ตร.แจ้ง 5 ข้อหาหนัก เฒ่าโคราชกราดยิงพร้อมคุมตัวฝากขังศาล ญาติเศร้ารับศพเหยื่อออกจาก รพ.
เผยแพร่ : 25 พ.ย. 2567 12:21:47
• ตำรวจแจ้ง 5 ข้อหาหนักกับผู้ก่อเหตุ
• ผู้ต้องหาถูกนำตัวฝากขัง
• ญาติผู้เสียชีวิตกำลังดำเนินการรับศพเพื่อไปบำเพ็ญกุศล
• ลูกชายผู้เสียชีวิตเผยความเสียใจและยังทำใจไม่ได้
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ตำรวจแจ้ง 5 ข้อหาหนัก เฒ่าโคราชวัย 80 คลั่งกราดยิงน้องสาวดับ หลานสะใภ้สาหัส พร้อมนำตัวฝากขังศาล ขณะลูกและญาติผู้ตายเศร้าติดต่อรับศพเหยื่อออกจาก รพ.ไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด ลูกชายเผยทั้งน้ำตายังทำใจไม่ได้ ลั่นไม่ให้อภัยและครอบครัวตัดขาดไม่นับญาติกับผู้ก่อเหตุอีกต่อ ขอให้ชดใช้กรรมจนถึงที่สุด
วันนี้ (25 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเมื่อเวลา 11.12 น. วันที่ 24 พ.ย. 67 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คงได้รับแจ้งเกิดเหตุยิงกันที่บ้านเลขที่ 20 ม.18 บ้านโนนตาแก้ว ต.คูขาด อ.คง จ.นครราชสีมา ก่อนระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปที่เกิดเหตุ พบมีผู้ถูกยิงเสียชีวิต 1 รายอยู่บริเวณข้างบ้าน ทราบชื่อคือ นางทองมี จันทร์นอก อายุ 74 ปี ถูกยิงเข้าที่บริเวณหน้าอกข้างซ้าย และมีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย คือ นางมะปราง (สงวนนามสกุล) โดยทราบในเวลาต่อมาว่าคนที่ยิงคือ นายสวาสด์ พวงสมบัติ อายุ 80 ปี เป็นพี่ชายของผู้เสียชีวิต ส่วนนางมะปรางเป็นหลานสะใภ้ ซึ่งขณะนั้นผู้ก่อเหตุอยู่ระหว่างขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี และมีอาวุธปืนอยู่ด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงยิงปืนขึ้นฟ้าข่มขู่ และปิดล้อมพื้นที่ ก่อนที่จะสามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้ในเวลาต่อมา โดยผู้ก่อเหตุสารภาพมูลเหตุเกิดจากความขัดแย้งเรื่องที่ดินมรดกจนถูกครอบครัวผู้ตายฟ้องศาลขับไล่ออกจากบ้านที่อาศัยอยู่ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ พ.ต.อ.วทัญญู รุ่งรัศมี ผกก.สภ.คง เปิดเผยว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คงได้ทำการจับกุมนายสวาสด์ พวงสมบัติ อายุ 80 ปี มือปืนผู้ก่อเหตุได้แล้ว ได้สั่งการให้ ร.ต.ท.นิติพงศ์ ศรีสุขวัฒนา พนักงานสอบสวน สภ.สอบสวนผู้ก่อเหตุ ซึ่งจากการสอบสวนทราบว่ามือปืนที่ก่อเหตุเป็นพี่ชายของผู้ตาย ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหลานสะใภ้ โดยมีมูลเหตุมาจากความขัดแย้งกันเรื่องที่ดินมรดกถึงขั้นฟ้องร้องกันในศาล กระทั่งล่าสุดครอบครัวผู้ตายได้ยื่นคำขาดให้นายสวาสด์ออกจากบ้านที่อาศัยอยู่ภายใน 60 วัน ตามคำสั่งศาลที่พิพากษาสิ้นสุดแล้ว ทำให้นายสวาสด์เกิดบันดาลโทสะ ใช้อาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .38 มม. เข้ามากราดยิงในบ้านหลังดังกล่าว จนทำให้นางทองมีเสียชีวิตคาที่ และหลานสะใภ้ได้รับบาดเจ็บ
หลังจากควบคุมตัวผู้ก่อเหตุมาสอบสวนแล้ว ผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้ง 5 ข้อหาหนัก ได้แก่ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, พยายามฆ่าผู้อื่น, มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน, พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุสมควร, ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมืองหมู่บ้านหรือที่ชุมชน ซึ่งวันนี้ (25 พ.ย.) เวลา 09.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คงได้นำตัวผู้ก่อเหตุไปฝากขังไว้ที่ศาลจังหวัดบัวใหญ่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อ.เมืองนครราชสีมา ลูกและญาติพี่น้องของนางทองมี จันทร์นอก ผู้เสียชีวิต ต่างอยู่ในอาการที่เศร้าโศกเสียใจเป็นอย่างมากและยังคงรับไม่ได้ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้เดินทางมารับศพนางทองมีเพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านโนนตาแก้ว อ.คง จ.นครราชสีมา
นายศรัณยู จันทร์นอก ลูกชายของนางทองมีผู้เสียชีวิต บอกว่า ตอนนี้ตนและพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดได้เข้าไปให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ส่วนอาการของหลานสะใภ้ที่ถูกยิงที่แขนนั้นตอนนี้อยู่ในอาการปลอดภัย อยู่ในความดูแลของหมออย่างใกล้ชิด ส่วนพิธีสวดบำเพ็ญกุศลนั้นจะมีการตั้งศพสวดบำเพ็ญกุศลทั้งหมด 3 คืนที่บ้าน ก่อนทำพิธีฌาปนกิจศพของแม่ในวันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน 67 ณ วัดกู่สามัคคี ต.คูขาด อ.คง
"ความรู้สึกของผมและบรรดาญาติๆ ในตอนนี้ต่างรู้สึกไม่ให้อภัยผู้ก่อเหตุ และครอบครัวของผมไม่ขอนับเป็นญาติอีกต่อไป และจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ให้เขาได้รับโทษชดใช้กรรมที่ก่อขึ้น" นายศรัญญู กล่าวทั้งน้ำตา
ที่มา : MgrOnline