* ตำรวจราชบุรีถูกกล่าวหาเรียกรับสินบน 5 แสนบาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัวผู้ต้องหาคดียาเสพติด * ผบก.ภ.จว.ราชบุรี สั่งสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว * เบื้องต้นตั้งข้อกล่าวหา เรียกรับสินบน, ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ และร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว * ตำรวจตชด.ชุดจับกุมประสานขอความร่วมมือในการสอบสวน
ราชบุรี - ผบก.ภ.จว.ราชบุรี สั่งการให้ทำการสอบสวนให้ปรากฏข้อเท็จจริง ตำรวจรีด 5 แสนบาท แลกปล่อยตัวคดียาเสพติด เบื้องต้นตั้งข้อกล่าวหาเรียกรับสินบน ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ และร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว ล่าสุด ตชด.ชุดจับกุมประสานขอเงินคืน 280,000 บาท พร้อมโทร.ขอโทษผู้เสียหาย

จากกรณีตำรวจรีดเงิน โดยมีผู้ต้องหาถูกจับกุมในพื้นที่ สภ.เขาดิน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี จากทางกองร้อย ตชด.137 อ.สวนผึ้ง จำนวน 11 คน และได้นำตัวไปเรียกเงินจำนวน 500,000 บาท เพื่อให้ปล่อยตัวผู้ต้องหายาเสพติดแต่ไม่มีเงินเพียงพอจึงได้เรียกเอาทรัพย์สินไปเป็นทองคำประมาณ 5 บาท และเงินสดอีกจำนวน 80,000 บาท พร้อมทั้งมีการเรียกเงินเป็นรายเดือน นางอารีย์ ทองคำ ผู้เสียหายได้เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาดิน ได้รับเรื่องไว้แล้วนั้น และได้มีการประสานงานนำเงินมามอบให้ผู้เสียหายเป็นเงิน 280,000 บาท

ล่าสุด วันนี้ (23 พ.ย.) พล.ต.ต.วชิรพงษ์ อมราพิทักษ์ ผบก.ภ.จว.ราชบุรี ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน สภ.เขาดิน ส่งสำนวนการสอบสวนดังกล่าวให้พนักงานสอบสวน สภ.สวนผึ้ง ซึ่งเป็นท้องที่เกิดเหตุ ซึ่งพนักงานสอบสวนของ สภ.สวนผึ้ง ได้รับสำนวนไว้แล้วโดยได้เดินทางมารับตัว นางอารีย์ ทองคำ ผู้เสียหายไปที่ สภ.สวนผึ้ง เพื่อทำการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ให้ครบถ้วน ได้สั่งการให้ทำการสอบสวนให้ปรากฏข้อเท็จจริง ชัดเจน หากพบการกระทำผิดให้ดำเนินการทั้งทางวินัย และทางอาญาขั้นเด็ดขาดทันที

โดยให้ทำการสอบสวนด้วยความรวดเร็ว รอบคอบ บริสุทธิ์ ยุติธรรม และให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย พร้อมทั้งสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาดิน และ สภ.โพธาราม ร่วมกัน เข้าไปตรวจเยี่ยมผู้เสียหาย เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัย และสร้างความมั่นใจให้ผู้เสียหาย และครอบครัว ทางชุดจับกุมได้ประสานงานนำเงินมามอบให้ผู้เสียหาย จำนวน 280,000 บาทแล้วในเบื้องต้น

พ.ต.ท.อภิมุข ธนเดชคุณาภรณ์ รอง ผกก.ป. รักษาราชการแทน ผกก.สภ.เขาดิน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี กล่าวว่า อย่างที่เป็นข่าวว่ามีการจับยาเสพติดในพื้นที่ของ สภ.เขาดิน แต่ยังไม่ได้มีการนำส่ง สภ.เขาดิน แต่นำกลับไปสอบที่กองร้อย ตชด.137 อ.สวนผึ้ง ต่อมาถึงได้นำผู้ต้องหาและของกลางเข้าสู่ระบบ ซึ่งในช่วงนั้นไม่ทราบว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ต่อมา มีภรรยของผู้ที่ถูกจับมาร้องขอความเป็นธรรมว่ามีการเรียกรับเงิน ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนแต่ปรากฏว่าเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นในพื้นที่ของ สภ.สวนผึ้ง ทางพนักงานสอบสวนของ สภ.เขาดิน ได้ทำเอกสารโดยมีใบปะหน้าตามระเบียบ ซึ่งหากเกิดเหตุในพื้นไหนเมื่อมีการตรวจสอบแล้วจะต้องส่งเรื่องไปให้ท้องที่นั้นรับผิดชอบ ซึ่งเป็นการดำเนินการตามขั้นตอน

ส่วนกรณีที่มีข่าวเรื่องของการนำเงินมาคืนผู้เสียหายนั้น เบื้องต้น ตามที่ภรรยาของผู้เสียหายมาร้องในช่วงแรกนั้นเพื่อต้องการเงินและของที่ถูกยึดไปคืน ซึ่งทางตำรวจจะต้องดำเนินการตามวัตถุประสงของผู้ร้อง แต่ปรากฏเป็นข่าวเรื่องที่ผู้จับกุมยึดเงินไป รู้เรื่องนี้เข้าจึงได้ให้คนนำเงินจำนวน 280,000 บาท มาคืนให้ผู้ร้อง ซึ่งทางผู้ร้องนั้นจะรับหรือไม่ก็แล้วแต่ แต่ผู้ร้องได้ยินดีรับเงินจำนวนนี้คืน ซึ่งทางคนที่จับกุมอ้างว่าเป็นการเยียวยา ส่วนในทางคดีนั้น การเรียกรับเงินเป็นคดีอาญาทางตำรวจจะต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ในเบื้องต้น สำนวนจะส่งเรื่องไป สภ.สวนผึ้ง และทาง สภ.สวนผึ้ง จะต้องส่งเรื่องให้ทางป.ป.ช. เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาเป็นข้าราชการ ทาง ป.ป.ช.จะต้องมีการชี้มูล ซึ่งอาจจะส่งเรื่องกลับมาให้ทาง สภ.สวนผึ้ง ดำเนินการต่อ หรือทาง ป.ป.ช.จะดำเนินการเองก็ได้ ซึ่งในเรื่องนี้ทางผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ราชบุรี ได้ให้ความสนใจ ได้กำชับให้ทาง สภ.เขาดิน ให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ซึ่งในเบื้องต้นได้ตั้งข้อกล่าวหาความผิดฐานร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับสินบน ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ และร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว

ส่วนนางอารีย์ ทองคำ ผู้เสียหายเผยว่า มีคนโทร.มาบอกว่าอยากคุยด้วย อยากขอโทษ และขณะนี้ทางฝั่ง ตชด. เอาเงินมาคืนรวมทั้งทองคำที่ยึดไปด้วย โดยเขาให้บาทละ 40,000 บาท ในส่วนของคดีนั้นไม่อยากเอาเรื่อง ซึ่งไม่ได้มีการข่มขู่แต่ยังรู้สึกกลัว ส่วนทองคำที่ถูกยึดไปนั้นได้มาจากการขายหมูไป 21 ตัว แล้วนำเงินไปซื้อทอง





ที่มา : MgrOnline