2 คู่ซี้ "พระ-ฆราวาส" เมาโวยลั่นจนต้องใส่กุญแจมือบังคับไปสึก

เผยแพร่ : 22 พ.ย. 2567 11:33:22
X
• ทั้งสองประกาศว่ามีปืน ทำให้ประชาชนหวาดกลัวและแจ้งตำรวจ
• ตำรวจจับกุมตัวทั้งสอง โดยใช้กุญแจมือ เนื่องจากขัดขืนการจับกุม
• พระรูปดังกล่าวถูกจับสึก

ตรัง - 2 คู่ซี้พระ-ฆราวาสเมาเอะอะโวยวายใกล้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครตรัง ประกาศว่าตนเองมีปืน ทำให้ชาวบ้านตกใจกลัวรีบแจ้งตำรวจ แต่ขัดขืนหนักต้องใส่กุญมือไปจับสึก

ที่ศูนย์ป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองตรัง นำโดย ร.ต.อ.สัญญา ไพศาล รองสารวัตรป้องกันและปราบปราม นำตัว 2 คู่ซี้ พระ และฆราวาส ทั้งคู่อยู่ในสภาพเมาแอ๋เหม็นกลิ่นเหล้าคละคลุ้ง โดยเฉพาะคนที่แต่งกายเป็นพระ พูดจาเอะอะโวยวายตลอดเวลา โดยนำมาสงบสติอารมณ์ พร้อมทรัพย์สินส่วนตัว ทั้งบาตร เต็นท์นอน ถุงใส่ของใช้ส่วนตัว หลังจากได้พากันไปอาละวาดที่ร้านกาแฟ ใกล้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครตรัง และประกาศว่าตนเองมีปืน ทำให้ชาวบ้านตกใจกลัว จึงโทร.แจ้งตำรวจ สภ.เมืองตรัง รีบเดินทางไปตรวจสอบ จึงควบคุมตัวมาสอบสวนและสงบสติอารมณ์ สภ.เมืองตรัง

จากนั้นเมื่อตรวจค้นสัมภาระ พบขวดเหล้าขาวเปล่า 1 ขวด เหล้าหมดแล้ว และขวดน้ำขนาดเล็ก แต่ภายในบรรจุเหล้าขาวที่เหลืออีกค่อนขวด เมื่อขอดูหลักฐานการบวชเป็นพระก็ไม่มี มีแต่บัตรประชาชน ทราบชื่อคือ นายนพดล ชัยสุข อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29/9 ถนนรัษฎา ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง โดยบอกว่า ตนเพิ่งบวชได้ 1 พรรษา

ส่วนเพื่อนคู่ซี้ที่เป็นฆราวาส ไม่พกบัตรประชาชน มีเพียงเอกสารแจ้งความลงบันทึกประจำวันของ สภ.รัตภูมิ ที่ระบุว่า ถูกชายไทย 2 คนรับมาจากหัวลำโพง กรุงเทพฯ เพื่อจะมาทำงานในสวนปาล์มน้ำมัน จ.สงขลา แต่เมื่อมาถึง อ.รัตภูมิ ถูกชาย 2 คนดังกล่าวทิ้ง ทำให้กระเป๋าสัมภาระและเงิน 1,000 บาทติดไปกับรถยนต์ของชาย 2 คนดังกล่าวด้วย จึงแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ ระบุชื่อ นายสายชล ขำมา อายุ 48 ปี ชาวอำเภอเมืองกำแพงเพชร จ.กำแพงเพชร โดยทางตำรวจยังได้นำตัวไปตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดด้วย แต่ไม่พบสารเสพติดอย่างใด

เมื่อสอบถามที่มาที่ไป ปรากฏว่าพูดจาวกไปวนมา เอะอะโวยวาย พร้อมประกาศ ใครก็ไม่สามารถจับตนเองสึกได้ ต่อให้เป็นพระสมเด็จก็สึกตนเองไม่ได้ รู้จักพระผู้ใหญ่ และผู้มีอิทธิพลหลายคน และตนเองไม่มีความผิดอะไร

ท้ายที่สุด ตำรวจได้นำตัวไปพบพระมหาสุวรรณ วิชชาธโร เจ้าอาวาสวัดนิโครธาราม เจ้าคณะอำเภอเมืองตรัง เพื่อให้ทำพิธีลาสิกขาให้ แต่เจ้าตัวไม่ยอม โต้เถียงตลอดเวลา สุดท้ายต้องหิ้วปีกเข้าไปเข้าไปทำพิธีลาสิกขา สุดท้ายเมื่อจับถอดผ้าเหลืองได้สำเร็จ ก็หน้าถอดสี จ๋อย ยืนให้พระและตำรวจอบรมสั่งสอนไปหลายคำ พร้อมย้ำว่า ถ้ายังดื่มเหล้าอย่ากลับมาบวชอีก จะทำให้พระพุทธศาสนาเสื่อมเสีย

ร.ต.อ.สัญญา ไพศาล รองสารวัตรป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองตรัง บอกว่า ได้รับแจ้งว่า มีพระ และฆราวาสเมาแล้วอาละวาดไปด่าทอชาวบ้าน กลิ่นสุราเหม็นหึ่ง ใกล้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ ก็พบเห็นทั้งคู่เมาอาละวาด จะเชิญมาโรงพัก ก็ไม่ยอม จึงต้องบังคับจับใส่กุญแจมือพาไปหาพระฝ่ายปกครองเพื่อให้จับสึก

ที่มา : MgrOnline