* บางจาก ศรีราชา ลงทุน 2-3 พันล้านบาทในปี 2568 * เน้นปรับปรุงโรงกลั่น * ขยายปั๊มบางจากใหม่ * เพิ่มร้านค้าในปั๊ม 500-700 แห่ง * การลงทุนปรับปรุงโรงกลั่นจะดำเนินการอย่างรอบคอบ
“บางจาก ศรีราชา” ทุ่มงบลงทุนปี 68 ราว 2-3 พันล้านบาท เน้นการปรับปรุงโรงกลั่น ขยายปั๊มบางจากใหม่และเพิ่มจำนวนร้านค้าภายในปั๊มอีก 500-700 touchpoints ตอบสนองความต้องการลูกค้า ย้ำคุมเข้มการลงทุนปรับปรุงโรงกลั่นต้องรอบคอบหลังค่าการกลั่นต่ำ

นายบัณฑิต หรรษาไพบูลย์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) หรือ BSRC เปิดเผยว่า ในปี 2568 บริษัทวางงบลงทุนราว 2,000-3,000 ล้านบาท จะเน้นลงทุนในโรงกลั่นน้ำมัน เช่น การซ่อมบำรุง การปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพโรงกลั่น และธุรกิจการตลาด หลังจากการรีแบรนด์เปลี่ยนโลโก้จากสถานีบริการเอสโซ่เป็นบางจากเสร็จสิ้นภายในปีนี้ก็จะเน้นธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (Non oil) มากขึ้น ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของบริษัทแม่ คือ บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) รวมถึงการเพิ่มจำนวนสถานีบริการน้ำมันใหม่ จากปัจจุบันมีสถานีบริการน้ำมันภายใต้แบรนด์บางจาก 746 แห่ง คาดว่าปี 2568 จำนวนสถานีบริการน้ำมันขยับเพิ่มเป็น 800 กว่าแห่งทั่วประเทศ

สำหรับเม็ดเงินลงทุนในธุรกิจโรงกลั่น ก่อนตัดสินใจลงทุนจะมีการพิจารณาอย่างรอบคอบ ระมัดระวังการลงทุน โดยคำนึงถึงสถานการณ์ค่าการกลั่น (GRM) ด้วย ยอมรับว่าปัจจุบันค่าการกลั่นค่อนข้างต่ำมาก ประกอบกับราคาน้ำมันที่ผันผวน ทำให้ภาพรวมอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันประสบปัญหาการขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันและค่าการกลั่นที่ปรับลดลง ดังนั้นบริษัทต้องมีวินัยทางการเงินและการลงทุน
นายบัณฑิตกล่าวว่า ในปีหน้า BSRC วางเป้าหมายกำลังการกลั่นที่ 150,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับที่มีความเหมาะสมและสร้างผลตอบแทนได้สูงสุด โดยในไตรมาส 2/2567 โรงกลั่นน้ำมันบางจาก ศรีราชาสามารถสร้างสถิติใหม่ด้วยกำลังการกลั่นที่ 154,200 บาร์เรลต่อวัน จากช่วงที่เป็นบริษัทเอสโซ่ โรงกลั่นใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอยู่ที่ 130,000 บาร์เรลต่อวัน แต่หากต้องการกลั่นน้ำมันในอัตราที่สูงขึ้น จำเป็นต้องมีการลงทุนปรับปรุงโรงกลั่นบางหน่วยเพื่อให้เดินเครื่องได้ตามกำลังการกลั่นของเครื่องจักรที่ 174,000 บาร์เรลต่อวัน

ส่วนธุรกิจตลาดน้ำมัน ในปี 2568 บริษัทจะหันมารุกธุรกิจ Non oil มากขึ้น โดยจะเพิ่มร้านค้าต่างๆ ภายในสถานีบริการน้ำมัน เพิ่มความหลากหลายสินค้าและบริการตอบสนองความต้องการของลูกค้าจากปัจจุบันบริษัทมี Non oil อยู่แล้ว 400 touchpoints จะเพิ่มอีก 200 touchpoints ในสิ้นปีนี้ และปีหน้ามีแผนเพิ่มอีก 500-700 touchpoints โดยอาศัยจุดแข็งธุรกิจ Non oil จากบางจากฯ ช่วยเสริมแกร่ง

