“อิ๊งค์” ขอบคุณ ศปช.ทำงานเชิงรุก จี้แผนแก้น้ำท่วมเชียงใหม่-เชียงราย ห้ามท่วมซ้ำ สั่งดูเยียวยากำลังพล
เผยแพร่ : 25 พ.ย. 2567 15:43:32
• แผนแก้ปัญหาน้ำท่วมจะเสนอ ครม.สัญจร
• ต้องแล้วเสร็จก่อนฤดูฝนปีหน้า เพื่อป้องกันน้ำท่วมซ้ำ
• สั่งการ "บิ๊กอ้วน" ดูแลเรื่องเงินเยียวยากำลังพล
นายกฯ ขอบคุณ ศปช.ทำงานเชิงรุก เตรียมเคาะแผนแก้ปัญหาน้ำท่วมเชียงใหม่-เชียงราย ชง ครม.สัญจร ย้ำ! ต้องเสร็จก่อนฤดูฝนปีหน้า อย่าให้ท่วมซ้ำ พร้อมสั่งการ “บิ๊กอ้วน” ดูแลกำลังพลเรื่องเงินเยียวยา
วันนี้ (25 พ.ย.) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี และโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) เปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะ ผอ.ศปช. ดูแลเยียวยากำลังพลทหารที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ประสบอุทกภัย ซึ่งบางส่วนได้พักอาศัยอยู่ในพื้นที่ประสบภัย แต่ยังไม่ได้รับเงินเยียวยาเนื่องจากติดขัดเรื่องข้อจำกัดระเบียบทางราชการ
“หน่วยทหารได้ปฏิบัติงานช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ส่วนหน้ามาตลอด ซึ่งกำลังพลก็ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม แต่ยังไม่ได้รับเงินเยียวยา 9,000 บาท ที่ประชุม ศปช. ได้เห็นชอบในหลักการให้กระทรวงกลาโหม รวบรวมรายชื่อหน่วยงานกำลังพล ส่งให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยหารือแนวทางดำเนินการกับกรมบัญชีกลางอย่างใกล้ชิด โดยขอให้ดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของกำลังพลที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว”
ทั้งนี้ ผอ.ศปช. ติดตามความคืบหน้าของคณะทำงานศึกษาวางแผนการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและดินโคลนถล่ม ในพื้นที่ภาคเหนือ ที่มี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม เป็นประธาน เพื่อกำหนดแนวทางป้องกันปัญหาน้ำท่วมและดินโคลนถล่มในพื้นที่ จ.เชียงใหม่-เชียงราย ไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยเหมือนในปีที่ผ่านมา
นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า นายกรัฐมนตรี ได้ชื่นชม ศปช. ที่ทำงานเชิงรุกเพื่อป้องกันปัญหาในอนาคตให้กับประชาชน โดยวันนี้ ที่ประชุมได้วางแผนการทำงานในระยะเร่งด่วน ซึ่งจะต้องเร่งให้เสร็จทันก่อนฤดูฝนปีหน้า หรือแล้วเสร็จภายในเดือน พ.ค. 68 โดยจะเร่งขุดลอกแหล่งน้ำ และกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ ซึ่งวันนี้ส่วนที่เกี่ยวข้องเสนอแผนเข้ามาได้เห็นชอบในหลักการและเสนอเข้าที่ประชุม ครม.สัญจรในสัปดาห์นี้เพื่อให้สามารถเริ่มดำเนินงานได้ตั้งแต่ 1 ม.ค. เป็นต้นไป ส่วนแผนระยะกลาง ระยะยาว จะมีการขุดคลองผันน้ำ การสร้างแนวป้องกันตลิ่ง และการจัดทำแก้มลิงชั่วคราว ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาแม่น้ำปิง จ.เชียงใหม่ และ แม่น้ำกก จ.เชียงราย ได้”
นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า สำหรับการแก้ไขแม่น้ำสาย ที่เป็นแม่น้ำระหว่างประเทศไทยและเมียนมานั้น ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมไทย-เมียนมา เกี่ยวกับเขตแดนคงที่ ช่วงแม่น้ำสาย-แม่น้ำรวก (JCR) ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่า การขยายช่องทางการไหลของน้ำ โดยการขุดลอกแม่น้ำสาย-แม่น้ำรวก เป็นแนวทางสำคัญการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม รวมทั้งปัญหาสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำแม่น้ำให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการตามกฎหมายระหว่างประเทศ
“มีเสียงสะท้อนและความกังวลจากประชาชนชาวแม่สาย ว่า ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่อย่างช่วงที่ผ่านมาอีก จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องแก้ปัญหาการรุกล้ำลำน้ำเพื่อลดผลกระทบต่อบ้านเรือนประชาชนและเศรษฐกิจในพื้นที่ ซึ่งที่ประชุมได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยและจังหวัดเชียงรายพิจารณาแนวทางการดำเนินงานอย่างรอบคอบโดยต้องดูแลผู้ได้รับผลกระทบอย่างรอบด้าน” นายจิรายุ กล่าว
ที่มา : MgrOnline