก
ซึ่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. ผู้คัดค้านเข้าเบิกความว่า ขอคัดค้านการปล่อยชั่วคราว นางปทิตตา ผู้ต้องหาที่ 2 ตามคำร้องฝากขังครั้งที่ 1 โดยมีเหตุผล 8 ข้อ คดีนี้มี น.ส.จตุพรหรือเจ๊อ้อย อุบลเลิศ ผู้เสียหาย เป็นผู้คัดค้านด้วย จากการสืบสวนพบว่าเมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2567 นายษิทรา ผู้ต้องหาที่ 1 ไปพบพยานเป็นอดีตคนขับรถของผู้ต้องหาที่ 1 นัดพบกันเพื่อขอให้ลบการพูดคุยกันผ่านไลน์ ที่พยานได้ติดต่อกับตัวผู้ต้องหาที่ 1 ในขณะที่ผู้ต้องหาที่ 2 สั่งห้ามไม่ให้พยานไปติดต่อกับทางผู้เสียหาย พนักงานสอบสวนเห็นว่าเป็นการยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน แต่หลังจากถูกจับกุมยังไม่พบพฤติการณ์การยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานขึ้นอีก ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังต้องทำการสอบสวนพยานแวดล้อมเพิ่มเติม ในส่วนของตัวผู้เสียหายได้ทำการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้วขณะนี้ผู้เสียหายเดินทางกลับไปที่ประเทศฝรั่งเศส ทั้งนี้จะครบฝากขังครั้งที่ 3 ไม่แน่ว่าการสอบสวนจะแล้วเสร็จหรือไม่ ถึงขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม จากการสืบสวนเบื้องต้นยังพบว่า ผู้ต้องหาที่ 1 นำเงินจำนวน 18 ล้าน มาทำการตกแต่งบ้านพักของผู้ต้องหาที่ 2
พยานผู้คัดค้าน ตอบคำถามทนายผู้ต้องหาที่ 2 ถามค้านว่า พนักงานสอบสวนยังอยู่ระหว่างการสอบสวนเรื่องเงินที่ผู้ต้องหาที่ 1 นำไปชำระค่าซื้อบ้านและที่ดินของผู้ต้องหาที่ 2 ว่า ผู้ต้องหาที่ 2 มีส่วนรู้เห็นหรือไม่ ส่วนเรื่องเงินตกแต่งบ้าน 18 ล้านบาท ที่ผู้ต้องหาที่ 1 นำมาตกแต่งบ้านยังอยู่ระหว่างการสอบสวนเช่นกันว่า ผู้ต้องหาที่ 2 มีส่วนรู้เห็นหรือไม่
ต่อมานางปทิตตา เมีย"ทนายตั้ม" ผู้ต้องหาที่ 2 เบิกความขอปล่อยชั่วคราว ว่า ตนพักอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 289/16 ถ.บางเชือกหนัง เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ ได้จดทะเบียนสมรสเป็นสามีภรรยากับผู้ต้องหาที่ 1 มากว่า 10 ปี โดยมีบ้านพักอาศัยอยู่ที่จ.สมุทรสาครอีก 2 หลัง เคยเปิดเป็นสำนักงานกฎหมายให้กับผู้ต้องหาที่ 1 เป็นที่แรก โดยบ้านทั้ง 2 หลังเป็นชื่อของตน ตนมีหนังสือเดินทางเล่มเดียวและไม่มีที่อยู่ยังต่างประเทศ ป่วยเป็นโรคประจำตัวได้แก่ โรคแพนิค และไมเกรน โดยระหว่างเบิกความนางปทิตตาได้ร่ำไห้ เมื่อเบิกความถึงลูก ที่ไม่ได้เจอหน้าตั้งแต่ถูกจับกุม โดยผู้ต้องหาที่ 2 พร้อมเพิ่มหลักทรัพย์เป็น 1 ล้านบาทเท่ากับหลักทรัพย์ที่ น.ส.ปิณฑิรา หรือดาว การิวัลย์ พี่สาว ที่ได้รับการปล่อยชั่วคราวไปก่อนหน้านี้ และพร้อมปฏิบัติตามเงื่อนไขตามที่ศาลกำหนด
ภายหลังการเบิกความเสร็จสิ้น ศาลจึงนัดฟังคำสั่งว่าจะอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวหรือไม่ ในเวลา 14.00 น. ช่วงบ่ายวันนี้
ที่มา : MgrOnline