“ดีเอสไอ-PDPC” ทลายเครือข่ายเว็บไซต์ลามกอนาจารเด็ก เก็บค่าสมาชิกเข้ากลุ่มลับ
เผยแพร่ : 28 พ.ย. 2567 11:56:52
• ดีเอสไอ ร่วมมือกับ PDPC (สำนักงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล)
• ปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมออนไลน์ "VIP กรุ๊ป"
• แก๊งดังกล่าวแชร์คลิปลามกอนาจารเด็ก
• มีการซื้อขายคลิปผ่านโซเชียลมีเดีย
• การจับกุมครั้งนี้เน้นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน เพื่อปกป้องคุ้มครองเด็ก
MGR Online - ดีเอสไอ จับมือ PDPC บูรณาการร่วมเครือข่ายปกป้องคุ้มครองเด็ก ทลายองค์กรอาชญากรรม VIP กรุ๊ป แชร์คลิปลามก-อนาจาร ซื้อ-ขายสะพัดโซเชียล
วันนี้ (28 พ.ย.) เวลา 09.00 น. ห้องรับรอง ชั้น 2 อาคารเอ ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ ร.ต.อ.เขมชาติ ประกายหงษ์มณี ผู้อำนวยการกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุรพงศ์ เปล่งขำ ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบและกำกับดูแล และ นายธีรนิติ จันทร์ประวิตร ผู้ช่วยโฆษกดีเอสไอ ร่วมแถลงข่าว ดีเอสไอ จับมือ PDPC บูรณาการร่วมเครือข่ายปกป้องคุ้มครองเด็ก ทลายองค์กรอาชญากรรม ขบวนการผลิต เผยแพร่ และส่งต่อภาพ คลิปวีดีโอลามกผ่าน Website และ Telegram
นายธีรนิติ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว กองปฏิบัติการพิเศษ ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPC) สนธิกำลังร่วมกับ ลิฟท์อินเตอร์เนชั่นแนล (LIFT INTERNATIONAL) องค์การโอเปอร์เรชั่น อันเดอร์กราวน์ เรลโรด (OUR Rescue) มูลนิธิไซเอนเทียโปรแกรม (The Scientia Program) และมูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย (ThaiHotline) ลงพื้นที่ 4 จุด ใน 3 จังหวัด คือ กาญจนบุรี, ราชบุรี และ ตรัง เพื่อจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับและตรวจค้นขบวนการผลิต เผยแพร่ และส่งต่อภาพ คลิปวิดีโอลามกผ่าน Website และ Telegram ในคดีพิเศษที่ 37/2567
ด้าน ร.ต.อ.เขมชาติ ระบุว่า การตรวจค้นจับกุมครั้งนี้ ได้สืบสวนติดตามกลุ่มผู้กระทำผิดโดยใช้เว็บไซต์ www.asianclip.xyz, Telegram ชื่อ Asinclip ซึ่งมีพฤติการณ์โฆษณาจำหน่ายสื่อลามกอนาจาร โดยมีการโฆษณาเชิญชวนให้สมัครเข้ากลุ่ม Telegram และมีการใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวโดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้สำหรับตนเองหรือผู้อื่น คือ จงใจแจ้งให้สมาชิกที่จ่ายค่าบริการเข้ารับชมทราบว่าบุคคลในภาพหรือคลิปวีดีโอ เป็นใคร ใช้ชีวิตประจำวันประกอบอาชีพอะไร หรือทำการศึกษาอยู่ในสถานศึกษาใด ซึ่งเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 ส่งผลให้มีผู้เสียหายถูกคุมคาม และได้รับความอับอาย
ร.ต.อ.เขมชาติ เผยว่า ซึ่งการใช้ Telegram ตั้งกลุ่มแยกตามประเภทวีดีโอลามกอนาจาร เช่น กลุ่มคลิปโป๊ กลุ่มแอบถ่ายในห้องน้ำ กลุ่มแอบถ่ายใต้กระโปรง กลุ่มแอบถ่ายใต้กระโปรงนักเรียนไทย กลุ่มแอบถ่ายใต้กระโปรงเน็ตไอดอล กลุ่มแอบถ่ายใต้กระโปรงดารา และห้องพิเศษ VIP เป็นต้น โดยเรียกเก็บค่าสมาชิกในราคาตั้งแต่ 300-1,000 บาทต่อเดือน สร้างรายได้มากกว่า 100,000 บาทต่อเดือน และพบว่ามีสมาชิกมากกว่า 20,000 ราย มีไฟล์ภาพกว่า 20,000 ภาพต่อกลุ่ม คลิปวีดีโอรวมทุกกลุ่มแล้ว เกือบ 100,000 คลิป
