(ชมคลิป) สร้างตัวตนจนลูกค้าติด “มาดามฯ” ขายส้มตำอยู่บ้านพลิกวิกฤตสร้างรายได้ สุดพีก 14,000-15,000/วัน!
เผยแพร่ : 27 พ.ย. 2567 07:49:24
• ทำงานที่บ้านมาแล้ว 3 ปี
• ไม่มีความคิดที่จะเปลี่ยนสถานที่ทำงานหรือขยับขยาย เนื่องจากฐานลูกค้าและความคุ้นเคยอยู่ในพื้นที่บ้านพักอาศัย
• เหตุผลหลักในการไม่ย้ายที่ทำงานคือประหยัดค่าใช้จ่าย เช่น ค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ
“ไต่ขึ้นมาเรื่อย ๆ จนพีกสุดก็หมื่นสี่หมื่นห้าโดยที่ยังอยู่ที่บ้าน 3 ปีแล้วไม่คิดจะขยับขยายเพราะว่าเราเกิดจากตรงนี้เกิดจากที่บ้านเลย คนรู้จักเราก็จากที่นี่เลย เราไม่คิดที่จะไปลงทุนไปเสียเงินค่าเช่าที่ค่าน้ำค่าไฟอะไรอีกเราคิดว่าบ้านเรามันเป็นตัวตนมากที่สุด”
อาจเป็นเพราะเราเริ่มคุ้นชินกับปรากฏการณ์ของความหลากหลายทางเพศ เพศที่สามหรือเพศทางเลือกก็สุดแล้วแต่จะให้นิยามกันไป ไม่แปลกหาก “ชาย” ใจเป็นหญิงหรือ “หญิง” ใจเป็นชาย เพราะยุคสมัยนี้ผู้คนส่วนใหญ่เข้าใจและยอมรับความจริงเรื่องนี้กันอย่างค่อนข้างไร้สงสัยแล้ว เข้าใจและรับได้และแถมกลายเป็นความน่าเอ็นดูเข้าไปอีกสำหรับ “มาดามตำแหลก”เพราะแว้บแรกที่เห็น คือ ผู้ชายหน้าตาท่าทางที่แมนมาก ๆ กล้ามแน่น ๆ แต่ไหงอาภรณ์ที่สวมใส่กลับกลายเป็นชุดราตรีสีสันวิบวับชวนเตะตา หรือว่านี่คือการแสดงเป็นอีกบทบาท ๆ หนึ่งที่ใช้สำหรับการสร้างจุดขายเท่านั้น ความคิดในหัวช่วงก่อนที่จะมีโอกาสได้คุยกันเพราะมันค่อนข้างขัดแย้งอยู่ในทีจนชวนให้อดสงสัยใคร่รู้ไม่ได้! “เป็นหรือไม่เป็น?” ในที่สุดก็ยิงคำถามนี้ออกไป แล้วคำตอบที่ได้กลับมาพร้อมกับเสียงหัวเราะร่วนของเจ้าของปริศนาคาใจก็คือว่า “เป็นจ้ะ”(หัวเราะเสียงดังเลย) เป็นจ้ะ100% ชัดเจนสำหรับเขาหรือเธอคนนี้ที่มีชื่อจริงนามสกุลจริงตามบัตรประชาชนว่า “นายสมจริง ภู่พลายงาม”หรือในชื่ออีกฉายาหนึ่งก็คือ มาดามเปิ้ล ก่อนที่จะมามีชื่อเสียงโด่งดังในโลกโซเชียลกลายเป็นที่รู้จักในชื่อของมาดามตำแหลก
“ความเป็นมาจากการโพสต์เล่นก่อนโพสต์เอา “ผ้าปูที่นอน” มาทำเป็นชุดราตรีใส่เล่นแล้วโพสต์ โพสต์ในเฟซบุ้กของเราพอโพสต์เสร็จ อู๊ยคนมากดแชร์กดไลก์ให้เต็มเป็นพันเป็นหมื่นเลย ก็เลยจุดประกายขึ้นมาเลยว่าเราต้องทำอะไรได้ตรงนี้ใช่จ้ะ”ได้คาแรคเตอร์ที่เป็นตัวเองแล้ว ตอนแรกคือไปขายของก่อน ไปขายเสื้อผ้าผู้หญิงอยู่ที่ตลาดแล้วมาเจอช่วงวิกฤต “โควิด-19” ก็เลยต้องปิดลง พอปิดลงก็มาอยู่บ้านคิดหาทางทำอะไร จะทำอะไรดีขายของก็ไม่ได้ขายนอก“ก็เลยเนี่ยแหละลองมา เอ๊ะ! ชอบตำส้มตำกินนี่นาก็ลองตำ และก็เรียกพี่เรียกแม่เรียกน้องเรียกแฟนให้มาลองชิมกัน(หัวเราะ) ว่ามันโอเคมั้ย มันโอเคมั้ยและก็ แต่จะทำยังไงให้มันไม่ใช่ส้มตำแบบที่ธรรมดาที่ทั่วไปขาย”ก่อนหน้านี้ก็เคยทำงานประจำมา 4-5 ปี เป็นพนักงานออฟฟิศ พอลาออกจากงานออฟฟิศมาก็ขายของตลอดเลย ซึ่งตอนที่ทำงานอยู่รวมถึงพอมาขายของด้วยการแต่งตัวก็เป็นเหมือนผู้ชายปกติทั่วไป ยังไม่ได้มีการแต่งหญิง(แต่ในใจหรือตัวตนข้างในที่แท้จริงเป็น! มาโดยตลอด) และจนกระทั่งมาเจอโควิดฯ เริ่มคิดขายส้มตำแต่ว่า มันก็ยังไม่เจอว่าอะไรมันโดดเด่น“ก็มีแค่เรื่องการใส่ชุดที่เราลองไปโพสต์ในเฟซ แล้วคนชอบ หัวเราะกดขำอะไรอย่างเงี้ยเราก็เอ๊ย! เนี่ยแหละตัวตนของเรา”
สู่แบรนด์ “มาดามตำแหลก” ร้านส้มตำลับเฉพาะคนรู้ใจ
แต่มันกลับกลายเป็นภาพจำที่ทำให้เราได้คาแรคเตอร์ ใช่! ทุกคนชอบและเราก็ดึงจุดนี้มาเปิดร้าน และก็ตั้งชื่อเป็น มาดามตำแหลก“ใช่จ้ะ ชื่อนี้จะเป็นชื่อมาตั้งแต่ตอนขายของแล้วทุกคนที่ตลาดจะเรียก มาดาม ๆ กันเพราะว่าจะขายของแนวผู้หญิงหมดเลยจ้ะ จะไม่ขายของผู้ชาย สไตล์การแต่งตัวก็ตอนนั้นปกติเลย เสื้อยืด กางเกงยีนส์ เสื้อกล้ามบ้างอะไรบ้างใส่ไปขายของอะไรอย่างเงี้ยจ้ะ เล่นยิมเสร็จก็ไปขายของ จะดูเหมือนเป็นผู้ชายปกติทั่วไปแต่ว่าการพูดการจาก็จะเป็นจ๊ะจ๋าอย่างนี้ เพราะว่าเราขายของผู้หญิงจะเป็นการพูดอย่างนี้มาตั้งนานแล้ว”ความชอบด้วย และความกล้าด้วย กล้าที่จะทำเพราะว่าเราต้องใส่ชุดผู้หญิงทุกวัน(หัวเราะ) แต่ตอนนั้นเรายังไม่มีหน้าร้านเพราะว่ามันเป็นช่วงโควิดฯ ก็ทำในบ้านโดยการสร้างเพจลงรูปให้คนมากดติดตามอะไรไว้ และก็ให้หลานเป็นคนส่งและก็มีพวกแอปฯ ต่าง ๆ เป็นคนส่งให้ด้วย“วันแรกได้100 กว่าบาทวันที่สอง เขยิบ ๆ ขึ้นมาเรื่อย ๆ จนทุกคนเรียกร้องให้เปิดหน้าร้าน”จากที่เราจะ LIVE สด อยู่ในเพจของเราก่อน ตำส้มตำ LIVE สดไปด้วย จนเริ่มมีออร์เดอเข้ามารัว ๆ ของไหน ๆ บ้างเราก็ตำแล้วก็LIVE สดไปด้วย ทุกวันเลย จะมีโต๊ะใหญ่ ๆ ตัวหนึ่งสำหรับวางของ(เครื่องตำส้มตำ) เรียงไว้แล้วเราก็ตำ เปิดเพลงอีสานแล้วก็หวัดดีจ๊ะจ๋าอะไรของเราไปเรื่อย คุยกับคนดูไปเรื่อย มีออร์เดอเข้ามาก็ทำส่งให้กับลูกค้า ขายได้ประมาณ6 เดือนก็มาเปิดเป็น หน้าร้าน มีโต๊ะนั่งให้ลูกค้ามานั่งทานได้
