* หนุ่มยะลาขับกระบะติดตู้ทึบขนไม้เถื่อนจากลำปาง มุ่งหน้าขึ้นเหนือ * แหกด่านตรวจ * เกิดอุบัติเหตุเสียหลักชนท้ายรถพ่วงและรถเก๋ง บริเวณใกล้สะพานข้ามแม่น้ำปิง * รถเกือบตกแม่น้ำปิง * สาเหตุมาจากการขนไม้เถื่อนและหลบหนีการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่
ตาก – เผยนาทีระทึก..หนุ่มยะลา รับงานควบกระบะติดตู้ทึบจากลำปางขนไม้เถื่อนวังเจ้า แหกด่านตรวจหนีขึ้นเหนือ จนเสียหลักชนทั้งท้ายรถพ่วง-รถยนต์เก๋ง หวิดทะลุสะพานตกน้ำปิง

วันนี้(22 พ.ย.) พ.ต.อ.สิทธิชัย ยิ้มยวน ผกก.สภ.เมืองตาก ได้เรียกพนักงานสอบสวน และชุดสืบสวน ประชุมติดตามความคืบหน้าของคดี กรณีนายเกษมพงศ์ หรือปั้ม ขจรคำ อายุ 20 ปี ขับรถกระบะบรรทุกไม้เถื่อน แหกด่านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังเจ้า อ.วังเจ้า จ.ตาก โดยใช้เส้นทางถนนพหลโยธิน ขาขึ้นเหนือ ซิ่งหลบหนีจนถึงสะพานกิตติขจร ข้ามน้ำปิง อ.เมือง จ.ตาก ระยะทางกว่า 24 กิโลเมตร ชนท้ายรถบรรทุกพ่วงและเสียหลักไปชนกับรถยนต์เก๋ง รถเกิดหมุน ขึ้นไปชนคร่อมราวสะพาน หวิดทะลุพุ่งตกลงกลางแม่นน้ำปิง ก่อนถูกเจ้าหน้าที่จับกุมพร้อมของกลางไม้ประดู่

ผกก.สภ.เมืองตาก เปิดเผยว่า เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 21 พ.ย.67 เวลาประมาณ 18.00 น. ศูนย์วิทยุ สภ.เมืองตาก ได้รับแจ้งว่ามีรถกระบะบรรทุกตู้ทึบ สีขาว ทะเบียน ยท 4007 เชียงใหม่ หลบหนีการตรวจในเขต สภ.วังเจ้า มุ่งหน้า ถ.พหลโยธิน ฝั่งขาขึ้น

ต่อมาเวลาเวลา 18.10 น.(21 พ.ย.) รถคันดังกล่าว ได้เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกับรถยนต์เก๋งสีขาว ทะเบียน กง 1066 ตาก บริเวณบนสะพานกิตติขจร โดยในที่เกิดเหตุพบนายเกษมพงศ์ หรือปั้ม ขจรคำ อายุ 20 ปี มีภูมิลำเนาตามบัตร ปชช.อยู่ ต.สะเตงนอก อ.เมืองยะลา เป็นผู้ขับรถยนต์คันที่์หลบหนีดังกล่าว

ตรวจสอบภายในกระบะท้ายพบ แผ่นไม้ประดู่แปรรูป จำนวน 12 แผ่น แต่ละแผ่นกว้างประมาณ 68 ซม., ยาวประมาณ 210 ซม.,หนาประมาณ 9 ซม. คำนวณปริมาตรได้ จำนวน 1.54 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นค่าสียหายต่อรัฐประมาณ 107,800 บาท

สอบถาม นายเกษมพงศ์ รับว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายไก่ (ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง)ทางระบบไลน์ให้ขับรถจาก จ.ลำปาง มารับไม้แปรรูปที่บ้านนาโบสถ์ อ.วังเจ้า จ.ตาก แต่จำจุดรับไม้ไม่ได้ จากนั้นนายไก่จะแจ้งที่หมายเมื่อผ่านถึงเขต อ.บ้านตาก แล้ว โดยจะได้ค่าจ้างเมื่อถึงที่หมาย จำนวน 3,800 บาท โดยข้อมูลการโทรติดต่อได้ลบขณะขับหลบหนีก่อนเกิดอุบัติเหตุ

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนฯ ได้แจ้งข้อกล่าวหากับนายเกษมพงศ์ ในข้อหา “ห้ามมิให้ผู้ใดแปรรูปไม้ ไม่ว่าจำนวนเท่าใด ครอบครองหรือมีไม้แปรรูปชนิดอื่นจำนวนเกิน 0.20 ลูกบาศก์เมตรไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”

ที่มา : MgrOnline