SELIC ย้ายจาก mai เข้า SET ดีเดย์26 พ.ย.นี้
เผยแพร่ : 26 พ.ย. 2567 10:39:16
• ย้ายจากตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)
• จัดอยู่ในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม หมวดวัสดุอุตสาหกรรมและเครื่องจักร
• เพื่อเพิ่มศักยภาพในการระดมทุน
• เพื่อเพิ่มโอกาสการเติบโตของบริษัท
"ซีลิค" ย้ายกระดานเทรด 26 พ.ย.67 จาก mai ไปสู่ SET กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม (Industrials) หมวดวัสดุอุตสาหกรรมและเครื่องจักร (Industrial Materials & Machine) ยกระดับองค์กรเข้าสู่แหล่งระดมทุนที่มีศักยภาพ เพิ่มโอกาสในการเติบโตยั่งยืน หนุนแผนธุรกิจในอนาคต
นายณรงค์ สุวัฒนพิมพ์ รองประธานกรรมการ และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีลิค คอร์พ จำกัด (มหาชน) หรือ SELIC ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่าย รวมทั้งวิจัยและพัฒนากาวอุตสาหกรรมที่ใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม (Specialty and High Performance Adhesive) เพื่อจำหน่ายให้แก่ลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ เปิดเผยว่า การย้ายกระดานซื้อขายจากตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) สู่กระดานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ของ บมจ.ซีลิค คอร์พ หรือ SELIC ในครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อการยกระดับองค์กรเข้าสู่แหล่งระดมทุนที่มีศักยภาพ และเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจให้เติบโตแบบยั่งยืน พร้อมเปิดโอกาสให้กลุ่มนักลงทุนสถาบันชั้นนำทั้งในและต่างประเทศเข้ามาลงทุนกับบริษัทมากยิ่งขึ้น
โดย บมจ.ซีลิค คอร์พ มีคุณสมบัติครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ของ บจ. mai ที่จะย้ายเข้าซื้อขายใน SET มีดังนี้ 1.มีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 300 ล้านบาทขึ้นไป 2.ส่วนผู้ถือหุ้นมากกว่า 300 ล้านบาทขึ้นไป 3.มีกำไรสุทธิในระยะเวลา 2 ปี หรือ 3 ปี ล่าสุดก่อนยื่นคำขอรวมกันมากกว่า 50 ล้านบาท โดยในปีล่าสุดก่อนยื่นคำขอมีกำไรสุทธิมากกว่า 30 ล้านบาท และมีกำไรสะสมก่อนยื่นคำขอ 4.มีราคาพาร์ไม่ต่ำกว่า 0.50 บาท และ 5.มีจำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อย 1,000 รายขึ้นไป
สำหรับภาพรวมธุรกิจภายในปี 2567 คาดบริษัทสามารถเติบโต 10-15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยรอบ 9 เดือนของปี 67 บริษัททำรายได้รวมอยู่ที่ 1,591.01 ล้านบาท เติบโต 14.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว จากการรวมธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพเข้ามาในสัดส่วนที่มีนัยสำคัญ และมีกำไรขั้นต้น 467.68 ล้านบาท เติบโต 25.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นเป็น 29.6% จากอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่อยู่ในระดับสูง รวมถึงการพัฒนาขึ้นจากกำไรขั้นต้นของธุรกิจกาวอุตสาหกรรม และธุรกิจสติกเกอร์หรือฉลากที่มีกาวในตัว ด้านผลประกอบการไตรมาส 3/2567 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 523.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.1% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 8.3% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ก้าวต่อไปของซีลิคจะเน้นเดินหน้าธุรกิจแบบเต็มสูบ โดยให้ความสำคัญกับ 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจกาวอุตสาหกรรม ธุรกิจสติกเกอร์หรือฉลากที่มีกาวในตัว และธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพจากการมีกลุ่มธุรกิจที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้งแบบ B2B และ B2C รวมถึงสัดส่วนของกลุ่มลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศที่พอเหมาะ ทำให้บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจภายใต้ภาวะที่ท้าทายได้เป็นอย่างดี สะท้อนได้จากการเติบโตของรายได้ในทุกกลุ่มธุรกิจหลัก นอกจากนี้ บริษัทยังได้มองหาโอกาสใหม่ๆ ในการขยายฐานลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีอัตราการเติบโต หวังเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการขายและบริการทั้งในประเทศและต่างประเทศ พร้อมสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต
ที่มา : MgrOnline