รู้เลย"จ๊อบ-สามารถ" สำเนาถูกต้อง จาก"ขุ่นแม๊วิลาวัลย์" หมอดู-เจ้าเล่ห์-ช่างพูด! ** “อนุทิน” ส่ง “ทรงศักดิ์” ชนการรถไฟ ปมเขากระโดง อ้างต้องให้ความเป็นธรรมกับประชาชนด้วย
เผยแพร่ : 28 พ.ย. 2567 07:38:51
• นายอนุทิน ชาญวีรกูล ส่งนายทรงศักดิ์ สัตยานุรักษ์ ไปเจรจากับการรถไฟแห่งประเทศไทย กรณีโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (เขากระโดง)
• การเจรจาเน้นให้ความเป็นธรรมกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการ
• มีการเปรียบเทียบกรณีนี้กับ "จ๊อบ-สามารถ" และ "ขุ่นแม๊วิลาวัลย์" โดยระบุว่ามีความคล้ายคลึงกันในแง่ของการใช้กลยุทธ์และการเจรจาที่เจ้าเล่ห์ ช่างพูด
ข่าวปนคน คนปนข่าว
++ รู้เลย"จ๊อบ-สามารถ" สำเนาถูกต้อง จาก"ขุ่นแม๊วิลาวัลย์" หมอดู-เจ้าเล่ห์-ช่างพูด!
"น้อย" วิลาวัลย์ พุทธสัมฤทธิ์ มารดาของ "จ๊อบ" สามารถ เจนชัยจิตรวนิช นาทีนี้ ขึ้นแท่นเป็น "ขุ่นแม๊" ของชาวโซเชียลฯไปเป็นเรียบโร้ย ด้วยลีลาท่าทาง บวกคำพูดคำจาที่ออกสื่ออย่าง "โหนกระแส" ที่ต้องบอกกันว่า “สามารถ”นั้นได้แม่มาเต็มๆ ไม่ได้เหมือนแค่หน้า แต่เหมือนยันนิสัย
ชนิด"สำเนาถูกต้อง"
ขุ่นแม๊ หรือ "แม่น้อย" วิลาวัลย์ ถูกหมายจับในคดีร่วมกันฟอกเงิน และสมคบกันฟอกเงินร่วมกับลูกชายในส่วนที่พัวพันกับคดี "ดิไอคอน" ก่อนได้รับการประกันตัวในเวลาต่อมาเมื่อวันก่อน
ตอนวันที่ถูกจับกุมเธอเขียนจดหมายยื่นให้นักข่าว ทำเอาดีเอสไองงให้พูดให้ชี้แจง แต่แม่สามารถ เลือกที่จะพูดกับสื่อแทน
ตามด้วยหลังได้ประกันตัวก็กล่าวปกป้องลูก ขอโทษแทนถ้าลูกของตนเองได้ล่วงเกินผู้ที่มีอำนาจ ตนในฐานะแม่ ขอเป็นตัวแทนกราบขอขมา ขออโหสิกรรม อย่าได้ถือสาเอาความลูกชายของตนเองเลย อยากให้เขาได้กลับมาเล่นการเมือง เพื่อช่วยประเทศชาติ
มาเคลื่อนไหวล่าสุดออกรายการดัง “โหนกระแส” ก็จัดชุดใหญ่ จนลูกจ๊อบ ที่ยังอยู่ในคุก คงรู้นิสัยผู้เป็นมารดาดี ฝากข้อความผ่านทนายมาถึง เบาได้เบา อย่าออกสื่อเยอะ
“สามารถ” น่าจะประเมินสถานการณ์ได้ ยิ่ง "ม๊า" ขุ่นแม๊พูดมากเท่าไหร่ ยิ่งไม่เป็นผลดี แถมที่กล่าวว่า ทั้งตัวเองและลูกชาย ตกเป็นจำเลยสังคมถูก "การเมืองกลั่นแกล้ง" ขอให้ประชาชนเป็นกำลังใจให้ด้วย นั่นยิ่งกวักมือเรียกทัวร์มาลง
ถามไถ่กันว่า สำเนาถูกต้องคุณแม่ของ “ลูกจ๊อบ” นี้เป็นใคร!?