ขณะที่จำนวนสถานีบริการน้ำมันบางจากภายใต้ BSRC ในไตรมาส 3/2567 ได้ปรับลดลงค่อนข้างมากจากไตรมาส 2/2567 อยู่ที่ 821 แห่ง ลดเหลือ 746 แห่ง เนื่องจากไม่มีสถานีบริการของบริษัทเพียวพลังงานไทย จำกัด ภายใต้สัญญาผู้ค้าส่งที่ใช้ตราสินค้า (Branded Wholesaler Agreement) มาจากการที่เพียวพลังงานไทยยกเลิกสัญญาดังกล่าวมีผลวันที่ 31 สิงหาคม 2567 ดังนั้น BSRC จึงเร่งขยายเครือข่ายสถานีบริการเครือข่ายเพิ่มมากขึ้น

“ในไตรมาส 4 นี้เป็นช่วงไฮซีซันของการท่องเที่ยว ทำให้ยอดการใช้น้ำมันปรับเพิ่มขึ้น โดยบริษัทรักษาอัตราการกลั่นน้ำมันที่ 150,000 บาร์เรลต่อวัน ขณะที่ค่าการกลั่นมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นกว่าไตรมาสก่อน”

อย่างไรก็ดี ตลอดระยะเวลากว่า 1 ปี ภายหลังบางจากฯ เข้ามาควบรวมกิจการและถือหุ้นใหญ่ใน บมจ.เอสโซ่ (ประเทศไทย) แล้วเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) หรือ BSRC เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2566 บริษัท BSRC ได้ร่วมกับกลุ่มบริษัทบางจากในการสร้างมูลค่าเพิ่มจากการรับรู้ Synergy สูงถึง 4,400 ล้านบาทภายใน 9 เดือนแรกของปี 2567 ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 2,500 ล้านบาทอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้มั่นใจว่ามูลค่าในการ Synergy ร่วมกันสิ้นปีนี้รวม 5,000 ล้านบาท และในปี 2568 BSRC ตั้งเป้าหมายการ Synergy ร่วมกันจะได้ไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท เพราะอยู่ระหว่างหาช่องทางการ Synergy เพิ่มเติมและรักษาการ Synergy เดิมเอาไว้ ขณะที่บางจากฯ ได้ตั้งเป้าหมายการ Synergy ร่วมกันเพิ่มขึ้นที่ 5,500 ล้านบาทในปีหน้า

นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างจัดทำแผนการลงทุนช่วง 5 ปี (2568-2572) มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพธุรกิจน้ำมันเป็นหลัก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ปรับปรุงโรงกลั่นซึ่งมีหลายหน่วยที่ถึงเวลาต้องปรับเปลี่ยน รวมถึงพัฒนาท่าเรือรับน้ำมันให้สามารถรองรับเรือที่ขนาดใหญ่ขึ้นทำให้ต้นทุนค่าขนส่งต่อหน่วยลดลง และเร่งปรับรูปแบบสถานีบริการน้ำมันให้ทันสมัยมากขึ้น โดยได้นำผลิตภัณฑ์น้ำมันเกรด Premium มาจำหน่าย รวมถึงการจำหน่ายน้ำมันเครื่องด้วย

เมื่อเดือน ก.ค. 2567 BSRC ประสบความสำเร็จในการออกและเสนอขายหุ้นกู้เป็นครั้งแรก โดยนักลงทุนสถาบันแสดงความสนใจลงทุนอย่างท่วมท้น ปิดยอดขายหุ้นกู้ที่ 4,000 ล้านบาท เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้กว่าเท่าตัว

ที่มา : MgrOnline