เพื่อนสนิท “ป้าติ๋ม” เผย “ป้าติ๋ม”ได้ รับมรดก ของ แหม่ม เจ้าของวิลล่าหรู แล้วบ้างส่วน

เผยแพร่ : 26 พ.ย. 2567 21:54:49
X
• ป้าติ๋มได้รับมรดกบางส่วนจากพินัยกรรมของเจ้าของวิลล่าหรูแล้ว
• วิลล่าหรูที่เกิดเหตุอยู่ระหว่างการปรับปรุง
• ป้าติ๋มหลีกเลี่ยงการให้สัมภาษณ์กับสื่อ

สุราษฎร์ธานี - เพื่อนสนิท “ป้าติ๋ม” เผย“ ”ป้าติ๋ม“ ได้รับทรัพย์สิน จากพินัยกรรม แหม่มเจ้าของวิลล่าหรู แล้วบางส่วน ขณะที่ วิลล่าหรู หลังที่เกิดเหตุ กำลังอยู่ระหว่างปรับปรุง ด้าน ”ป้าติ๋ม เห็นสื่อหลบกล้อง ไม่ให้สัมภาษณ์ 

วันนี้ ( 26 พ.ย. 2567 ) จากกรณี ทางตำรวจได้ หอบหลักฐาน เข้าแจ้งความกับ ตร. เกาะสมุย เพื่อดำเนินคดี กับ 2 บริษัท รวมทั้ง แหม่ม ชาวฝรั่งเศส เจ้าของวิลล่าหรู ซึ่งฆ่าตัวตัว และ ทำพินัยกรรม ยกทรัพย์สิน ประมาณ 100 ล้าน และคนไทย อีก 2 ราย ซึ่งการแจ้งความดังกล่าว อาจจะส่งผลต่อการมอบทรัพย์ ให้กับป้าติ๋ม ตามที่ พินัยกรรม ที่แหม่ม ระบุไว้

โดยช่วงเย็น วันนี้ (26 พ.ย.) ผู้สื่อข่าว ได้เดินทางไป ยังวิลล่าหรูหลังที่แหม่ม มอบให้ “ป้าติ๋ม)” ในตำบลแม่น้ำ อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อขอพบกับนางณัฐวลัย หรือ ป้าติ๋ม แม่บ้านคนสนิทของแหม่มที่เสียชีวิต โดยพบ ว่า ป้าติ๋ม อยู่ที่วิลล่าดังกล่าว เเต่เมื่อเห็นกล้องของผู้สื่อข่าว ก็ได้หลบกล้อง แต่ตะโกนออกมาว่า กำลังปรับปรุงวิลล่า เนื่องจากต้นไม้ได้หักโค่นใส่ และ ทาสีใหม่ และ ไม่ขอให้สัมภาษณ์ ใดๆ  

ต่อมาเย็นวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับเพื่อน คนสนิทของป้าติ๋ม ที่ร้านขายของหลังวัดภูเขาทอง ในตำบลแม่น้ำ และได้พูดคุยกับ น.ส.อุสา (ขอสงวนนามสกุล)  โดย น.ส.อุสา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ ป้าติ๋ม ก็ยังมาแวะเวียนมาที่ร้านขายของ ที่ น.ส.อุสา ทุกวัน  ซึ่งตอนนี้ป้าติ๋ม ก็ยังทำงานปกติ โดยทำความสะอาดบ้านฝรั่ง อยู่แถวบางรักษ์ ในตำบลบ่อผุด    ส่วนบ้านที่เกิดเหตุไม่ได้ทำแล้ว  หยุดมาตั้งตั้งแต่บอสเสียชีวิต   และ หลังจากเกิดเหตุ ป้าติ๋ม ก็ยังทำตัวปกติ ใช้ชีวิตตามปกติ ไม่ได้โอ้อวดเหมือนเป็นคนมีเงินแต่อย่างใด 

ส่วนทรัพย์สินตามทึ่ระบุในพินัยกรรม ขณะนี้ ได้บ้านได้รถยนต์  ได้เงินสดนิดหน่อย ตามที่บอสเขียนพินัยกรรมไว้ให้   และ รถยนต์ ก็ได้มีการโอนเป็นชื่อ ป้าติ๋มแล้ว   ถึงแม้ มูลค่าทรัพย์สินที่ได้ ไม่ถึงร้อยล้าน ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด ส่วน ป้าติ๋ม เองก็ ยังอาศัยอยู่ที่บ้าน ของตัวเอง แถวซอยแม่พระบ้านบ่อผุด    ซึ่งจากกระแสข่าว ที่ผู้ถือหุ้นเป็นนอมินีหากแกไม่ได้ทรัพย์สินจริงๆ    ตนก็รู้สึกเสียใจแทน “น.ส.อุสา เพื่อนสนิท ” เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว

ส่วนในคดี ทาง พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย(ศปชก) ภ.จว. สุราษฎร์ธานี มอบหมายให้ พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ร่มไทร รองผู้กำกับ สภ.กาญจนดิษฐ์ เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวน สภ.เกาะสมุย ให้ดำเนินคดีกับบริษัทเอกชน 2 แห่ง (บริษัท จี.วี.เอ็น.อี.จำกัด และบริษัทแม็กซิเคทจำกัด) ในฐานะนิติบุคคล, รวมถึงนางแคทเทอร์รีน โจรี่โรแล็นด์ เจอร์แมน เดลาโคท อายุ 59 ปี สัญชาติฝรั่งเศสซึ่งเสียชีวิตแล้ว

ในข้อหาร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ, เป็นบุคคลต่างด้าวประกอบธุรกิจที่ไม่อนุญาตให้คนต่างด้าวประกอบกิจการด้วยเหตุผลพิเศษตามที่กำหนดไว้ในบัญชีหนึ่ง (การค้าที่ดิน ตามบัญชีหนึ่ง(9)), เป็นคนต่างด้าวได้ที่ดินมาโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และเป็นบุคคลต่างด้าวยินยอมให้ผู้มีสัญชาติไทยฯ เพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจ โดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้

นอกจากนี้ยังดำเนินคดีกับ นายทองใส คติสุข อายุ 50 ปีและ นางรัชประภา โซเรดะ อายุ 36 ปี อีกด้วย โดยพ.ต.ท.ณัฐพงษ์ ได้มอบสำนวนการสืบสวนและพยานหลักฐาน ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายแล้ว

ที่มา : MgrOnline