HP พร้อมชน! ชิงแชมป์ AI PC แข่งเดือดปี 68

เผยแพร่ : 23 พ.ย. 2567 08:01:23
X
• หน่วยประมวลผลเฉพาะสำหรับ AI ฝังอยู่
• มากกว่าแค่ CPU และ GPU มีหน่วยประมวลผลเพิ่มเติมสำหรับการประมวลผล AI
• ออกแบบมาเพื่อการประมวลผล AI โดยเฉพาะ

AI PC คือคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่มีหน่วยประมวลผลพิเศษฝังอยู่เพื่อทำงานด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) เครื่องที่เป็น AI PC จะไม่ได้มีเพียงหน่วยประมวลผลกลาง (CPU) หรือหน่วยประมวลผลกราฟฟิก (GPU) เหมือนคอมพิวเตอร์รุ่นก่อน แต่จะมีหน่วยประมวลผลแบบเส้นประสาท (NPU) ที่จะเพิ่มพลังให้ AI PC ทำงาน AI ได้เก่งขึ้น



ความเก่งนี้ทำให้ AI PC เป็นดาวเด่นที่วงการไอทีเชื่อว่าจะทำเงินมหาศาลในปี 2568 ข้อมูลจากการ์ทเนอร์ (Gartner) คาดว่ายอดการจัดส่ง AI PC จะคิดเป็น 43% ของยอดจัดส่งคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหรือ PC ทั้งหมดทั่วโลก



ความฮอตของ AI PC ส่งสัญญาณร้อนแรงไปอีกหลายปี Gartner เชื่อว่าในปี 2568 ปริมาณการจัดส่ง AI PC ทั่วโลกจะอยู่ที่ 114 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 165.5% จากปี 2567 โดยเฉพาะกลุ่มคอมพิวเตอร์พกพาที่การสำรวจพบว่าภายในปี 2569 คอมพิวเตอร์วางตักหรือ Laptop ที่จำหน่ายให้องค์กรขนาดใหญ่นั้น จะมี Al Laptop เป็นตัวเลือกเดียวในตลาด



ท่ามกลางสัญญาณการแข่งเดือดของ AI PC ในช่วงไม่กี่เดือนนับจากนี้ เอชพี (HP) ได้ตั้งเป้าหมายเป็นผู้นำตลาด AI PC ในไทย โดยเตรียมแผนขยายตลาดสู่ภาคธุรกิจและสร้างระบบนิเวศ AI ที่แข็งแกร่งภายในปี 2568 ด้วยนวัตกรรมที่การันตีว่าตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค



***คึกคักรับโค้งสุดท้ายปี 67



“สุธี สุวงศ์วัฒนากุล” ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ กลุ่มคอนซูเมอร์ พีซี เอชพี อิงค์ ประเทศไทย มองภาพรวมตลาด AI PC ในไทยช่วงโค้งสุดท้ายของปี 67 และต้นปี 68 ว่าแนวโน้มการพัฒนา AI PC ในไทยกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยได้รับแรงขับเคลื่อนจากหลายปัจจัย เช่น การตื่นตัวของผู้บริโภคต่อเทคโนโลยี AI, ความระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวที่เพิ่มมากขึ้น
Gartner เชื่อว่าในปี 2568 ปริมาณการจัดส่ง AI PC ทั่วโลกจะอยู่ที่ 114 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 165.5% จากปี 2567


นอกจากนี้ การแพร่ระบาดของ COVID-19 ยังเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานและการเรียนรู้ ที่ไม่ได้หยุดอยู่แค่ในออฟฟิศเพียงเท่านั้น ทำให้ความต้องการอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูงในการประมวลผลข้อมูล รวมถึงอุปกรณ์ที่สามารถช่วยสร้างสรรค์ผลงานได้จากหลายพื้นที่ในขณะที่มอบประสิทธิภาพระยะเวลาการใช้งานยาวนาน และพกพาสะดวก เพิ่มขึ้นอย่างมาก นำไปสู่การแข่งขันที่สูงขึ้นของผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ ที่จะต้องสร้างจุดแข็งและความแตกต่างให้กับสินค้า



“สำหรับเอชพีเอง เรามีผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปครบทุกด้าน ไม่ว่าจะในด้านประสิทธิภาพ ความปลอดภัย ความคล่องตัว ไปจนถึงการจัดการพลังงานแบตเตอรี่และอุปกรณ์เสริมต่างๆ” สุธีกล่าว “การแข่งขันในตลาด AI PC คาดว่าจะเข้มข้นมากขึ้นในอนาคต ด้วยเทรนด์ AI ที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผนวกกับความต้องการและพฤติกรรมของผู้บริโภคในการเลือกซื้อที่หันมาสนใจผลิตภัณฑ์ AI PC มากขึ้น ทำให้ผู้ผลิตแต่ละแบรนด์ล้วนมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมใหม่ๆ ลงสู่ตลาด“