“ทั้งนี้ สืบสวนพบว่ามีผู้ต้องหาแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ 1. ผู้ที่แอบถ่ายและผู้ที่ล่อลวงเหยื่อ 2. ผู้ผลิตและทำการตลาดรับผลประโยชน์ และ 3. กลุ่มบัญชีม้า ซึ่งปฏิบัติการครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ขอศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหา 4 คน สามารถจับกุมกุมได้ 3 คน แบ่งเป็น จ.ตรัง 1 ราย จับกุม นายธนากร (ขอสงวนนามสกุล) ตามหมายจับศาลอาญาที่ 5503/2557ได้ที่บริเวณบ้านใน อ.เมืองตรัง โดยมีพฤติการณ์ ผู้จัดทำคลิปลามก โดยหลอกลวงผู้เสียหายด้วยการหว่านล้อมพูดคุยให้เหยื่อโชว์ลามก ก่อนจะบันทึกภาพเพื่อเผยแพร่หรือจำหน่าย กระทำผิดในข้อหากระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้”
ร.ต.อ.เขมชาติ เผยอีกว่า ส่วน จ.กาญจนบุรี จับกุม นายธัชพล (ขอสงวนนามสกุล) ตามหมายจับศาลอาญาที่ 5500/2567 ได้ที่บริเวณบ้านใน อ.ท่ามะกา โดยมีพฤติการณ์เป็นแอดมินเว็บไซต์ www.asianclip.xyz, Telegram ชื่อ Asinclip ในการเผยแพร่คลิปวิดีโอลามกอนาจาร และเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ในข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามก เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะลามก ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2560 และใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา
ร.ต.อ.เขมชาติ เผยต่อว่า และ จ.ราชบุรี จับกุม นายทรงวุฒิ (ขอสงวนนามสกุล) ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลอาญาที่ 5502/2567 ได้ที่บริเวณบ้านใน อ.บ้านโป่ง โดยมีพฤติการณ์เป็นผู้ให้ใช้บัญชีธนาคารในการเรียกเก็บค่าสมาชิกในหน้าเว็บไซต์และในกลุ่ม Telegram ในข้อหายินยอมให้บุคคลอื่น ใช้บัญชีเงินฝาก บัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน (บัญชีม้า) ข้อหายินยอมให้บุคคลอื่น ใช้บัญชีเงินฝาก บัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง ตาม พรก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 นอกจากนี้ ยังมีผู้ต้องหาเป็น (บัญชีม้า) หลบหนีไปได้ 1 คน
ดีเอสไอดำเนินการปราบปรามสื่อลามกอนาจารออนไลน์ในเชิงรุก โดยไม่รอให้ผู้เสียหายร้องทุกข์ แต่เริ่มจากการรวบรวมข้อมูลความเสียหาย ใช้เทคโนโลยีสืบสวนแกะรอยผู้กระทำความผิด และบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เน้นการบังคับใช้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) เพื่อสร้างความสงบเรียบร้อยในสังคมและคุ้มครองสิทธิของประชาชน ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่มุ่งนำความยุติธรรมสู่ผู้เสียหายโดยไม่ต้องร้องขอ พร้อมทั้งระงับบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องกับมิจฉาชีพเพื่อป้องกันและช่วยเหลือประชาชนจากการตกเป็นเหยื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ร.ต.อ.เขมชาติ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้สืบสวนมาเป็นเวลา 1 ปี ในการติดตามเครือข่ายนี้ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ร่วมกันดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่ และมีการใช้สุนัข K-9 ชื่อน้องวินเนอร์ ที่มีความเชี่ยวชาญในการค้นหาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จากสหรัฐอเมริกามาร่วมปฎิบัติการด้วย
จากการตรวจสอบพบว่า มีผู้เสียหายจากเครือข่ายนี้ กว่า 2,000 คน จึงประชาสัมพันธ์ถึงผู้เสียหายที่ถูกล่อลวงให้ถ่ายคลิปลามกอนาจาร สามารถมาแจ้งได้ที่ กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคคอล (PDPC) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเพื่อดำเนินการกับผู้กระทำผิด โดยเจ้าหน้าที่จะปกปิดข้อมูลเป็นความลับ
อย่างไรก็ตาม ในประเทศไทยยังมีอีกหลายกลุ่มที่มีลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรมเทคโนโลยี เจ้าหน้าที่กำลังเฝ้าติดตามเพื่อเอาผิดต่อไป
ที่มา : MgrOnline