พัทลุงหลายหมู่บ้านถูกน้ำท่วมหลังฝนตกหนัก เตรียมประกาศเขตภัยพิบัติ 4 อำเภอ

เผยแพร่ : 22 พ.ย. 2567 15:16:18
X
• จังหวัดพัทลุงเตรียมประกาศเขตภัยพิบัติ 4 อำเภอ 15 ตำบล 57 หมู่บ้าน และ 12 ชุมชน
• พื้นที่ประสบภัยเป็นอุทกภัยและวาตภัย

พัทลุง - พัทลุงหลายหมู่บ้านถูกน้ำท่วมหลังฝนตกหนักในพื้นที่ ขณะที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพัทลุงเตรียมประกาศเขตภัยพิบัติอุทกภัยวาตภัยพื้นที่ประสบภัยแล้ว จำนวน 4 อำเภอ 15 ตำบล 57 หมู่บ้าน 12 ชุมชน

วันนี้ (22 พ.ย.) นายก้องสกุล จันทราช รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ประชุมร่วมกับปลัดจังหวัดพัทลุง สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพัทลุง ที่ทำการปกครองอำเภอเมืองพัทลุง เทศบาลเมืองพัทลุง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ชุดปฏิบัติการตำบล สภ.เมืองพัทลุง หน่วยทหารในพื้นที่ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การแก้ไขปัญหาน้ำฝนรอระบายในพื้นที่ต่างๆ ของเทศบาลเมืองพัทลุง และพื้นที่อำเภอเมืองพัทลุง มีประสิทธิภาพสูงสุด ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในด้านต่างๆ ได้ทันท่วงที

เนื่องจากพื้นที่ของอำเภอเมืองพัทลุงนั้นเป็นพื้นที่รองรับน้ำจากอำเภอศรีนครินทร์ และอำเภอกงหราบางส่วน ทำให้น้ำที่ไหลลงมาประกอบน้ำฝนในพื้นที่เข้าท่วมพื้นที่ลุ่มของอำเภอเมืองพัทลุง ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจำนวน 6 ตำบล 42 หมู่บ้าน 12 ชุมชน ซึ่งบริเวณที่มีน้ำท่วมมากที่สุดของอำเภอเมืองพัทลุง คือ ตำบลปรางหมู่ หมู่ที่ 1 หมู่ที่ 4 หมู่ที่ 5 หมู่ที่ 7 และหมู่ที่ 8 ชาวบ้านนำกระสอบทรายกั้นกระแสน้ำที่รุนแรงและเอ่อล้นท่วมบ้านเรือน อีกทั้งภายในวัดปรางหมู่ใน น้ำทะลักเข้าสูงระดับน้ำประมาณ 40-50 ซม.

ขณะชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าวได้อพยพสิ่งของไว้ที่สูงตั้งแต่ตอนเช้าตรู่เพื่อกันสิ่งของได้รับความเสียหาย แต่หากฝนตกมากกว่านี้หรือน้ำท่วมสูงมากกว่านี้ไม่มั่นใจว่าจะปลอดภัยหรือไม่ เช่นเดียวกันกับผู้สูงอายุในพื้นที่ดังกล่าว ที่น้ำท่วมบ้านทั้งหลัง แต่ไม่ยอมอพยพไปอาศัยอยู่กับลูกหลาน บอกว่าเป็นห่วงบ้าน แต่หากน้ำท้วมสูงจนมิดที่นอน ที่ยกเตียงขึ้นสูงแล้วจะค่อยย้ายทีหลัง

ขณะที่จังหวัดพัทลุงโดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพัทลุง เตรียมประกาศประกาศเขตภัยพิบัติออุทกภัยวาตภัย พื้นที่ประสบภัยจำนวน 4 อำเภอ 15 ตำบล 57 หมู่บ้าน 12 ชุมชน ของอำเภอเมืองพัทลุง อำเภอศรีบรรพต อำเภอศรีนครินทร์ และอำเภอควนขนุน เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนต่อไป



ที่มา : MgrOnline