เป็นรสชาติที่คนเมืองกินได้ สูตรน้ำปลาร้าก็ปรุงขึ้นมาเอง
“จะเป็นคนตำเองลูกค้ามาก็จะหวัดดีจ้า ถ่ายรูปตรงนี้เลยนะ ตรงนี้เลยนะ เราก็ยืนตำอยู่(หัวเราะ) เขาก็จะเข้ามาคุยเล่นถ่ายรูปด้วยอะไรเงี้ย เขาก็สนุกเขาเหมือนกันเราก็สนุกของเราไปด้วยใช่จ้ะ”เมนูจะมีค่อนข้างที่จะมีเยอะอยู่เหมือนกันแต่ที่ขายดีเลย
ก็คือเมนูมาดามตำแหลก(ตำมาดาม) จะคล้าย ๆ กับตำถาดมีปลาแซลมอน หอยแครง กุ้งสด ปลากรอบ หมูยอ ฯลฯ ในชุดของเขาเลยจะเป็นจานใหญ่ ซิกเนเจอร์ของร้านก็ว่าได้ออกทุกวันเมนูนี้ ใครมาก็ต้องสั่งชุดนี้หรือจะเป็นออนไลน์ที่ขายตามแอปฯ ต่าง ๆ ตำมาดามก็จะมีมาตลอดเช่นกัน “แต่ไม่อีสานจ๋า เราประยุกต์มาอีกทีหนึ่งให้ไม่ให้มันเหมือนแบบทั่วไป อย่างตำมาดามอย่างเงี้ยรสชาติมันจะไม่อีสานจ๋ากลิ่นน้ำปลารงน้ำปลาร้าเราก็เตรียมเองปรุงเอง ก็จะไม่มีกลิ่นมีอะไรเท่าไหร่คนที่ไม่ชอบทานอะไรอย่างเงี้ยเขาก็ลองทาน เขาก็บอกชอบใช่จ้ะ” ตอนนี้น่าจะ60 เมนูได้รวมเมนูยำและอื่น ๆ ที่เพิ่มเข้ามาด้วย มีของทอดด้วยหลาย ๆ อย่าง เริ่มจากส้มตำประมาณ9 อย่างในตอนแรกเลย แล้วก็มีหมูแดดฯ ตอนนั้นก็ยังไม่ได้ทำแต่ไปซื้อมาถ่ายรูปเมนูก่อนแล้วค่อยทำเองตอนหลังโดยให้ “แม่” เป็นคนทำหมูแดดฯ ให้ด้วย“ราคาเริ่มต้นที่ 50 บาท จนถึง250 บาทอย่างชุดมาดามก็190 บาท ชุดตำมาดามใช่จ้ะ แพงสุดก็จะเป็นตำรวมทะเล250 บาทเพิ่ม ใส่ปูม้า หมึก หอยเชลล์ อะไรอีกแบบใส่หลายอย่างเลยจ้ะ ใส่เยอะกว่าตำมาดาม มาดามก็จะอีกระดับหนึ่งแต่คนสั่งตำมาดามกันเยอะกว่า”
เรื่องของรสมือมาดามตำแหลกที่ลูกค้าค่อนข้างจะติดกัน มันไม่รู้เหมือนกันแต่มีลูกค้ามาโต๊ะหนึ่งเขาพาลูกสาวมาด้วย ลูกสาวไม่เคยกินปลาร้าเลย แล้วเขาบอกให้มาลองกินดู กินซิ ลูกสาวชอบลูกสาวบอกอร่อยมาก แล้วเขาบอกว่าลูกสาวไม่เคยกินปลาร้าที่ไหนมาก่อนเลยนะแต่ที่นี่เขายอมกิน เราก็ดีใจที่เราทำได้ตรงนั้น
ลูกค้าเริ่มติด ยิ่งต้องใส่ใจ พิถีพิถันในการเลือกใช้วัตถุดิบ
