“อิ๊งค์” เปิดทำเนียบ ต้อนรับนักธุรกิจอเมริกัน 20 บริษัท ย้ำสานต่อความร่วมมือ ไทยพร้อมสำหรับการลงทุนทุกมิติ

เผยแพร่ : 27 พ.ย. 2567 13:50:41
X
• ยืนยันความพร้อมของไทยในการรับการลงทุนจากสหรัฐฯ ทุกมิติ
• เน้นย้ำการสานต่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการลงทุนระหว่างไทย-สหรัฐฯ
• การพบปะเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2567

“นายกฯ แพทองธาร” เปิดทำเนียบต้อนรับคณะนักธุรกิจอเมริกัน กว่า 40 บริษัท ยืนยันสานต่อความร่วมมือเศรษฐกิจและการลงทุน ย้ำ ไทยพร้อมแล้วสำหรับการลงทุนจากภาคธุรกิจสหรัฐฯ ในทุกมิติ

วันนี้ (27 พ.ย.) เวลา 10.00 น. ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้พบปะหารือกับคณะนักธุรกิจจากสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา-อาเซียน (US-ASEAN Business Council: USABC) นำโดย นายโรเบิร์ต โกเดค (H.E. Mr. Robert Godec) เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย และนายไบรอัน แม็คฟีเตอร์ส (Mr. Brian McFeeters) รองประธานอาวุโสและกรรมการผู้จัดการระดับภูมิภาค สภาธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียน พร้อมผู้แทนบริษัทสมาชิก จำนวนกว่า 40 บริษัท ครอบคลุมในธุรกิจพลังงาน สาธารณสุข เทคโนโลยีดิจิทัล การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ รวมไปถึงที่ปรึกษาด้านกฎหมาย และการเงิน เข้าร่วมการหารือด้วย โดยนายกรัฐมนตรีได้สนทนากับคณะนักธุรกิจจาก USABC เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองและเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและสหรัฐฯ

ด้าน นายโรเบิร์ต โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ กล่าวว่า การหารือกับนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ของ USABC ในวันนี้ มีนักธุรกิจจากหลากหลายภาคส่วนที่มีมูลค่าทางการค้ารวมกันเป็นพันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งคาดว่า จะช่วยสนับสนุนการลงทุนและ สร้างงานนับหมื่นคนในประเทศไทย โดยก่อนหน้านี้ คณะ USABC ได้มีการประชุมกับรัฐมนตรีของไทยหลายท่าน ได้ผลที่น่าพอใจ ซึ่งถือเป็นการตอกย้ำความเป็นหุ้นส่วนไทย-สหรัฐฯ ทั้งการค้าและการลงทุน รวมถึงความร่วมมือในทุกระดับทุกมิติระหว่างสหรัฐอเมริกาและไทย

นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงการเยือนนครลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา ที่ผ่านมา ซึ่งได้เชิญชวนให้เอกชนสหรัฐฯ เกี่ยวกับอุตสาหกรรมในอนาคต และอุตสาหกรรมภาพยนตร์ที่ถ่ายทำในไทย ว่า รัฐบาลไทยมีนโยบายสนับสนุนเงินคืน 30% สำหรับการถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทย โดยปีที่ผ่านมาเพียงปีเดียวมีภาพยนตร์จากสหรัฐฯ กว่า 50 เรื่องที่ มาถ่ายทำในประเทศ สร้างรายได้อย่างมหาศาลและยังกระตุ้นความสนใจจากบริษัทภาพยนตร์ชั้นนำให้เห็นถึงโอกาสในการลงทุนที่ประเทศไทยด้วย

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า ในช่วงการเข้าร่วมประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ณ กรุงลิมา ประเทศเปรู ได้เน้นย้ำถึงความพร้อมของประเทศไทยในการส่งเสริมการเชื่อมโยงในทุกมิติ รวมถึงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้มีโอกาสสนทนาทางโทรศัพท์กับนายโดนัลด์ เจ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ที่เพิ่งได้รับชนะในการเลือกตั้ง ซึ่งว่าที่ประธานาธิบดีของสหรัฐ แสดงความยินดีกับพัฒนาการในเชิงบวกของไทย โดยเฉพาะการเติบโตทางเศรษฐกิจที่กำลังเพิ่มขึ้น

สำหรับการหารือในวันนี้ ภาคธุรกิจสหรัฐฯ ได้กล่าวชื่นชมนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับภาคเอกชน รวมถึงนโยบายของรัฐบาลในการอำนวยความสะดวกในการลงทุน (Ease of Doing Business) การส่งเสริมเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน และการส่งเสริมการใช้ดิจิทัลในด้านการค้าและการลงทุน รวมถึงภาคการเงิน และพร้อมร่วมมือกับรัฐบาลในการกระชับความสัมพันธ์ทางด้านการค้าและการลงทุนร่วมไทยและสหรัฐฯ ต่อไป

ทั้งนี้ ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำถึงนโยบาย “Soft Power” ที่มุ่งพัฒนาความร่วมมือในทุกภาคอุตสาหกรรม และไทยหวังจะแลกเปลี่ยนความรู้กับผู้เชี่ยวชาญจากสหรัฐฯ ในการพัฒนาองค์ความรู้ในด้านต่างๆ ทั้งนี้ รัฐบาลไทยเน้นลงทุนทั้งด้านพลังงานสะอาด และอุตสาหกรรมใหม่ เช่น Data Center Semi-conductor เทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งไทยพร้อมรับฟังคำแนะนำจากภาคธุรกิจสหรัฐฯ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง นายจิรายุ กล่าว

ที่มา : MgrOnline