RBF แย้มโค้งสุดท้ายปีนี้สดใส รับออเดอร์ใน-นอกพุ่ง

เผยแพร่ : 25 พ.ย. 2567 14:59:31
X
• ตลาดในประเทศและต่างประเทศเติบโตดี
• ช่วงเทศกาลปลายปีหนุนคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น
• ตลาดเวียดนาม อินโดนีเซีย และอินเดีย ยังคงมีออเดอร์เข้าอย่างต่อเนื่อง

อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัปพลายประเมินผลงานโค้งสุดท้ายของปี 2567 สดใสต่อเนื่อง รับแรงหนุนทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ แย้มเข้าสู่ช่วงเทศกาลปลายปีหนุนคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น ส่วนตลาด “เวียดนาม-อินโดฯ-อินเดีย” ยังฮอต ออเดอร์ไหลเข้าไม่หยุด มั่นใจหนุนผลงานเติบโตอย่างยั่งยืน
 

พ.ท.พญ.จัณจิดา รัตนภูมิภิญโญ กรรมการบริษัท และนายสุรนาถ กิตติรัตนเดช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ RBF ร่วมนำเสนอข้อมูลในงานบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน (Opportunity Day) ผ่านช่องทางออนไลน์ ถึงผลประกอบการไตรมาส 3/2567 มีรายได้ 1,082.52ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.04% จากไตรมาสก่อนที่ 1,030.55 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 108.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.84 % จากไตรมาสก่อนที่ 102.92 ล้านบาท โดยการเติบโตดังกล่าวเป็นผลจากยอดขายในประเทศที่มีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

สำหรับไตรมาสสุดท้ายของปี 2567 บริษัทมองว่าทิศทางธุรกิจยังเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 3/2567 โดยมีปัจจัยหนุนจากยอดขายที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งจากในประเทศและต่างประเทศซึ่งผลิตภัณฑ์ในกลุ่มแต่งกลิ่นรสและสีผสมอาหารมีอัตราการเติบโตที่ดี อีกทั้งมีปริมาณการสั่งซื้อสินค้าจากลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้นในช่วงเทศกาลหนุนให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ความคืบหน้าของธุรกิจในตลาดต่างประเทศอย่างเช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย และอินเดีย มีแนวโน้มการเติบโตที่โดดเด่นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเวียดนาม และอินโดนีเซีย ที่มียอดคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน จากกำลังซื้อที่สูงในทั้งสองประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับอัตราการเติบโตของ GDP โดยเฉพาะเวียดนามมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูงสุดในไตรมาสนี้ที่ 7.4% สะท้อนถึงการเติบโตที่แข็งแกร่งและการขยายตัวของตลาดภายในประเทศที่มีแนวโน้มดีอย่างต่อเนื่องทำให้การบริโภคภายในประเทศเติบโตอย่างมีศักยภาพ นอกจากนี้ โรงงานใหม่ (เฟส 2) ที่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งได้เริ่มเดินเครื่องผลิตอย่างเป็นทางการตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม 2567 ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยเพิ่มยอดขายให้บริษัทอย่างต่อเนื่อง 
 
เช่นเดียวกับประเทศอินเดีย มีปริมาณการส่งออกปรับตัวเพิ่มขึ้น และแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างก่อสร้างโรงงาน คาดว่าจะเปิดดำเนินการในช่วงกลางปี 2568 ซึ่งภายหลังการเปิดดำเนินการคาดว่าจะทำให้ต้นทุนปรับตัวลดลงมาอยู่ในระดับที่เหมาะสม ส่งผลให้กำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้น 
ส่วนการขยายตลาดในประเทศรัสเซีย คาดว่าจะเริ่มเห็นคำสั่งซื้อเข้ามาในช่วงต้นปี 2568 และมุ่งเน้นการใช้กลยุทธ์นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในท้องถิ่น 

ที่มา : MgrOnline