มีบ้างการคอมเมนต์เรื่องของรสชาติ บางทีเปลี่ยนมือเราเริ่มสอนคนตำเปลี่ยนมือลูกค้าจะรู้เลย ลูกค้าจะโทรมาถามว่ามาดามอยู่ร้านไหมถ้ามาดามอยู่เขาก็จะสั่ง แต่ถ้ามาดามไม่อยู่ลูกน้องเป็นคนตำเขาจะไม่เอา“เขาบอกว่ารสชาติมันเปลี่ยน ๆ มาดามตำหรือเปล่าอะไรอย่างเงี้ย(หัวเราะ) เขาจำรสมือของเราได้ ใช่จ้ะ” พอลูกค้าเริ่มติดเราก็ต้องคอยดู ต้องพิถีพิถันในเรื่องต่าง ๆ ให้มากขึ้นด้วย บางทีข้อผิดพลาดเจอ “หนอนผัก” อะไรอย่างเงี้ยแล้วเราไม่เห็นไม่สังเกตดี ๆ เคยเจอคอมเมนต์ที่มาบอกกับเราว่ามาดามมันมีนะแต่เขารู้ว่ามันเป็นหนอนผักเขาก็ไม่ได้ว่าอะไร เขาบอกว่าส่งมาให้มาดามดูให้ละเอียดหน่อยก็ทำให้เรา ต้องไปตลาดเองต้องเลือกสรรวัตถุดิบต่าง ๆ อะไรเองค่อนข้างที่จะดูให้มันละเอียดมากขึ้น แต่จะว่าไปแล้วลูกค้าค่อนข้างจะติดความเป็น “มาดามตำแหลก” มาก ๆ ด้วย บางทีการมานั่งทานอาหารดูเป็นเรื่องรองไปเลยก็มี“บางทีเราไม่อยู่เราออกไปข้างนอกแล้วมีลูกน้องทำแทนทางนี้อยู่เขาก็จะถามหา มาดามไม่มาเหรอ? ไปทำธุระอยู่ต้องรีบวนรถกลับมาร้าน(หัวเราะ) ใช่เขาถึงยอม บางคนมาไม่เจอเราเขาก็กลับเลยก็มี บางคนโทรมาก็จะถามมาดามอยู่ร้านใช่ไหม จะสั่งออร์เดอแต่ถ้ามาดามไม่อยู่เขาก็จะไม่เอา ยังไม่เอา”เขาติดในการที่เราพูดจ๊ะจ๋าอะไรกับเขามากกว่า และก็ติดในที่เราแต่งตัว“แต่งตัวนี่คือต้องทุกวัน เพราะว่าลูกค้าส่วนมากมาอยากถ่ายรูปกับเราทั้งนั้นเลย พอเสร็จมาถ่ายโต๊ะนี้ ๆ อะไรอย่างเงี้ย ใช่จ้ะถ้าเกิดออร์เดอเยอะเขาก็จะขอเข้าไปถ่ายกับเราข้างในด้วยหน่อย อะไรอย่างเงี้ยใช่จ้ะ เราก็สนุกไปด้วยเลยกับลูกค้า เฮฮากับลูกค้าไปด้วย”
ชุดที่เห็นอยู่ด้านหลังนี่ก็คือแค่บางส่วนเท่านั้น จริง ๆ มี100 กว่าชุดเลย เมื่อก่อนแขวนยาวเป็นทางเดินทางเข้าห้องน้ำเลยแต่เก็บออกมาเพราะแม่เริ่มจะเดินลำบาก ก็เลยเก็บออกมาไว้ต่างหากอีกส่วนหนึ่ง “เป็นมือสองหมดเลย เราจะมีเฟซบุ้กของเราก็จะเข้าไปดู เขาก็จะมีคนมาLIVE สดขาย ถ้าเป็นไซซ์เราที่เราใส่ได้เราก็จะF มาตัวละ100 ตัวละ50 บาท ตัวละเท่าไหร่อะไรบ้างเราก็จะเอฟ ๆ มา จนมันเยอะ(หัวเราะ) ตอนหลังก็เลยหยุดไว้ก่อน “ไม่มีธีมอะไรเลยในการใส่ชุด เราก็จะใส่ตามที่เราเลือกมา วันหนึ่งจะใส่ชุดส่วนมากประมาณ2 ชุดบางทีเหนื่อย ๆ ก็ขึ้นไปอาบน้ำแป๊บนึง เปลี่ยนอีกชุดหนึ่งลงมาหาลูกค้าใช่จ้ะ แต่ต้องแต่งวันไหนมาลูกค้ามาเจอไม่แต่ง ลูกค้าก็จะบอกว่ามาดามไม่แต่งตัวเหรอวันนี้ เราก็ต้องเข้าไปในบ้านแต่งตัวออกมาหาลูกค้า เขาก็จะปลื้มว่าเออมาดามแต่งตัวให้ด้วยอะไรอย่างเงี้ยจ้ะ
เป็นร้านลับในหมู่บ้านฯ โปรโมตจองโต๊ะเพื่อสร้างการจูงใจ
