* กระทรวงคมนาคมหารือ กทม. และ ทอท. แก้ปัญหาเรื่องเสียงรบกวนจากรันเวย์ที่ 3 สนามบินสุวรรณภูมิ * จะเร่งชดเชยผลกระทบให้ประชาชน * จะประชาสัมพันธ์หลักเกณฑ์การชดเชยให้ชัดเจน * คาดว่าจะเริ่มจ่ายชดเชยได้ต้นปี 2568
“คมนาคม” ถก "กทม.-ทอท." ร่วมแก้ปัญหาและเร่งชดเชยผลกระทบด้านเสียงจากการเปิดใช้รันเวย์ที่ 3 “สุวรรณภูมิ” พร้อมประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจ ปชช.ถึงหลักเกณฑ์ชดเชย คาดเริ่มทยอยจ่ายได้ต้นปี 68

นายกิตติพล รวยฟูพันธ์ รองโฆษกกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า วันนี้ (25 พ.ย.) ได้มีการประชุมหารือกับ นายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา ประธานสภากรุงเทพมหานคร และ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ในกรณี "การชดเชยผลกระทบด้านเสียงโครงการทางวิ่งเส้นที่ 3 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ" เนื่องจากมีประชาชนหลายหลังคาเรือนที่อยู่ในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงสนามบินฯ ร้องเรียนและสอบถามถึงหลักเกณฑ์การได้รับการชดเชยและช่องทางการติดต่อในการแจ้งข้อมูล

ในที่ประชุมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันหาแนวทางการแก้ไขถึงปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบได้รับผลประโยชน์อย่างเหมาะสมและเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายตามข้อกฎหมาย 

ซึ่งมีแนวทางการแก้ไขดังนี้

สำหรับกลุ่มที่อยู่ในหลักเกณฑ์การชดเชย จะเร่งดำเนินการปรับแผนการจ่ายเงินค่าชดเชย พร้อมกับจ้างที่ปรึกษาเพื่อประเมินราคาและจ่ายเงินค่าปรับอาคารเพิ่มให้ครบจำนวนที่เพิ่มขึ้นอย่างเหมาะสม ทั้งนี้กลุ่มที่มีปัญหาเอกสารกรรมสิทธิ์ จะเสนอเข้าคณะทำงานของหน่วยงานราชการ เพื่อรับรองเอกสารให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป

สำหรับกลุ่มที่อยู่นอกหลักเกณฑ์การชดเชย ล่าสุดได้ร่วมกับกรมควบคุมมลพิษ เข้าลงพื้นที่ตรวจสอบระดับเสียงจริง หากพบว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ได้รับผลกระทบ จะชดเชยให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด

ด้านนายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา ประธานสภากรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมาได้มีประชาชนเข้ามาร้องเรียนต่อ กทม.ถึงปัญหาผลกระทบทางเสียง จึงได้ขอความร่วมมือกับกระทรวงคมนาคม และ ทอท.เพื่อสอบถามถึงความคืบหน้า ซึ่งพบว่าทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินงานกันอย่างเคร่งครัด แต่ยังไม่สามารถรับการร้องเรียนของประชาชนได้อย่างทั่วถึงและครบถ้วน ดังนั้น กทม.จึงพร้อมสนับสนุนที่จะร่วมมือในการเป็นสื่อกลางการประชาสัมพันธ์ และกระจายข้อมูล เพื่อให้ประชาชนได้ทราบถึงขั้นตอนและกระบวนการต่างๆ ในการดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเหมาะสมและเท่าเทียมกันทุกฝ่าย

ทั้งนี้ ทอท.ได้แจ้งถึงกระบวนการในการดำเนินงาน ซึ่งทุกฝ่ายได้เร่งรัดจัดทำ โดยทุกขั้นตอนนั้นต้องใช้ความละเอียดสูง เพื่อให้เกิดความถูกต้องเป็นธรรมมากที่สุด เบื้องต้นคาดการชดเชยให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเสียงบริเวณรันเวย์ที่ 3 จะเริ่มในช่วงต้นปี 2568 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ ทอท.รายงานว่าปัจจุบันนี้อยู่ในขั้นตอนของการสรุปปัญหาของจำนวนอาคารที่เพิ่มขึ้นจากที่ระบุไว้ในรายงาน EHIA รวมถึงเอกสารประกอบการรับเงินไม่ครบถ้วน,ไม่ถูกต้อง และรอการรับรองปีปลูกสร้างจากทางราชการ ขณะที่บางหลังคาเรือนไม่ต้องการรับเงินค่าชดเชย ซึ่งหากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ประชาชนได้ทราบต่อไป

พร้อมกันนี้ ทอท.จะเร่งดำเนินการประชาสัมพันธ์รายละเอียดข้อมูลต่างๆ ในทุกช่องทาง เพื่อให้ประชาชนได้ทราบข้อมูลข่าวสารอย่างรวดเร็วและทั่วถึง พร้อมทั้งจะตรวจสอบช่องทางการรับเรื่องร้องเรียนผ่านโทรศัพท์ส่วนกลาง และช่องทางอื่นๆ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงได้สะดวกมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2564 เห็นชอบการปรับหลักเกณฑ์การชดเชยผู้ที่ได้รับผลกระทบทางเสียงจากการก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 3 สนามบินสุวรรณภูมิ จากเดิมที่ชดเชยเฉพาะอาคารที่ก่อสร้างก่อนปี 2549 เป็นให้ชดเชยเฉพาะอาคารที่ก่อสร้างอยู่จนถึงวันที่รายงานประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมสำหรับโครงการกิจการ (EHIA) โครงการก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 3 และ 4 สนามบินสุวรรณภูมิ ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ในวันที่ 20 ก.ค. 2563

นอกจากนี้ ครม.ยังมีมติเห็นชอบการขยายกรอบวงเงินการลงทุนโครงการก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 3 ในส่วนของงบประมาณสำหรับการดำเนินชดเชยผลกระทบด้านเสียงเพิ่มขึ้นอีก 6,254 ล้านบาท ทำให้วงเงินชดเชยผลกระทบด้านเสียงเพิ่มขึ้นเป็น 12,564 ล้านบาท และส่งผลให้โครงการก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 3 สนามบินสุวรรณภูมิ เพิ่มขึ้นจาก 21,795 ล้านบาท เป็น 28,050 ล้านบาท

ที่มา : MgrOnline