“วิลาวัลย์” เป็นแม่ลูกสาม มีอาชีพเป็น"หมอดู" ดูกราฟชีวิตให้ผู้คน โดยวิลาวัลย์บอกว่า เรียกให้ไพเราะคือ อาชีพช่วยแก้ปัญหาชีวิตให้คนนั่นเอง
สนนราคาค่าปรึกษาตรวจดวงชะตา แก้ปัญหาชีวิตอยู่ที่ครั้งละ 300 บาท รับทำนายผ่านมือถือ 5 เครื่อง ที่เจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ ยึดมานั่นแหละ
“ขุ่นแม๊วิลาวัลย์” วันทั้งวัน น่าจะมีคนทักเข้ามาปรึกษาเยอะโดยกิจวัตรประจำวันจึงนอนตีสาม ตีสี่ วันที่ถูกจับ ช่วงเช้าตรู่ก็เพิ่งได้นอนไม่กี่ชั่วโมง
ที่ผ่านมายึดอาชีพหมอดูมานานก็ว่า 13 ปี นับจำนวนคนกว่า 6 พันชีวิต ที่ “ขุ่นแม๊” เคลมว่าช่วยให้พ้นทุกข์
นอกจากทำนายดวงชะตาแล้ว “วิลาวัลย์” บอกว่า ตัวเองเป็นคนชอบทำบุญ เป็นคนทำบุญทุกเดือน แล้วจะมีลูกศิษย์ทั้งหมดร่วมด้วยช่วยกัน
ทุกเดือนจะมีรายการทำบุญ เขียนส่งไลน์ส่งให้ลูกศิษย์เพื่อให้ร่วมทำบุญ ซึ่งหนึ่งในคนที่ร่วมทำบุญก็คือ "บอสพอล" ผู้ก่อตั้ง ดิไอคอน
“บอสพอล” ไม่เพียงเป็นผู้ร่วมทำบุญ ขุ่นแม๊ยังบอกด้วยว่า เคยดูดวงให้ แม้จะไม่รู้จักส่วนตัว
ตอนนั้นเคยดูว่า “บอสพอล” จะโดนดาวเสาร์เล่นงาน จะโดนใส่ความ เสียเงินเสียทองก็เป็นอย่างที่ทายเลย ทายโดยผ่าน “สามารถ”ไปบอกอีกที
มาถึงตรงนี้ ด้วยลีลาการตอบคำถามและความพลิ้วไหวในรายการออกโหนกระแส คงได้เห็นกันแล้วว่า “ขุ่นแม๊” ผู้นี้ไม่ธรรมดา
ช่วงหนึ่ง "หนุ่ม-กรรชัย" ยิงคำถามถึงนิสัยของขุ่นแม๊ว่า “เจ้าเลห์หรือไม่” เจ้าตัวตอบทันทีว่า ถ้าไม่เจ้าเล่ห์คงนั่งตรงนี้ไม่ได้ ยอมรับเลย ถ้าไม่เก่งจริงก็คงอยู่ตรงนี้ไม่ได้เหมือนกัน ยอมรับใครว่าพูดเก่ง อย่างนั้นอย่างนี้ ถ้าไม่เก่งจริงก็อยู่ตรงนี้ไม่ได้เหมือนกัน
ทั้งหมดทั้งมวลขมวดเข้าสู่คดีที่ร่วมกับลูกชายสุดที่รัก
ถามว่าเป็นหมอดูเคยตรวจดวงชะตาตัวเองหรือไม่ จะพ้นวิกฤตนี้มั้ย?