ในความคิดตอนแรก “ร้านส้มตำ” เราก็ยังว่ามันจะไปรอดไหม? เพราะว่าร้านส้มตำมีเยอะมากแต่ว่าเราก็ดึงจุดเด่นในตัวเราออกมาแล้วเราก็อยู่ในหมู่บ้านด้วย (ม.ดิสคัฟเวอรี บาลีไฮด์) ทำในหมู่บ้านเลยข้อดีตอนนั้นในช่วงโควิดฯ คือเราไม่ต้องไปเสียค่าเช่าไม่เสียอะไรเลยอยู่บ้านเรา เปิดหน้าบ้านเราเองดีกว่า“จากหลัก100 เป็นหลัก1000 จากหลัก1000 เป็นหลักหมื่น หลังจากที่เปิดหน้าร้านได้อีกประมาณ2 เดือนก็บูมขึ้นมา มีรายการต่าง ๆ มาถ่ายทำ มียูทูบเบอร์มาขอถ่ายทำด้วยมันก็เป็นกระแสให้คนเห็นกันเยอะ ออกรายการโน้นรายการนี้ก็คนเยอะมาก จอดรถยาว(หัวเราะ)” ดีที่ว่าบ้านข้าง ๆ ที่ติดกันด้านนี้ไม่มีคนอยู่ แล้วถ้าไปจอดหน้าบ้านใครเราก็จะไปขอเขา ก็จะเป็นแบบนี้มา“มีการให้จองโต๊ะก่อน ลูกค้าก็จะโทรมาหรือจองโต๊ะก็ติดต่อได้ที่086-796-9422 จ้ะ เพราะว่าในแต่ละวันจะมีโปรโมชันจองโต๊ะด้วย จะไม่เหมือนกันในแต่ละวัน บางทีเป๊บซี่ฟรีได้นักเก็ตฟรีอะไรอย่างเงี้ยจ้ะถ้าลูกค้าจองโต๊ะมาก่อน” เพื่อให้ง่ายต่อการจัดการเพราะว่าเราเองต้องอยู่ร่วมกับคนอื่น ๆ ภายในหมู่บ้านด้วย การจัดระเบียบเพื่อไม่ให้ไปรบกวนคนอื่นจนเกินไปจึงถือเป็นเรื่องสำคัญมากที่ต้องใส่ใจ
ใครมาก็ต้องต้องอยากเจอมาดาม เข้า3 ปีแล้วที่เปิดมาแบบให้ลูกค้านั่งทานที่ร้านได้ “ลูกค้าเยอะมากลูกค้าเยอะทุกวัน และยิ่งถ้าเป็นช่วงที่ไปออกรายการเช้ามาเจอลูกค้าหนักแบบมากันเยอะมาก แบบบางทีก็มีขนมมาฝากเราด้วยมีทำรูปทำอะไรมาให้เราอย่างเงี้ยใช่จ้ะ เขาทำอย่างนั้นเลยเราก็เออปลาบปลื้มเขาเหมือนกันว่าเขาทำให้เราอะไรอย่างงี้เลยเหรอ” ยอดขายถ้าพีก ๆ สุดเลยก็14,000-15,000 ต่อวัน คือพีกสุดแล้ว แต่ถ้าเป็นทั่ว ๆ ไปเลยก็น่าจะอยู่ที่ประมาณ7,000-8,000 บาท/วัน “ร้านจะหยุดทุกวันอังคารจ้ะ นอกนั้นเปิด 10.00 น. ถึง4 ทุ่มเลย ลูกค้าก็จะมาช่วงเย็นบ้าง ช่วงดึกบ้างก็มีใช่จ้ะ”แต่ก็จะมีช่องทางการขายอื่น ๆ ครบทั้งหมดด้วย ผ่านแอปฯ ต่าง ๆ ในการสั่งอาหารจากร้านเราก็จะมีครบหมด และยังมีแบบไปส่งเองด้วยมีหลานที่คอยทำหน้าที่ตรงนี้ให้ ก็จะมีสร้างกลุ่มไลน์กลุ่มส้มตำมาดามตำแหลกขึ้นมาก็จะมีสมาชิกอยู่ประมาณเกือบ200 คนได้ ในเขตคลอง4 ทางร้านก็จะมีบริการส่งฟรีให้กับลูกค้า แต่ถ้าไกลออกไปจากนี้ร้านก็จะเรียกแกร๊บเพื่อไปส่งให้กับลูกค้าอีกที
ลูกค้าติดมาก! มากินอาหารจะต้องได้ร่วมเฟรม “มาดามตำแหลก” เตรียมเปิดแฟรนไชส์
