บุกทลายเหมืองขุดบิตคอยน์เถื่อนแอบลักไฟหลวงใช้ ความเสียหายร่วมล้านบาท

เผยแพร่ : 25 พ.ย. 2567 23:01:40
X
• เหมืองแอบลักไฟฟ้าหลวงใช้ โดยเช่าตึกแถวอ้างเก็บอะไหล่รถซิ่ง
• เป็นการพบครั้งแรกในอยุธยา
• ความเสียหายจากการลักลอบใช้ไฟฟ้ากว่าหนึ่งล้านบาท

พระนครศรีอยุธยา - การไฟฟ้าร่วมกับตำรวจอยุธยาบุกทลายเหมืองขุดบิตคอยน์เถื่อนแอบลักไฟหลวงใช้ หลังมาเช่าตึกแถวอ้างเก็บอะไหล่รถซิ่ง เป็นการพบครั้งแรกในอยุธยา ความเสียหายร่วมล้าน

เย็นวันนี้ (25 พ.ย.) ที่อาคารพาณิชย์ สูง 3 ชั้นตั้งอยู่ริมถนนสายเอเชีย ขาเข้ากรุงเทพฯ  เลขที่ 117/9 หมู่ที่ 3 ตำบลคลองสวนพลู อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา นายพิสิษฐ์ เจริญนพศักดิ์ ผู้จัดการการไฟฟ้าสาขาอยุธยา พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่จากการไฟฟ้าสาขาอยุธยา เข้าบุกตรวจสอบพบว่ามีการล็อกประตูเหล็กม้วนด้านล่าง จึงทำการตัดเข้าไปตรวจสอบ พบที่ชั้นล่างมีการเจาะพื้นร้อยสายไฟทะลุพื้นขึ้นไปชั้น 3 จึงขึ้นไปตรวจสอบด้านบนพบอุปกรณ์ เครื่องขุดบิตคอยน์ จำนวน 31 เครื่อง คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง พัดลมขนาดใหญ่ 1 ตัว และอุปกรณ์สายไฟ จึงได้ทำการตรวจยึดทั้งหมด

พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า คดีนี้คือเงินดิจิทัล เป็นการกระทำของผู้ที่รู้ในด้านนี้เป็นอย่างดี โดยจะได้รับเงินส่วนแบ่งจากเงินดิจิทัล แต่ที่พลาดและผิด คือการใช้ไฟฟ้าฟรี คือการลักทรัพย์ของการไฟฟ้า 2 เดือนที่มีการเปิดใช้ไป ค่าไฟเสียหายประมาณ 4 แสนบาท ส่วนตัวเครื่องขุดบิตคอยน์ จะต้องตรวจสอบการนำเข้า ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้การไฟฟ้าตรวจสอบพบความผิดปกติของสถานที่แห่งนี้จึงไปแจ้งความร้องทุกข์ข้อหาลักทรัพย์ ถือว่าเป็นครั้งแรกในพื้นที่อยุธยา

อยากฝากถึงผู้ที่กระทำผิด คุณได้ประโยชน์ของคุณแต่ไม่ควรมาลักทรัพย์ของชาติ ซึ่งไม่ถูกต้อง ควรทำให้ถูกและสุจริต ตอนนี้เราจะทำการตรวจสอบให้ได้ตัวผู้กระทำผิดโดยเร็ว เพราะที่พบเป็นการควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ พอเช่าทำอะไรเสร็จเขาล็กปล่อยให้เครื่องทำงานไปมีการดูจากข้างนอกไม่ต้องเข้ามาดูด้วยตัวเอง มีการจ่ายค่าเช่าปกติ แต่ที่ไม่ปกติ คือมาลักไฟหลวงใช้ เพราะเราตรวจสอบพบเครื่องทำงานอยู่แต่มิเตอร์ไฟไม่เดิน ระหว่างการขยายผลติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินการตามกฎหมาย

ด้าน นายพิสิษฐ์ เจริญนพศักดิ์ ผู้จัดการการไฟฟ้าสาขาอยุธยา เปิดเผยว่า การมาพบความผิดปกติในครั้งนี้เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่จากการไฟฟ้ามาตรวจสอบมิเตอร์ไฟ ปรากฏว่ามิเตอร์ไม่หมุน เราจึงได้จัดเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบพบว่าที่สายไฟที่วิ่งเข้าไปในตึกมีกระแสไฟวิ่งเข้าไป 90 แอมป์ ทั้ง 3 เฟส เราจึงมั่นใจว่าต้องมีการละเมิดการใช้ไฟ น่าจะเป็นการขุดบิตคอยน์ จึงมีการไปแจ้งความและมาตรวจสอบในครั้งนี้

โดยพบว่าน่าจะมีการละเมิดการใช้ไฟ โดยใช้สารบางอย่างเจอรูและหยอดลงไปที่ตัวมิเตอร์ไฟ ทำให้จานที่ตัวมิเตอร์ไม่หมุน ประกอบกับการตรวจสอบการใช้กระแสไฟจึงเชื่อว่าเป็นการลักใช้ไฟฟ้าในการขุดบิตคอยน์ ซึ่งเราได้พบใช้งานอยู่ 24 ตัว มีสำรองอยู่อีก 7 ตัว รวมเป็น 31 ตัว มูลค่าความเสียหาย พบว่าเพิ่งมีการมาเช่าได้ 2 เดือน เดือนละประมาณ 200,000 บาท และค่าปรับอีกประมาณ 220,000 บาท ร่วม 620,000 บาท ซึ่งเป็นการประเมินในเบื้องต้น

อยากฝากเตือนหรือประชาชน ถ้าพบเห็นการใช้ไฟผิดปกติให้แจ้งการไฟฟ้าได้ทันที หรือโทร.1129 ซึ่งผิดคือเป็นการละเมิดลักไฟหลวงไปใช้ทำให้เกิดความเสียหาย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มีการตรวจพบในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ส่วน นายชัยพล เจ้าของอาคารพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อประมาณ 2 เดือนที่แล้ว เขาโทร.ติดต่อเข้ามาหาเราเพราะเราติดต่อให้เช่าไว้ ว่าขอดูห้อง จึงมาเปิดให้เขาดู เป็นวัยรุ่นชาย 3 คน เขาก็ตอบตกลง โดยเขาบอกว่าจะมาเก็บของรถแต่งหรืออะไหล่รถแต่ง เราไม่คิดอะไร เพราะทำสัญญาเสร็จเราให้ลูกค้าเลย เราไม่ได้มาดูเลย เพราะถ้าลูกค้ามาเช่าพอทำสัญญาเสร็จเราไม่เข้ามายุ่งอยู่แล้ว ส่วนการจ่ายค่าเช่า เขาจะใช้แบบฝากผ่านตู้เงินสดธนาคาร โดยจะไม่มีการโอนให้เรา ซึ่งไม่คิดว่าจะมาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ ฝากให้คนที่คิดจะให้ใครเช่าต้องดูให้รอบคอบ ต้องถามให้หมด ต้องลงในสัญญาให้ครบ

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดของทั้งหมด พร้อมตรวจสอบเอกสารการเช่าว่าผู้เช่าเป็นใคร ตรวจสอบการเงิน เพื่อดำเนินการเร่งรัดติดตามตัวผู้กระทำความผิดในครั้งนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป






ที่มา : MgrOnline