รวบสองผัวเมียวัยโจ๋! ริเป็นแก๊งทวงหนี้ดอกโหด แม่เจ้าอาวาสกู้ 4.6 หมื่นจ่ายไปกว่า 2 แสน ยังข่มขู่ทวงทั้งวันทั้งคืน

เผยแพร่ : 27 พ.ย. 2567 14:18:22
X
• แก๊งดังกล่าวปล่อยกู้ดอกเบี้ยสูงและทวงหนี้แบบข่มขู่
• แม่เจ้าอาวาสเป็นหนึ่งในผู้เสียหาย กู้เงินต้น 46,000 บาท แต่จ่ายดอกเบี้ยไปแล้วกว่า 200,000 บาท
• แม่เจ้าอาวาสเข้าร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม เนื่องจากถูกข่มขู่

บุรีรัมย์- จนท.ฝ่ายปกครองอ.นางรอง รวบสองผัวเมียวัย 20 ริเป็นแก๊งทวงหนี้ และแอบปล่อยกู้เองดอกสุดโหด หลังแม่เจ้าอาวาสหนึ่งในลูกหนี้เข้าร้องศูนย์ดำรงธรรม เพราะทนไม่ไหวทั้งที่ยอดเงินต้นสะสม 46,000 บาทจ่ายไปแล้วกว่า 2 แสน ยังถูกตามทวงกดดันข่มขู่ทั้งกลางวันกลางคืนจนหวาดกลัว วันไหนหาเงินจ่ายไม่ได้ถูกบังคับให้เอาของมีค่าในบ้านมาให้แทน

วันนี้ (27 พ.ย.67) นางรัชนีกร สวัสดิ์พูน ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มบริหารงานปกครอง รักษาการนายอำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ได้มอบหมายให้ นายธนธรณ์พล ไขว้พันธ์ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง และนายจักร์กฤษ ร่วมกูล ปลัดอำเภอฝ่ายศูนย์ดำรงธรรม นายชาญวิทย์ วงศ์สัมพันธุชัย ปลัดอำเภอ นำเจ้าหน้าที่กองร้อย อส.นางรอง ติดตามจับกุมแก๊งทวงหนี้นอกระบบ และนายทุนที่ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด

หลังจากที่นางประภาวัลย์ อายุ 60 ปี (ขอสงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นแม่ของเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในอำเภอนางรอง เข้าร้องขอความช่วยเหลือกับศูนย์ดำรงธรรมอำเภอนางรอง ว่าถูกแก๊งทวงหนี้ข่มขู่บังคับเรียกเก็บดอกเบี้ยสูงกว่าอัตรากฎหมายกำหนด หากวันไหนหาเงินจ่ายไม่ได้ก็จะมากดดันทวงถามทั้งกลางวันกลางคืน และบังคับให้นำทรัพย์สินมีค่ามาให้แทนเพื่อเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน

ป้าประภาวัลย์ บอกว่า เมื่อช่วงเดือนก.พ. ที่ผ่านมา ตนได้กู้เงินกับสองสามีภรรยา ที่มาตระเวนปล่อยกู้ เพื่อนำไปหมุนเวียนใช้จ่ายรวมยอดสะสมจำนวน 46,000 บาท เขาจะเก็บแบบดอกลอย โดยเก็บดอกเบี้ยไปเรื่อยๆ ทุกวัน วันละ 920 บาท จนกว่าจะมีเงินก้อนไปปิดต้นถึงจะหยุดเก็บ ซึ่งตนจ่ายดอกเบี้ยมาตลอดวันละ 920 บาท เป็นระยะเวลา 7 เดือน จากนั้นต้นเดือนตุลาคม 2567 ได้นำเงินก้อนไปจ่ายให้เขา 10,000 บาท เขาบอกว่ายังเหลือยอดอีก 36,000 บาท ทั้งที่ตนจ่ายทั้งต้นและดอกเบี้ยรวมกันไปแล้วเกือบ 200,000 บาท แต่ทั้งสองผัวเมียยังเรียกเก็บดอกเบี้ยต่ออีกวันละ 720 บาท มาตั้งแต่เดือนตุลาคม ถึงพฤศจิกายน รวมทั้งสิ้นกว่า 200,000 บาทแล้ว ทั้งที่เงินต้นเพียง 46,000 บาท แต่ยังถูกตามทวงทั้งกลางวันกลางคืนข่มขู่บังคับจะเอาเงินให้ได้ จนเกิดความหวาดกลัว จึงตัดสินใจไปบอกลูกชายซึ่งเป็นเจ้าอาวาสที่วัดแห่งหนึ่ง และเข้าร้องขอความช่วยเหลือที่ศูนย์ดำรงธรรม

หลังรับเรื่องร้องเรียนเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้วางแผนจับกุม นายเอ และ น.ส.บี อายุเพียง 20 ปี ซึ่งเป็นสามีภรรยากันภูมิลำเนาอยู่ที่อำเภอปะคำ จ.บุรีรัมย์ ขณะที่ทั้งคู่ขับรถยนต์มาติดตามทวงหนี้ในเขตเทศบาลเมืองนางรอง ก่อนนำตัวทั้งคู่ไปสอบถามรายละเอียดที่ศูนย์ดำรงธรรม โดยทั้งคู่อ้างว่าเป็นเพียงคนติดตามทวงเงินให้กับนายทุนเท่านั้น โดยได้ค่าจ้างเดือนละ 6 พันบาท แต่พอเจ้าหน้าที่แจ้งว่ามีหลักฐานว่าบางส่วนมีการปล่อยกู้เองทั้งคู่จึงยอมรับว่าพอเก็บทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยให้นายทุนครบตามยอดแล้ว หากรายใดยังไม่มีเงินก้อนปิดก็จะเก็บต่อเอง และอ้างว่าเพิ่งจะเก็บต่อเพียงป้าที่ไปร้องเรียนรายเดียว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ได้ทำบันทึกที่ศูนย์ดำรงธรรม เข้าระบบศูนย์อำนวยการการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งทั้งคู่รับปากกับเจ้าหน้าที่ว่าจะหยุดเก็บทั้งต้นและดอกเบี้ยจากป้ารายดังกล่าว และจะไม่ยุ่งเกี่ยวหรือบังคับข่มขู่เรียกเงินจากป้าอีก หากไม่ทำตามที่ข้อตกลงก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย


ที่มา : MgrOnline