“ขุ่นแม๊” มั่นมาก บอกเลยว่า รอดค่ะ รอดแน่นอน
งานนี้จะเป็นไปตามคำทำนายของ”ขุ่นแม๊”หรือไม่ ก็ต้องติดตามกันต่อไป
++ “อนุทิน” ส่ง “ทรงศักดิ์” ชนการรถไฟ ปมเขากระโดง อ้างต้องให้ความเป็นธรรมกับประชาชนด้วย
เรื่องที่ดินเขากระโดงนั้น ศาลมีคำพิพากษาแล้วทั้ง ศาลฎีกา ศาลอุทธรณ์ และศาลปกครองกลาง ว่าที่ดินเขากระโดงเป็นที่ดินของการรถไฟ
การที่ “พรพจน์ เพ็ญพาส” อธิบดีกรมที่ดิน ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ตามมาตรา 61 วรรค 1 ประมวลกฎหมายที่ดิน และออกมาบอกว่า คณะกรรมการฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ “ไม่เพิกถอนโฉนดที่ดิน” จนกว่าการรถไฟจะพิสูจน์แนวเขตกรรมสิทธิ์ที่ดินของการรถไฟได้
ประเด็นนี้ “อัยการอาวุโส” ท่านหนึ่ง ยกข้อกฎหมายที่ระบุไว้ชัดในวรรค 8 มาตรา 61 ของประมวลกฎหมายที่ดิน มาชี้แจงว่า...ในกรณีที่ศาลมีคำพิพากษาอย่างไร ให้อธิบดีกรมที่ดิน หรือเจ้าพนักงานปฏิบัติตามนั้น นั่นคือต้องเพิกถอนโฉนดที่ดินของราษฎร หรือของใครก็ตามออก แล้วเปลี่ยนใหม่เป็นที่ดินของการรถไฟ
การที่อธิบดีกรมที่ดิน ตั้งกรรมการสอบสวน จึงไม่มีอำนาจ และที่อธิบดีกรมที่ดิน ทำไปนั้น อาจจะกำลังปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ!!
ขณะเดียวกัน ปัญหานี้ คณะกรรมาธิการ การที่ดินทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร ได้เชิญ รมว.มหาดไทย อธิบดีกรมที่ดิน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทยมาชี้แจง เพื่อเคลียร์ข้อเคลือบแคลง สงสัย
โดย“อนุทิน ชาญวีรกูล” รมว.มหาดไทย ได้ส่ง “ทรงศักดิ์ ทองศรี” รมช.มหาดไทย นักการเมืองในเครือข่าย “บ้านใหญ่บุรีรัมย์” มาแทน ...นอกจากนั้นก็มี “พรพจน์ เพ็ญพาส” อธิบดีกรมที่ดิน และ “เอก สิทธิเวคิน” รองผู้ว่าฯ รฟท.เข้าชี้แจง
แต่สุดท้ายก็ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ในการที่จะแก้ปัญหาข้อพิพาทนี้ เพราะประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ 5,000 ไร่ ของเขากระโดง ก็มีเอกสารสิทธิ์ ที่ภาครัฐออกให้เช่นกัน
เรื่องนี้ “ทรงศักดิ์ ทองศรี” รมช.มหาดไทย พูดแบบเอาหล่อว่า ก็อยากให้เรื่องนี้มีความชัดเจน เพราะไม่ได้กระทบกับสิทธิของคนๆ เดียว แต่กระทบส่วนราชการก็ด้วย ทั้งการรถไฟ และส่วนของประชาชน ก็รู้สึกเห็นใจประชาชน 900 กว่าราย ที่ได้ครอบครองที่ดินมาโดยชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งหลายคนก็เข้าใจว่าเมื่อศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วที่ดินดังกล่าวควรเป็นของการรถไฟทั้งหมด แต่ตนเห็นว่าจะเป็นที่สุดเฉพาะคู่ความเท่านั้น ส่วนคนอื่นที่ไม่ได้เป็นคู่ความ ก็ต้องมีการพิสูจน์สิทธิ์กัน หากเพิกถอนทั้งหมด ก็จะไม่เป็นธรรมกับประชาชน
เป็นการปกป้อง “บ้านใหญ่บุรีรัมย์” โดยเอาประชาชนมาเป็นโล่
