* ฮั้วฟงรับเบอร์ มั่นใจผลประกอบการไตรมาส 4/2566 ดีขึ้น * ออเดอร์ยางรถจักรยานยนต์ (ทั้งนอกและใน) เพิ่มขึ้น * วางแผนขยายตลาดยุโรปและอเมริกา เจาะกลุ่มลูกค้าไลฟ์สไตล์ * เน้นพัฒนาสินค้าที่มีกำไรสูง (ไฮมาร์จิ้น) * ศึกษาการลงทุนธุรกิจใหม่ประเภท "Ne" (รายละเอียดธุรกิจ "Ne" ไม่ได้ระบุในเนื้อข่าว)
ฮั้วฟงรับเบอร์ (ไทยแลนด์) มั่นใจแนวโน้มผลงานไตรมาส 4 สดใส อานิสงส์ออเดอร์ยางนอก-ยางในรถจักรยานยนต์พุ่ง ฟากผู้บริหาร เผยพร้อมขยายตลาดยุโรป-อเมริกา เจาะกลุ่มลูกค้าไลฟ์สไตล์ รุกพัฒนาสินค้าไฮมาร์จิ้น แย้มอยู่ระหว่างศึกษาลงทุนธุรกิจ New S Curve สร้างการเติบโตยั่งยืน มั่นใจรายได้ทั้งปี 67 เติบโต 10-15% ตามเป้า

นายจวง จื้อ เหยา Vice President บริษัท ฮั้วฟงรับเบอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) (HFT) ผู้นำในการผลิตและจำหน่ายยางนอกและยางในสำหรับรถจักรยาน รถจักรยานยนต์ และรถขนส่งขนาดเล็ก เปิดเผยว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2567 คาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากได้รับคำสั่งซื้อสินค้ายางนอกและยางในรถจักรยานในกลุ่มลูกค้ายุโรปเพิ่มมากขึ้นหลังจากเจาะกลุ่มลูกค้าประเภทไลฟ์สไตล์ซึ่งกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในขณะนี้ รวมทั้งยอดขายยางนอกและยางในรถจักรยานยนต์เพิ่มสูงขึ้นจากกลุ่มลูกค้า OEM ในประเทศอีกด้วย

สำหรับกลยุทธ์สร้างการเติบโตของบริษัท ได้มุ่งเน้นขยายตลาดสู่ต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าแถบยุโรปและอเมริกา ซึ่งมองว่าอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ยังมีทิศทางการเติบโตที่ดีตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ส่งผลให้กำลังซื้อของผู้บริโภคปรับตัวเพิ่มขึ้น จึงได้มีการลงทุนติดตั้งเครื่องจักรใหม่เพื่อผลิตสินค้าเกรดพรีเมียม ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการผลิตและสามารถผลิตสินค้าได้เป็นจำนวนมากกว่าเดิม โดยมั่นใจรายได้ปี 2567 จะเติบโต 10-15% ตามแผนงานที่วางไว้

“ทั้งนี้ บริษัทได้เร่งขยายตลาดสู่ต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเป้าไปยังกลุ่มลูกค้าในแถบยุโรปและอเมริกา พร้อมทั้งเพิ่มช่องทางสร้างรายได้ด้วยการพัฒนาและแตกไลน์สินค้าใหม่ เช่น ยางรถกอล์ฟ รถเอทีวี และรถโกคาร์ท ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง โดยคาดว่าจะมีโอกาสเติบโตในตลาดอย่างต่อเนื่องและยังอยู่ระหว่างการศึกษาแนวทางการลงทุนเพิ่มเติมทั้งในธุรกิจที่มีความเกี่ยวข้องและธุรกิจใหม่ๆ เพื่อเสริมศักยภาพและต่อยอดพัฒนาธุรกิจในกลุ่ม New S Curve ซึ่งจะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้ธุรกิจในอนาคต โดยมั่นใจว่ารายได้ปี 2567 จะสามารถเติบโต 15% ตามเป้าหมายที่วางไว้” นายจวง จื้อ เหยา กล่าวในที่สุด

สำหรับผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนปี 2567 (สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2567) บริษัทมีกำไรสุทธิ 220.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.04% จากงวดเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิ 200.55 ล้านบาท และมีรายได้จากการขาย 2,185.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 277.10 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 14.52% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้จากการขาย 1,908.17 ล้านบาท เป็นผลมาจากยอดขายเพิ่มขึ้น 14.52% ตามคำสั่งซื้อ

ที่มา : MgrOnline