DSIบุกค้นโรงหมูรายใหญ่ภาคเหนือเชื่อมโยงเครือข่ายหมูเถื่อนข้ามชาติสำแดงเท็จเลี่ยงภาษีกว่า100ล้าน
เผยแพร่ : 28 พ.ย. 2567 16:34:55
• ขยายผลจากการสืบสวนเส้นทางการเงินเครือข่ายหมูเถื่อนข้ามชาติ
• พบหลักฐานรับหมูเถื่อนอย่างน้อย 15 ตู้คอนเทนเนอร์
• มีการสำแดงเท็จเพื่อหลบเลี่ยงภาษี
เชียงใหม่ - DSI เปิดปฏิบัติการ “หมูเถื่อน บ่ลำ” ขยายผลตรวจค้นโกดังหมูสดรายใหญ่ภาคเหนือที่จังหวัดเชียงใหม่ หลังพบเส้นทางการเงินเชื่อมโยงเครือข่ายหมูเถื่อนข้ามชาติ เบื้องต้นมีข้อมูลยืนยันรับหมูเถื่อน 15 ตู้คอนเทนเนอร์ สำแดงเท็จหลบเลี่ยงภาษีกว่า 100 ล้านบาท มาชำแหละและส่งกลับต้นทางภาคกลาง ขณะเดียวกันในการเข้าตรวจค้นเป้าหมายยังพบเป็นฐานใหญ่เว็บพนันออนไลน์อีกด้วย
วันนี้( 28 พ.ย.67) เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เปิดปฎิบัติการ “หมูเถื่อน บ่ลำ” โดย พ.ต.ต.ณฐพล ศิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ดีเอสไอ พร้อมเจ้าหน้าที่ นำหมายค้นศาล จ.เชียงใหม่ เข้าตรวจค้นเป้าหมาย 4 จุดในพื้นที่ อ.สารภี อ.สันทราย อ.จอมทอง และ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ เพื่อค้นหาหลักฐานการสำแดงการนำเข้าเท็จ และสอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง หลังจากดีเอสไอ ตรวจพบเนื้อหมูเถื่อน 15 ตู้คอนเทนเนอร์ ถูกขนมาไว้ที่เชียงใหม่ โดยจุดแรกที่ พ.ต.ต.ณฐพล เข้าตรวจค้นคือ บริษัทเอกชนที่รับจ้างชำแหละเนื้อหมู ซึ่งจุดนี้มีข้อมูลว่า ได้รับเนื้อหมูจากตู้คอนเทนเนอร์ที่สำแดงเท็จว่าเป็นปลา มาชำแหละก่อนส่งต่อไปยังกรุงเทพ และพื้นที่ภาคกลาง ส่วนอีกจุดที่เป็นสำนักงานใหญ่พบเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าเนื้อหมูเถื่อนที่สำแดงเท็จว่าเป็นเนื้อปลา ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เก็บหลักฐานทั้งหมดไว้ตรวจสอบ
ทั้งนี้ พ.ต.ต.ณฐพล ศิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ดีเอสไอ เปิดเผยว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจค้นเป้าหมายทั้งหมด 4 จุด โดย 2 จุดเป็นเป้าหมายใหญ่ จุดแรกเป็นห้องเย็นที่รับชำแหละและตัดแต่งก่อนส่งกลับไปขายในพื้นที่กรุงเทพ ปริมณฑล และภาคกลาง ส่วนจุดที่สองเป็นสำนักงานใหญ่ จากการตรวจค้นพบเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าหมูที่สำแดงเท็จเข้ามาในประเทศไทยจำนวนมาก นอกจาก จ.เชียงใหม่ ดีเอสไอยังลงพื้นที่ตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายในพื้นที่ภาคกลาง และภาคตะวันออก ด้วย ซึ่งเนื้อหมูเถื่อนที่นำเข้ามา มีทั้ง สามชั้น สันคอ ราวนมหมู และเครื่องใน ทั้งหมดสำแดงเท็จว่าเป็นหัวปลาและเนื้อปลาแซลม่อน นำเข้าจากประเทศเยอรมัน และบราซิล แต่ข้อเท็จจริงประเทศเหล่านี้ไม่มีการส่งออกปลาแซลม่อน เบื้องต้นดีเอสไอ จะส่งเจ้าหน้าที่เดินทางไปยังอเมริกาใต้ ซึ่งเป็นต้นทางที่มีการสำแดงเท็จที่ เพื่อตรวจสอบใบอินวอย
สำหรับการตรวจค้นครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อปี 2566 ดีเอสไอได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ซึ่งให้บริษัทชิปปิ้งนำเข้าเนื้อหมูเถื่อน กว่า 200 ตู้คอนเทนเนอร์ รวมกว่า25,000 กิโลกรัม โดยสำแดงว่าเป็นปลาเพื่อไม่ต้องเสียภาษี และได้ระบุว่าฝากไว้ที่ห้องเย็นแห่งหนึ่งที่ จ.สมุทรสาคร แต่จากการตรวจสอบไม่พบเนื้อปลาดังกล่าว และบริษัทห้องเย็นยืนยันไม่ได้รับฝากตามที่กล่าวอ้าง เจ้าหน้าที่จึงย้อนไปตรวจสอบรายการสินค้าต้นทางที่ท่าเทียบเรือแหลมฉบัง จึงพบมีการขนเนื้อหมูเถื่อนจำนวน 15 ตูคอนเทนเนอร์ ไปภาคเหนือ หากรวมภาษีและค่าปรับ มีมูลค่าความเสียหายกว่า 127 ล้านบาท ดีเอสไอได้สอบสวนบริษัทขนส่งพบว่าเนื้อหมูเถื่อนทั้งหมดถูกนำมาเก็บไว้ในห้องเย็นแห่งหนึ่งในหลายพื้นที่ของ จ.เชียงใหม่ เมื่อตรวจสอบเส้นทางการเงิน ก็พบมีการโอนเงินระหว่างบริษัทที่สำแดงเท็จกับบริษัทห้องเย็นถึง 24 ล้านบาท จึงนำมาสู่การขออนุมัติหมายค้นเพื่อเข้าตรวจค้นและหาหลักฐานการกระทำผิดในจุดที่ต้องสงสัยวันนี้
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า นอกจากคดีหมูเถื่อนแล้ว จากการปฏิบัติการครั้งนี้ยังเป็นการทลายเครือข่ายพนันออนไลน์รายใหญ่ในคราวเดียวกันด้วย เนื่องจากพบว่า 2 ใน 4 เป้าหมายที่เข้าค้นกลายเป็นรังใหญ่ของกลุ่มเว็บพนันออนไลน์ และคอลเซ็นเตอร์ ที่เปิดมานานกว่า 1 ปีแล้ว โดยพบว่ามีพนักงานและแม่บ้านประจำรวม 14 คน พร้อมคอมพิวเตอร์กว่า 20 เครื่อง และซิมการ์ดโทรศัพท์นับหมื่นซิม
ที่มา : MgrOnline