“เวลาสมมุติรายการมาถ่ายทำอย่างเงี้ย แล้วเราไปอ่านในคอมเมนต์เจออะไรอย่างเงี้ย ไม่กล้ากินหรอก ไม่กล้ากินบ้าง อู๊ยกะเทยตำบ้างอะไรบ้างแบบ เจอคำพูดแย่ ๆ นี่ค่อนข้างที่จะเยอะเหมือนกัน แต่เราก็ได้แต่เก็บมาคิดเฉย ๆ ว่าเราทำได้อย่างเดียว เราคิดว่าเราต้องทำได้ให้เขาเห็นในมุมดีของเรา ว่าเราที่กล้าแสดงออกมาอย่างงี้” แต่มันคือตัวตนจริง ๆ ของเรา ไม่ใช่การทำเพื่อเป็นจุดขาย“แฟนมาดามก็เป็นผู้ชาย ใช่แฟนมาดามก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน เขาก็สนับสนุนเราทุกทางเลยเขายิ่งชอบด้วยซ้ำเราแต่งตัว วันไหนเขาเห็นเราไม่แต่งตัวเขาจะดูบอกว่าทำไมดูเงียบ ๆ จัง มันดูไม่มีความสุขอะไรอย่างเงี้ย พอแต่งตัวเราก็จะเหมือน “องค์” ลง! มาดามมาแล้วเวลาแต่งตัว ใช่ เหมือนองค์ลงเลยอย่างเงี้ย เขาก็จะชอบให้เราแต่งตัว” ลูกค้านี่จะชอบมากต้องถ่ายรูปด้วยทุกโต๊ะกับลูกค้า ลูกค้าต้องขอถ่ายรูปตลอด วันไหนมาดามไม่แต่งตัวก็จะบอกมาดามไปแต่งให้หน่อยเถอะ(หัวเราะ) ก็ต้องเข้าไปแต่งให้ลูกค้าหน่อย บางทีเราเพิ่งกลับมาจากยิมแล้วมาทำเลยยังไม่ทันได้แต่งชุดมาดาม ลูกค้าก็จะขอให้มาดามไปแต่งชุดให้หน่อย
มาดามเปิ้ล หรือ “มาดามตำแหลก” เผยถึงอนาคตของร้านในการที่จะก้าวต่อไปอีกให้ฟังด้วย มองถึงเรื่อง “แฟรนไชส์” ที่คิดจะทำด้วย เพราะว่าจะมีในเพจจะมีลูกค้าบางส่วนที่อยากจะมาขอ “สูตร” ขอมาเรียนกับมาดามได้ไหมเป็นคอร์สก็ได้ หรือว่าจะเป็นแฟรนไชส์หรืออะไรก็ได้ เราก็เลยคิดขึ้นมาว่าเราจะเปิดตัวนี้ขึ้นมา คิดไว้ว่าอยากจะค่อย ๆ สัก1 สาขา2 สาขาไปก่อนน้อย
ๆ ไม่ต้องอะไรแบบโครม! เยอะ ๆ มาทีเดียวเราก็คงไม่ทำแบบนั้น
สร้างตัวตนจนลูกค้า “มาดามฯ” ขายส้มตำอยู่บ้านพลิกวิกฤตสร้างรายได้ สุดพีก14,000-15,000/วัน!ขอบคุณเรื่องราวแห่งแรงบันดาลใจดี ๆ ในการเริ่มต้นอาชีพใหม่จาก “มาดามตำแหลก” ที่มาร่วมแชร์ประสบการณ์แห่งความสำเร็จในการเปิดร้านส้มตำอยู่กับบ้านแต่ทว่าทำอย่างไรให้มีลูกค้ามาติดและสามารถบริหารจัดการจนประสบความสำเร็จในเรื่องของยอดขายได้อย่างน่าตื่นใจมาก ๆ
สามารถแวะไปอุดหนุนที่ร้านหรือใครอยากเจอ อยากได้รับพลังที่เป็นแรงบันดาลใจดี ๆ จากมาดามร้านมาดามตำแหลกตั้งอยู่ที่ รังสิตคลอง4 ลำลูกกา อยู่ในหมู่บ้านดิสคัฟเวอรี บาลีไฮด์ หรือโทรสอบถามที่086-796-9422 เพจ: มาดามตำแหลก
ที่มา : MgrOnline