เปิดปฏิบัติการ "ตัดไฟแต่ต้นลม 2" รวบ 3 ผู้ต้องหาแก๊งเฮโรอีนข้ามชาติ ยึดทรัพย์ 101 ล.
เผยแพร่ : 27 พ.ย. 2567 14:16:48
• ปฏิบัติการดังกล่าวตรวจค้น 5 จังหวัด เพื่อจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติ
• เครือข่ายนี้มีชาวเมียนมาเป็นผู้บงการ
• ยึดทรัพย์สินได้กว่า 101 ล้านบาท
MGR Online - รมว.ยธ. ร่วม ป.ป.ส. และหน่วยงานภาคี เปิดปฏิบัติการ "ตัดไฟแต่ต้นลม ครั้งที่ 2" ค้น 5 จังหวัด จับเครือข่ายค้าเฮโรอีนข้ามชาติ มีชาวเมียนมาเป็นผู้สั่งการ ยึดทรัพย์มูลค่ากว่า 101 ล้านบาท
วันนี้ (27 พ.ย.) จ.เชียงราย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม พร้อมด้วย พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. , นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย , นายอภิกิต ฉ. โรจน์ประเสริฐ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. , นายปาทริก มีอูบ (Mr. Patrick MIHOUB) เจ้าหน้าที่ประสานงานด้านศุลกากร ประจำสถานเอกอัคราชทูตฝรั่งเศส ประจำประเทศไทย , นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. , นายธันวา ผุดผ่อง ผู้อำนวยการ สำนักงาน ปปส.ภาค 5 , พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 , พล.ต.ต.ธนะรัชต์ ชุ่มสวัสดิ์ รอง ผบช.ภ.5 , พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผบก.ภ.จว.เชียงรายพล.ต.ต.อดิศ เจริญสวัสดิ์ ผบก.ปส.3 บช.ปส. , พ.อ.จักรพงษ์ สอดสี รอง ผบ.ฉก.ทัพเจ้าตาก และ พ.ท.ปริญญา วีระศรีนารา หัวหน้าศูนย์ข่าวยาเสพติด ฝ่ายข่าวศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ร่วมแถลงผลปฏิบัติการตัดไฟแต่ต้นลม ครั้งที่ 2 ปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ 5 จังหวัด 11 จุดปฏิบัติการ (จ.เชียงราย 7 จุด/ จ.พิษณุโลก 1 จุด/ กทม. 1 จุด/ จ.นนทบุรี 1 จุด/ จ.ชลบุรี 1 จุด) สามารถติดตามจับกุมบุคคลตามหมายจับได้ 3 ราย จากจำนวน 6 ราย
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า สำนักงาน ป.ป.ส. ได้ให้ความสำคัญกับการปราบปรามยาเสพติดในทุกระดับการค้าซึ่งสอดรับกับนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งเน้นให้จับกุมกวาดล้างยาเสพติดตัดวงจรการค้ายาเสพติดรายสำคัญ รวมถึงกวาดล้างผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่แพร่ระบาด และเพิ่มประสิทธิภาพมาตรการยึดอายัดทรัพย์สินคดียาเสพติด ดังที่ผ่านมาเมื่อปลายเดือน ส.ค.67 สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับหน่วยงานภาคี เปิดปฏิบัติการตัดไฟแต่ต้นลม ครั้งที่ 1 ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย จับกุมบุคคลตามหมายจับรวม 4 คน ตรวจยึดทรัพย์สิน รวมมูลค่ากว่า 66 ล้านบาท โดยในครั้งนี้ ปฏิบัติการตัดไฟแต่ต้นลม ครั้งที่ 2 ในพื้นที่ จ.เชียงราย จ.พิษณุโลก กทม. จ.นนทบุรี และ จ.ชลบุรี จับกุมบุคคลตามหมายจับรวม 3 คน ตรวจยึดทรัพย์สินรวมมูลค่ากว่า 101 ล้านบาท
