สุหนี่-ชีอะต์ปะทะดุเดือดในปากีสถาน ชาวบ้าน 300 ครอบครัวอพยพหนีตาย

เผยแพร่ : 24 พ.ย. 2567 22:26:57
X
• ความรุนแรงครั้งล่าสุดทำให้มีผู้เสียชีวิต 32 คน
• ชาวบ้านราว 300 ครอบครัวอพยพหนีความรุนแรง
• เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน

เอเอฟพี - ชาวบ้านราว 300 ครอบครัวอพยพหนีความรุนแรงจากความขัดแย้งระหว่างมุสลิมนิกายสุหนี่กับชีอะต์ทางตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถานเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (23 พ.ย.) หลังจากการปะทะครั้งใหม่ทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 32 คน ขณะที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนปากีสถานเรียกร้องให้หน่วยงานที่มีอำนาจให้ความสนใจอย่างเร่งด่วนต่อการปะทะในพื้นที่ดังกล่าวที่เกิดถี่ขึ้นอย่างน่าตกใจ และเตือนว่า สถานการณ์ลุกลามในระดับที่เข้าข่ายวิกฤตมนุษยธรรม

การปะทะกันเป็นระยะระหว่างมุสลิมสองนิกายดังกล่าวในแคว้นไคเบอร์ปักตุนควาที่อยู่ติดกับชายแดนอัฟกานิสถาน ทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 150 คนในช่วงเดือนที่ผ่านมา

เจ้าหน้าที่อาวุโสคนหนึ่งเปิดเผยกับเอเอฟพีว่า ประชาชนราว 300 ครอบครัวพากันอพยพไปยังเมืองฮันกูและเปชวาร์ตั้งแต่ช่วงเช้าวันเสาร์เพื่อความปลอดภัย ขณะที่เจ้าหน้าที่อาวุโสอีกคนบอกว่า ยังคงมีการต่อสู้กันระหว่างชุมชนชีอะต์และสุหนี่ในหลายพื้นที่ เฉพาะวันเสาร์มีผู้เสียชีวิต 32 คน แบ่งออกเป็นชาวสุหนี่ 14 คน และชีอะต์ 18 คน

การปะทะระลอกล่าสุดเกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันพฤหัสบดี (21 พ.ย.) มือปืนกลุ่มหนึ่งกราดยิงขบวนรถชาวชีอะต์ 2 ขบวนที่มีตำรวจคุ้มกันในเขตคูรัม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 43 คนและบาดเจ็บสาหัส 11 คน

มุสลิมชีอะต์ยังโจมตีชุมชนสุหนี่หลายแห่งเมื่อค่ำวันศุกร์ (22 พ.ย.) ในเขตคูรัมที่เคยเป็นพื้นที่กึ่งปกครองตนเองซึ่งมีการปะทะระหว่างสองนิกายที่มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

เรฮัน มูฮัมหมัด ผู้สื่อข่าววัย 33 ปีในบากันซึ่งเป็นพื้นที่ที่ประชาชนส่วนใหญ่เป็นชาวสุหนี่ในเขตคูรัม เล่าว่า มีเสียงปืนดังขึ้นหลังพระอาทิตย์ตกวันศุกร์และบ้านหลายหลังไฟไหม้ ซึ่งเขารู้ได้ทันทีว่า เป็นการล้างแค้นเหตุการณ์เมื่อวันพฤหัสบดี จึงพาครอบครัวหนีออกมา

ตำรวจอาวุโสในเขตคูรัมนายหนึ่งกล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ชาวชีอะต์ที่โกรธแค้นกลุ่มหนึ่งบุกเข้าไปในบากันบาซาร์และจุดไฟเผาตลาด รวมถึงบ้านเรือนที่อยู่ใกล้เคียง ขณะที่ชาวสุหนี่ยิงตอบโต้ผู้บุกรุก

จาเวดุลเลาะห์ เมห์ซุด เจ้าหน้าที่อาวุโสในคูรัม เผยว่า มีความพยายามฟื้นความสงบผ่านการส่งกองกำลังความมั่นคงไปประจำการด้วยความช่วยเหลือจากผู้อาวุโสในท้องถิ่น

อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่อีกคนสำทับว่า ทางเขตมีตำรวจและเจ้าหน้าที่ปกครองไม่เพียงพอ ขณะที่หน่วยงานที่มีอำนาจของรัฐบาลกลางและแคว้นเปชวาร์มีปัญหาในการบังคับใช้กฎหมาย และสำทับว่า ได้แจ้งรัฐบาลของแคว้นว่า สถานการณ์เข้าขั้นวิกฤตและจำเป็นต้องส่งทหารไปเพิ่มโดยด่วน

ทั้งนี้ เดือนที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 16 คน ซึ่งรวมถึงผู้หญิง 3 คนและเด็ก 2 คน ในการปะทะระหว่างชาวมุสลิมสองนิกายในเขตคูรัม

การปะทะก่อนหน้านั้นในเดือนกรกฎาคมและกันยายนทำให้มีผู้สังเวยชีวิตหลายสิบคน และจบลงหลังจากจิรกาหรือสภาชนเผ่าเรียกร้องให้หยุดยิง โดยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนปากีสถาน (เอชอาร์ซีพี) ระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 79 คนระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงตุลาคมจากการต่อสู้ระหว่างคนสองลัทธิ

วันศุกร์ที่ผ่านมาประชาชนหลายร้อยคนออกมาประท้วงต่อต้านความรุนแรงในเมืองลาฮอร์ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของปากีสถาน และการาจีที่เป็นฮับการค้าของประเทศ

เจ้าหน้าที่และกลุ่มสิทธิมนุษยชนประณามเหตุการณ์รุนแรงระลอกล่าสุด โดยเอชอาร์ซีพีซึ่งเป็นองค์กรอิสระ เรียกร้องให้หน่วยงานที่มีอำนาจให้ความสนใจอย่างเร่งด่วนต่อการปะทะในพื้นที่ดังกล่าวที่เกิดถี่ขึ้นอย่างน่าตกใจ และเตือนว่า สถานการณ์ลุกลามในระดับที่เรียกได้ว่าเป็นวิกฤตมนุษยธรรม

แถลงการณ์ของเอชอาร์ซีพีสำทับว่า จากข้อเท็จจริงที่ว่า กลุ่มที่เป็นศัตรูกันสามารถเข้าถึงอาวุธหนักได้อย่างชัดเจนบ่งชี้ว่า รัฐไม่สามารถควบคุมการไหลเวียนของอาวุธในพื้นที่ดังกล่าวได้

ที่มา : MgrOnline