HP จะสร้างระบบนิเวศ AI ที่แข็งแกร่งภายในปี 2568
สุธีมองว่านอกจากนวัตกรรม การแข่งขันด้านราคาและโปรโมชั่นจะเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค ซึ่งประเด็นนี้ถือเป็นอีกความท้าทายของตลาด AI PC ในประเทศไทย


“แม้ว่าตลาด AI PC ในไทยจะมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี แต่ก็ยังคงมีความท้าทายอยู่บ้าง เช่น การแข่งขันในตลาดที่สูงขึ้น ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาแข่งขันกัน มองว่าการที่จะ win ในตลาดได้ ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์และการวางแผนที่จะตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้ตรงจุดขนาดไหน อาจจะต้องมาดูกันที่ประสิทธิภาพ นวัตกรรม รวมถึงราคาที่มอบให้”



สุธีมั่นใจว่าท่ามกลางตลาดนี้ HP มอบโซลูชั่นนวัตกรรมผ่าน AI PC ได้อย่างโดดเด่น โดยเฉพาะด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวอย่างเต็มที่
สุธียอมรับว่าราคาของ AI PC อาจยังดูสูงเกินไปสำหรับผู้บริโภคบางกลุ่ม
สุธีชี้ว่าในขณะที่มีกลุ่มผู้บริโภคบางกลุ่มที่ลงทุนเพื่อเลือกซื้อโซลูชันที่สามารถตอบโจทย์ได้ แต่หากมองอีกมุม ราคาของ AI PC ก็ยังดูสูงเกินไปสำหรับผู้บริโภคบางกลุ่ม เนื่องด้วย AI PC ยังไม่ได้แมสหรือเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากนัก


อย่างไรก็ตาม HP มีการเปิดตัว AI PC จำนวนหลายโมเดล อาทิ OmniBook Ultra Flip และ OmniBook X โดยมีประสิทธิภาพและเรนจ์ราคาให้เลือกซื้อตามหลายความต้องการ พร้อมโปรโมชันในช่วงเปิดตัว รวมถึงทำการสื่อสารให้ AI PC เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากยิ่งขึ้น ทั้งโซเชียลคอนเทนต์ หรือมีศูนย์บริการให้ความรู้เกี่ยวกับ AI PC อย่างใกล้ชิด



“กลยุทธ์ที่วางไว้เหล่านี้ น่าจะช่วยแก้ไขความท้าทายต่าง ๆ สำหรับตลาดประเทศไทย และช่วยให้เอชพีได้เติบโตในตลาดนี้มากยิ่งขึ้นต่อไป”



***เจาะภาคธุรกิจ B2B เตรียมโต

เป้าหมายของ HP ในปี 2568 คือการเป็นผู้นำตลาด AI PC ในประเทศไทย โดยมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาและส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ HP ยังมุ่งมั่นที่จะสร้างระบบนิเวศของ AI ที่แข็งแกร่งในประเทศไทย



“เราแพลนจะขยาย AI PC สู่ภาคธุรกิจ หรือ B2B มากขึ้นในปีหน้า เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำอย่างต่อเนื่องทั้งในตลาด consumer และ commercial”
  เป้าหมายของ HP ในปี 2568 คือการเป็นผู้นำตลาด AI PC ในประเทศไทย
เอชพีไม่ใช่แบรนด์เดียวที่วาดหวังเป้าหมายนี้ เนื่องจากแม้ NPU กำลังจะกลายเป็นฟีเจอร์มาตรฐานของผู้ขายพีซี แต่ส่วนใหญ่เริ่มคาดหวังรายได้จากตลาด AI PC ถ้วนหน้า โดยยอดการจัดส่ง AI PC ถูกประเมินว่าจะสูงแตะ 43 ล้านยูนิตในปี 2567 เพิ่มขึ้นถึง 99.8% จากปี 2566



หากมองแบบรวบยอด 3 ปี ปริมาณการจัดส่ง AI PC ทั่วโลกระหว่างปี 2566-2568 นั้นมีการเติบโตต่อเนื่อง สำหรับกลุ่ม AI Laptop คาดว่ายอดจัดส่งจะเติบโตจาก 20.13 ล้านเครื่อง มาเป็น 40.52 และ 102.42 ล้านเครื่องตามลำดับ ขณะที่ AI Desktop จะเติบโตจาก 1.39 ล้านยูนิตมาเป็น 2.5 และ 11.8 ล้านเครื่อง ตามลำดับ ดังนั้น จำนวนรวม AI PC ที่ถูกจัดส่งในปี 2566-2568 คาดว่าจะมีจำนวนเพิ่มจาก 21.53 ล้านเครื่อง มาเป็น 43 และ 114.22 ล้านเครื่องตามลำดับ



สัญญาณจากสถิติทั้งหมดนี้ตอกย้ำว่าการแข่งขันในสมรภูมิ AI PC จะดุเดือดเลือดกระเซ็นในปี 68 และฝันของ HP ในการขึ้นแชมป์ B2B ตลาดไทยนั้นไม่ง่ายแน่นอน.

ที่มา : MgrOnline