รัฐบาลปลื้มหนังไทยมาแรง ดึงดูดญี่ปุ่น-เกาหลี-มาเลย์-ไต้หวัน-ฮ่องกง สร้างมูลค่ารายได้ 231 ล.
เผยแพร่ : 22 พ.ย. 2567 14:39:24
• ดึงดูดความสนใจจากผู้ประกอบการญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย ไต้หวัน และฮ่องกง
• เกิดการเจรจาธุรกิจ 104 ครั้ง
• สร้างรายได้ 231 ล้านบาท
รองโฆษกรัฐบาล เผย รัฐบาลปลื้ม หนังไทยมาแรง ดึงดูดใจผู้ประกอบการญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย ไต้หวันและฮ่องกง เกิดการเจรจาธุรกิจ 104 ครั้ง สร้างมูลค่ารายได้ 231 ล้านบาท
วันนี้ (22พ.ย.) นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผย ประเทศไทยกำลังเป็นจุดหมายและยุทธศาสตร์สำคัญด้านการลงทุนหนังภาพยนตร์อย่างต่อเนื่อง จากนโยบายการมุ่งขับเคลื่อน Soft Power ด้านภาพยนตร์ ละคร ซีรีส์ สารคดี และแอนิเมชันของประเทศไทยไปสู่ระดับนานาชาติ รัฐบาลโดยกระทรวงวัฒนธรรม ดำเนินการสนับสนุนผู้ประกอบการ บุคลากรด้านภาพยนตร์และวีดิทัศน์เพื่อเปิดโอกาสในการสร้างตลาดใหม่ ๆ ผ่านการ จัดกิจกรรมส่งเสริมและเผยแพร่ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ในต่างประเทศ (Roadshow) ประจำปี 2567 ณ เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติแห่งโตเกียว ประจำปี 2567 (TIFFCOM 2024) เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม - 1 พฤศจิกายน 2567 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติแห่งโตเกียว ประจำปี 2567 ที่ได้จัดครั้งนี้เป็นหนึ่งในเทศกาลภาพยนตร์ที่สำคัญในเอเชีย โดยในปีนี้ มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 4,000 คน จาก 42 ประเทศ และการร่วมสัมมนาแลกเปลี่ยนความรู้ด้านภาพยนตร์และด้านอื่น ๆ จากหลากหลายชาติ 15 ครั้งและมีผู้เข้าร่วมสัมมนากว่า 2,000 คน
จากการดำเนินการจัดกิจกรรมส่งเสริมและเผยแพร่ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ในต่างประเทศ (Roadshow) ประจำปี 2567 ได้มีผู้ประกอบการด้านภาพยนตร์และวีดิทัศน์ของไทยที่ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมจำนวน 9 บริษัท ในครั้งนี้ได้มีผลงานภาพยนตร์และซีรีส์ที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษจากผู้ประกอบการและผู้เข้าร่วมงาน ได้แก่ ภาพยนตร์เรื่อง “หลานม่า” และ “ธี่หยด 2” รวมถึงซีรีส์ “Good Doctor” ดึงดูดความสนใจจากผู้ประกอบการต่างชาติจากญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย ไต้หวัน และฮ่องกง แสดงให้เห็นถึงโอกาสในการขยายตลาดและความร่วมมือระหว่างประเทศ ที่จะก่อให้เกิดการเจรจาธุรกิจรวม 104 ครั้งและสร้างมูลค่า 231 ล้านบาท
“รัฐบาลเล็งเห็นถึงศักยภาพ และโอกาสในการขยายตลาดและความร่วมมือของผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมภาพยนตร์ วีดิทัศน์ ทั้งภาคการผลิต และภาคบริการ ซึ่งจากความร่วมมือดังกล่าว ก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลและสร้างความร่วมมือกับนานาชาติ ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญต่อการสร้างรายได้และผลักดัน เผยแพร่ Soft Power ด้านต่าง ๆ ของไทย เช่น อาหาร แหล่งท่องเที่ยว ศิลปะและวัฒนธรรมผ่านสื่อภาพยนตร์และวีดิทัศน์และเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย ทั้งนี้ รัฐบาลพร้อมที่จะสนับสนุนนโยบาย ความคิดสร้างสรรค์ของผู้ประกอบการ” นางสาวศศิกานต์ ระบุ
ที่มา : MgrOnline