ส่วน “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รมว.คมนาคม ที่ประกาศว่าจะทวงคืนที่ดินของการรถไฟทุกตารางเมตรกลับคืนมา ตอนนี้ก็โยนให้ผู้ว่าฯรฟท. ไปยื่นอุทธรณ์คำสั่งไม่เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ของกรมที่ดินแล้ว ตอนนี้จึงอยู่ระหว่างการรอผลการอุทธรณ์
ส่วนการรถไฟ จะใช้คำพิพากษาศาลฎีกา และศาลปกครอง ฟ้องขับไล่ผู้ครอบครองที่ดิน บริเวณเขากระโดงเลยได้หรือไม่นั้น “สุริยะ” บอกว่า ต้องรอฝ่ายกฎหมายของการรถไฟ สรุปออกมาก่อน ว่าจะทำได้หรือไม่ อย่างไร
ด้าน“วีริศ อัมระปาล” ผู้ว่าฯรฟท. บอกว่าเมื่อการรถไฟ ทำหนังสืออุทธรณ์ไปที่กรมที่ดินแล้ว ก็ต้องรอการพิจารณาในกรอบเวลา 30 วัน และจะมีเวลาอีก 30 วัน ที่ปลัดกระทรวงมหาดไทย ทำหนังสือตอบกลับมาที่ รฟท. รวมแล้วต้องรออีก 60 วัน
หากคำตอบของกรมที่ดิน ยังเหมือนเดิม คือ ไม่เพิกถอนโฉนดที่ดิน ทางรฟท.ก็จะยื่นฟ้องต่อศาลปกครองต่อไป
ส่วนทาง รฟท.จะยื่นฟ้อง อธิบดีกรมที่ดิน ในความผิดตาม มาตรา 157 ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ หรือไม่นั้น คงต้องดูผลการอุทธรณ์ก่อน ว่าออกมาแบบไหน จากนั้นต้องให้ทีมกฎหมาย ตรวจดูให้รอบคอบ เพราะทาง รฟท. ก็กลัวจะโดนฟ้อง มาตรา 157 เหมือนกัน
ส่วนแนวคิดเรื่องการให้เช่านั้น เราก็กำลังให้ทีมกฎหมายศึกษาอยู่ หากผู้ว่าฯ รฟท. มีอำนาจทำได้ ไม่ผิดกฎหมาย ก็จะทำแน่ แต่ตอนนี้ยังไม่ชัดเจน กลับทำไปแล้ว ผิดกฎหมาย ก็จะโดนมาตรา 157 อีก
จึงกลายเป็นว่า ทางคมนาคม และการรถไฟ ก็ยังไม่รู้จะเอายังไงกับกรมที่ดิน
“ณฐพร โตประยูร” อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เห็นฝ่ายการเมืองรวมหัวกันฮุบที่หลวง ก็ทนไม่ไหว จึงได้ยื่นคำร้องต่อป.ป.ช. ให้ดำเนินการไต่สวน “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย และ “ทรงศักดิ์ ทองศรี” รมช.มหาดไทย ที่กำกับดูแลกรมที่ดิน ว่า ฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่ ที่ไม่สั่งการให้กรมที่ดิน เพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดินเขากระโดง ตามคำพิพากษาของศาลฎีกา เพราะทั้งสองมีหน้าที่ดูแลทรัพย์สินของแผ่นดิน ระวางที่ดินทั้งประเทศ ก็อยู่ที่กรมที่ดิน รวมทั้งระวางที่ดินของการรถไฟด้วย
รมว.มหาดไทย และรมช.มหาดไทย ต้องรับรู้ เพียงแต่กรณีนี้ มีการอาศัยอิทธิพลทางการเมืองมาเปลี่ยนแปลง จึงเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เข้าข่ายไม่ปฏิบัติตามาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง
ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า ทั้ง “อนุทิน” และ “ทรงศักดิ์” จะถูกถอดถอน และเจอคดีอาญา จากเรื่องนี้หรือไม่ รวมทั้ง “พรพจน์ เพ็ญพาส” อธิบดีกรมที่ดิน ที่ลุ้นตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทย จะได้รับทุกขลาภ เจอคดีอาญาด้วยอีกคนหรือไม่
ที่มา : MgrOnline