คาดเคลมพุ่งดันปรับเบี้ยEV วิริยะโชว์เบี้ยรถยนต์แตะ3หมื่นล้าน

เผยแพร่ : 29 พ.ย. 2567 08:22:35
X
• เบี้ยประกันต่ออายุโตถึง 80% สวนทางยอดขายรถใหม่
• ยอดจดทะเบียนรถใหม่ปีนี้ลดลงเหลือ 6 แสนคัน สะท้อนกำลังซื้ออ่อนแอ
• ยอดขายรถกระบะลดลงอย่างมาก
• ผู้บริโภคยังลังเลในการเลือกซื้อรถยนต์ EV หรือ รถยนต์สันดาป
• คาดการณ์เบี้ยประกันรถยนต์ปีหน้าอาจไม่ปรับขึ้น

วิริยะโชว์เบี้ยประกันรถยนต์โต2% แตะ3หมื่นล้านบาทรับเบี้ยต่ออายุโต 80% สวนทางตลาดรถใหม่ป้ายแดงวูบ ยอดจดทะเบียนแค่ 6 แสนคัน ระบุกำลังซื้อหด กลุ่มรถกระบะหายอื้อ แถมคนไทยยังลังเลเลือกรถอีวีหรือสันดาปดี คาดปีหน้าเบี้ยรถยนต์อาจไม่ปรับเหตุอัตรเคลมไม่สูงเกิน ส่วนอีวีจ่อขยับรับเคลมพุ่ง พร้อมโชว์เคลมทันใจหนุนเบี้ยต่ออายุโต

นายสยม โรหิตเสถียร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมการรับประกันภัยรถยนต์ในปีนี้อาจมีการเติบโตไม่มากนัก เนื่องจากตลาดรถยนต์ใหม่ไม่เป็นไปตามคาดการณ์ โดยมีรถยนต์ใหม่ป้ายแดงจดทะเบียนในปีนี้เพียง6แสนคันจากเดิมที่คาดว่าจะสูงถึง 8 แสนถึง 1 ล้านคัน ซึ่งจะส่งผลกระต่อการเติบโตของเบี้ยประกันภัย อย่างไรก็ตามในส่วนของบริษัทยังคงสามารถรักษาการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรถยนต์ได้ประมาณ 2% คิดเป็นเบี้ยรับที่ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นเบี้ยประกันภัยรถยนต์สันดาป 95% ส่วนอีกประมาณ 5% หรือกว่า 1 พันล้านบาทเป็นเบี้ยประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าหรือEV

“ในปีนี้คนออกรถใหม่ประสบปัญหา2เรื่องคือ1.กำลังซื้อ และ2.การตัดสินใจ ซึ่งเรื่องกำลังซื้อที่เห็นชัดเจนเลยคือในส่วนขอรถกระบะที่หายไป ส่วนเรื่องการตัดสินใจจะเป็นช่วยของผู้ซื้อที่ยังลังเลว่าจะหันมาใช้รถอีวี หรือเครื่องยนต์สันดาปแบบเดิมดี โดยทั้ง2เรื่องนี้ทำให้เบี้ยต่ำกว่าเป้าที่วางไว้เล็กน้อย แต่เราก็ยังสามารถเติบโตได้จากเบี้ยต่อายุที่เพิ่มมาอยู่ที่ 80% จากเดิมที่เคยอยู่ประมาณ 60-70%”

ส่วนแนวโน้มเบี้ยประกันภัยรถยนต์ในปีหน้า คาดว่าภาพรวมทั้งระบบยังไม่มีการปรับขึ้น ซึ่งในส่วนของวิริยะเองยังไม่มีแผนที่จะปรับขึ้นเช่นกัน เนื่องจากยังสามารถควบคุมอัตราเคลม หรือ Loss Ratio ได้ระดับ 56% ซึ่งหากจะมีการปรับเบี้ยจะต้องมาดูเรื่องอัตราการเคลมว่าเกินกว่า 60% หรือไม่ค่อยพิจารณากันอีกที

อย่างไรก็ตามในส่วนของรถอีวีอัตราการเคลมสูงถึง 70-80% ซึ่งบริษัทยืนยันว่ายังคงรับประภันภัยรถอีวีและไม่มีการปฏิเสธเนื่องจากคู่ค้าของบริษัทยังเป็นกลุ่มเดิมเพียงแต่อาจมีการหันมาขายรถยนต์ประเภทนี้มากขึ้นเท่านั้น
“เบี้ยจะขึ้นไหมต้องไปดูที่Loss Ratio ซึ่งมันไม่ควรสูงมากกว่าที่ควรจะเป็น แต่ไม่ใช่จะไปปรับหมดก็ต้องดูว่าเป็นประเภทอะไร ที่ผ่านมาเราไม่เคยปฏิเสธรับประกันรถอีวี ยังคงรับ แต่เราก็จะคิดดูว่าอัตราเคลมมันเป็นยังไง ที่ผ่านมาเราอาจจะทำเบี้ยให้สูงกว่าปกติบ้าง แต่เมื่อต่ออายุก็ต้องดูว่าการเคลมเป็นยัง”

เคลมสินไหมทันใจหนุนเบี้ยต่ออายุพุ่ง
นายสยม กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาอัตราการต่ออายุของบริษัทเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากการให้บริการเคลมที่รวดเร็ว โดยเรามีศูนย์รับเรื่องกว่า 90 แห่งและมีจุดกระจายรอการตรวจสอบอีกเป็นจำนวนมาก และพนักงานเคลมของบริษัทจะสามารถไปถึงที่เกิดเหตุได้รวดเร็วเนื่องจากบริษัทมีระบบติดตัวตามระบุตำแหน่งของพนักงาน ซึ่งสามารถติดต่อให้พนักงานที่อยู่ใกล้ที่สุดสามารถไปถึงที่เกิดเหตุได้อย่างรวดเร็ว

สถิติการเคลมอุบัติเหตุในช่วงที่ผ่านมาของปี 2567 เพิ่มขึ้นประมาณ 6% รวมทั้งหมดประมาณ 6 แสนครั้ง แบ่งเป็นการเคลมที่มีคู่กรณี 2 แสนครั้ง และเป็นการเคลมที่ไม่มีคู่กรณี 4 แสนครั้ง เป็นยอดเงินกว่า 1 หมื่นล้านบาท

“งานเคลมของเราใช้เวลาลดลงลูกค้าก็อุ่นใจมากขึ้น คนหันมาใส่ใจการประกันภัยมากขึ้น ซึ่งไม่ว่าจะน้ำท่วมหรืออุบัติเหตุเราใช้เวลาไม่มาก เช่นเชียงใหม่ เชียงรายไม่กี่วันเราก็สามารถตั้งศูนย์เคลมให้แก่ลูกค้าได้ อุบัติเหตุรถบัสนักเรียนเราเร่งทำงานจนสามารถจ่ายสินไหม15ล้านบาทได้ภายใน 3 วันจากเหตุเกิดวันที่ 1 วันที่ 4เราก็จ่ายได้เลย น้ำท่วมที่ภาคเหนือรถยนต์เสียหายที่ทำประกันกับเรา 1,200 คันเราก็สามารถจัดการได้รวดเร็วเช่นกัน”

ที่มา : MgrOnline