รวบบัญชีม้า แก๊งหลอกปล่อยเงินกู้ ให้เหยื่อโอนค่าดำเนินการ สูญเงินกว่า 1 หมื่น
เผยแพร่ : 22 พ.ย. 2567 11:22:56
• แก๊งดังกล่าวหลอกลวงเหยื่อให้กู้เงิน
• เหยื่อต้องโอนเงินค่าดำเนินการ
• มูลค่าความเสียหายกว่า 10,000 บาท
ตำรวจสืบนครบาล จับหนุ่มเปิดบัญชีม้า ให้แก๊งมิจฉาชีพหลอกปล่อยเงินกู้ ให้เหยื่อโอนค่าดำเนินการ สูญเงินกว่า 1 หมื่นบาท
วันนี้ (22 พ.ย.) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.อรรชวศิษฎ์ ศรีบุญยมานนท์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น.สั่งการให้เจ้าหน้าที่ กก.สส.3 บก.สส.บช.น.จับกุมตัว นายวิพากษ์ อายุ 25 ปี
บุคคลตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 1095/2567 ลงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน เปิดหรือยินยนมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดทางอาญาอื่นใด
และหมายจับศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ จ.665/2567 ลงวันที่ 8 ตุลาคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐานร่วมกันหรือเป็นผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริต หรือโดยการหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมฯ หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จฯ และหรือยืนยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝากของตนโดย มิได้เจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการของตนฯ สามารถจับกุมได้ที่หน้าบ้าน ซอยแจ้งวัฒนะปากเกร็ด 17 ต.ปากเกร็ด อ.ปากเก็ด จ.นนทบุรี
โดยพฤติการณ์ทางคดี ก่อนเกิดเหตุ ขณะที่ผู้เสียหายได้เล่นเฟซบุ๊ก พบว่า มีเพจปล่อยเงินกู้และสินเชื่อปรากฏขึ้น จึงทักข้อความไปยังเพจดังกล่าว เพื่อสอบถามรายละเอียดในการกู้เงิน จากนั้นคนร้ายได้ให้ผู้กล่าวหาแอดแอปพลิเคชันไลน์เพื่อพูดคุยสอบถามรายละเอียด ต่อมาวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา ผู้เสียหายได้ขอกู้เงินกับทางคนร้าย จำนวนเงิน 70,000 บาท โดยคนร้ายแจ้งกับว่าต้องทำการโอนเงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการกู้เงิน โดยให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร รายละเอียด ดังนี้ ค่าประกันเงินกู้ จำนวน 1,500 บาท ค่ารับยอดเงินกู้ จำนวนเงิน 2,000 บาท ค่าวางมัดจำผ่อนชำระเงินกู้ยอดแรก จำนวน 3,500 บาท ค่าอนุมัติเงินกู้ จำนวนเงิน 2,000 บาท ค่าธรรมเนียมธนาคาร จำนวนเงิน 5,000 บาท โดยต่อมาคนร้ายจะให้ผู้ผู้เสียหายโอนเงินอีกจำนวน 2,000 บาท เพื่อเป็นค่าลงทะเบียนกับธนาคารในการทำธุรกรรมสำเร็จผู้กล่าวหาจึงเกิดความสงสัยและเชื่อว่าถูกหลอกลวงให้โอนเงินแน่นอน จึงไม่ได้โอนเงินจำนวนดังกล่าวเพิ่มไป ต่อมาทราบว่าถูกคนร้ายหลอกลวงจริง เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย รวมเป็นจำนวนเงิน 14,000 บาท จึงมาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้องในการกระทำความผิด
ในชั้นจับกุม ผู้ต้องให้การว่าเมื่อปี 65 ตนได้ขายบัญชีให้นางสวย ไม่ทราบชื่อสกุลจริง ทราบเพียวว่า นางสวย อาศัยอยู่ประเทศพม่า รู้จักผ่านโลกออนไลน์ นางสวย จึงได้โอนเงินค่าเปิดบัญชีให้ 3,000 บาท โอนเข้าบัญชีธนาคารที่ตนใช้อยู่และตกลงขายให้กับนางสวย 3 บัญชีธนาคาร ตนจึงได้เปิดบัญชี ธนาคารออนไลน์เพิ่มอีกสองบัญชีรวม บัญชีที่ตนใช้อยู่เป็นสามบัญชี ซึ่งตนยอมรับว่าการเปิดบัญชีม้าเป็นการเปิดบัญชีที่ผิดกฎหมายโดยตนรู้อยู่แล้วว่าจะเกิดผลเสียตามมาอย่างแน่นอน ที่ตนทำไปเพราะไม่มีเงินซื้อนมให้ลูก ที่อายุเพียงหนึ่งขวบในขณะนั้น ตนต้องการเงินมาซื้อนมให้ลูกเท่านั้น และยังบอกกับเจ้าที่อีกว่าถ้าผมไม่ขายบัญชีม้า ผมก็ต้องขายยา ผมเลือกที่จะขายบัญชีม้าดีกว่า
ฝากถึงประชาชนที่คิดจะขายบัญชีม้าต้องยอมรับในสิ่งที่จะตามมาด้วย จากนั้นได้นำตัวส่ง สน.พลับพลาไชย 2 ดำเนินคดี
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ฝากความห่วงใยถึงพี่น้องประชาชนถึงกลลวงของมิจฉาชีพที่มาหลายรูปแบบ โดยเฉพาะพวกหลอกลวงปล่อยเงินกู้หรือสินเชื่อ ที่ใช้การยิงแอดโฆษณาตามเฟซบุ๊ก ปล่อยกู้ง่ายได้เงินเยอะ ขอให้ท่านใช้สติอย่าหลงเชื่อ ข้อควรระวังและจุดสังเกตเว็บไซต์หรือแอปกู้เงินผิดกฎหมาย ได้รับเงินกู้ไม่เต็มจำนวนมีการอ้างว่าให้โอนเงินค่าธรรมเนียมมาก่อน จึงจะทำสัญญากู้ได้ เช่น ค่าดำเนินการ ค่ายืนยันตัวตน แอปกู้เงินถูกกฎหมาย ต้องได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลังเท่านั้น เข้าไปตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ธนาคารแห่งประเทศไทย สุดท้ายหากท่านตกเป็นผู้เสียหาย ให้รีบโทร.ไปเบอร์ 1441 เพื่อขอแจ้งอายัดบัญชีของมิจฉาชีพ จากนั้นรวบรวมหลักฐาน อาทิ ภาพบทสนทนา หลักฐานการโอนเงิน และนำไปแจ้งความดำเนินคดีกับสถานีตำรวจในพื้นที่หรือแจ้งความออนไลน์ที่ www.thaipoliceonline.go.th
ที่มา : MgrOnline