ด้าน พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ เผยว่า ปฏิบัติการดังกล่าวเกี่ยวข้องกับ เครือข่ายการค้าเฮโรอีนข้ามชาติที่มีผู้สั่งการเป็นชาวเมียนมาสืบเนื่องจากคดีการจับกุมวันที่ 1 ก.ย.67 สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับ หน่วยงานภาคี จับกุมผู้ต้องหา 2 คน พร้อมเฮโรอีน 91.7 กิโลกรัม เหตุเกิดที่โกดังในพื้นที่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เครือข่ายดังกล่าวมีพฤติการณ์ซุกซ่อนยาเสพติดในรถกระบะดัดแปลงทำช่องลับ โดยลักลอบลำเลียงยาเสพติดมาจากพื้นที่ชายแดนด้าน จ.เชียงราย เข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศก่อนจะส่งต่อไปยังปลายทางประเทศที่สาม
"ในครั้งนั้น สามารถตรวจยึดทรัพย์สินได้กว่า 5.5 ล้านบาท จึงได้มอบหมายให้ นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. สั่งการเจ้าหน้าที่สืบสวนขยายผลเครือข่ายดังกล่าวให้ถึงระดับผู้สั่งการ รวมถึงสืบหาทรัพย์สิน ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด จากการสืบสวนขยายผลพบว่า ผู้สั่งการเป็นชาวเมียนมา เคลื่อนไหวอาศัยอยู่ในพื้นที่ จ.เชียงราย มีภรรยาเป็นชาวไทย ใช้ภรรยาและบุคคลอื่นถือครองทรัพย์สินแทน"
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ เผยอีกว่า เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลอนุมัติหมายจับรวม 6 คน คือ นาย ไอ ยี ซอ ชาวเมียนมา มีบทบาท เป็นผู้สั่งการ ลำเลียงเฮโรอีน 91.7 กิโลกรัม และบุคคลในเครือข่ายอีก 5 คน ซึ่งมีพฤติการณ์เป็นผู้ร่วมขบวนการในการลำเลียงเฮโรอีนโดยรับคำสั่งการจาก นาย ไอ ยี ซอ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการสืบหาทรัพย์สินของบุคคล ที่ถูกออกหมายจับและบุคคลที่เกี่ยวข้อง จนนำมาซึ่งการเปิดปฏิบัติการตัดไฟแต่ต้นลม ครั้งที่ 2
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ เผยต่อว่า สำนักงาน ป.ป.ส. จึงบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยบังคับใช้กฎหมาย (ตำรวจ, ทหาร) รวมกำลังพลกว่า 200 นาย ดำเนินการปิดล้อมตรวจค้นภายใต้ ปฏิบัติการตัดไฟแต่ต้นลม ครั้งที่ 2 ในพื้นที่ 5 จังหวัด 11 จุดปฏิบัติการ (จ.เชียงราย, จ.พิษณุโลกกทม.,จ.นนทบุรี, จ.ชลบุรี) สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 3 คน ได้แก่ น.ส.แสงเพชร , นายสาม (เชียงราย) และ นายนิวัตร (ชลบุรี) ทั้งนี้ได้ตรวจยึดทรัพย์สินรวมมูลค่ากว่า 101 ล้านบาท อาทิ ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ที่นา ทองคำ เงินสด เงินในบัญชี รถยนต์ ฯลฯ
สำนักงาน ป.ป.ส. และหน่วยงานภาคี มุ่งเน้นการทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดให้ถึงระดับผู้สั่งการเพื่อจับกุมและตรวจยึดทรัพย์สิน โดยเฉพาะผู้สั่งการที่มีศักยภาพในการจัดหายาเสพติดจากต้นทางประเทศเพื่อนบ้าน และใช้เครือข่ายผู้ลำเลียงชาวไทย ตลอดจนใช้บุคคลชาวไทยถือครองทรัพย์สินแทน ยิ่งต้องเร่งดำเนินการตัดไฟแต่ต้นลม เพื่อตัดวงจรการค้า
ที่มา : MgrOnline