สรุปข่าวสำคัญ: * เนทันยาฮูปฏิเสธหมายจับของไอซีซี ที่เกี่ยวกับการกระทำในฉนวนกาซา * เนทันยาฮูยืนยันจะปกป้องอิสราเอลต่อไปโดยไม่คำนึงถึงหมายจับ * การตอบโต้ของอิสราเอลต่อไอซีซีได้รับการสนับสนุน
เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ระบุในวันพฤหัสบดี (21 พ.ย.) ว่าหมายจับเขาที่ออกโดยศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) เกี่ยวกับการกระทำในฉนวนกาซา จะไม่อาจหยุดยั้งเขาจากการปกป้องอิสราเอล ความเคลื่อนไหวตอบโต้ไอซีซี ที่ได้รับการหนุนหลังจากสหรัฐฯ ผู้สนับสนุนสำคัญ อย่างไรก็ตาม มีหลายชาติที่ออกมายืนยันว่าจะปฏิบัติตามหมายจับของศาลอาญาระหว่างประเทศ ในนั้นรวมถึงสหภาพยุโรป (อียู) พันธมิตรของอิสราเอลเอง

"การตัดสินใจต่อต้านอิสราเอลอันน่าขุ่นเคือง จะไม่อาจขัดขวางเรา และจะไม่อาจขัดขวางผม จากการเดินหน้าปกป้องประเทศของเราในทุกๆ หนทาง" เนทันยาฮูระบุในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ผ่านวิดีโอ "เราจะไม่ยอมอ่อนข้อต่อแรงกดดันใดๆ"

นายกรัฐมนตรีรายนี้ถูกกล่าวหาร่วมกับ โยอาฟ กัลแลนท์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล ก่ออาชญากรรมสงครามและก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ สำหรับการกระทำต่างๆ ของอิสราเอลในฉนวนกาซา

เนทันยาฮู ให้คำจำกัดความการตัดสินใจของไอซีซีในวันพฤหัสบดี (21 พ.ย.) ว่าเป็นวันที่มืดมิดในประวัติศาสตร์ของประเทศชาติ "ศาลอาญาระหว่างประเทศในเมืองเฮก ซึ่งจัดตั้งขึ้นมาเพื่อปกป้องมนุษยชาติ วันนี้ กลายเป็นศัตรูของมนุษยชาติเสียเอง" เขากล่าว พร้อมระบุว่าคำกล่าวหาต่างๆ นั้น "ไร้หลักฐานโดยสิ้นเชิง"

อิสราเอลสู้รบในฉนวนกาซามาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2023 หลังจากถูกพวกนักรบฮามาสบุกโจมตีข้ามชายแดนแบบไม่ทันตั้งตัว สังหารผุ้คนไป 1,206 ราย ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน ปฏิบัติการรุกรานแก้แค้นของอิสราเอล ได้ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 44,056 รายในกาซา ส่วนใหญ่เป็นพลเรือนเช่นกัน

หน่วยงานต่างๆ ของสหประชาชาติเตือนถึงวิกฤตมนุษยชนร้ายแรงในกาซา ในนั้นรวมความอดอยาก สืบเนื่องจากขาดแคลนอาหารและเวชภัณฑ์ยา

ศาลระบุว่า พบหลักฐานที่มีเหตุมีผลที่เชื่อได้ว่า เนทันยาฮู และ กัลแลนท์ ต้องรับผิดชอบทางอาญาต่ออาชญากรรมสงคราม จากกรณีที่ใช้ความอดอยากเป็นวิถีทางในการทำสงคราม เช่นเดียวกับการก่ออาชญากรรมต่างๆ กับมนุษยชาติ ทั้งฆาตกรรม ตามประหัตประหารและการดำเนินการต่างๆ ที่ไร้ความเป็นมนุษย์อื่นๆ

เนทันยาฮู กล่าวหาศาลปั้นเรื่องอาชญากรรมเล่นงานอิสราเอล ขณะเดียวกันก็ "เพิกเฉยต่ออาชญากรรมสงครามที่แท้จริง อาชญากรรมสงครามอันน่าสยดสยองที่ลงมือกับเรา และกับคนอื่นมากมายทั่วโลก"

นอกหนือจาก เนทันยาฮู และ กัลแลนท์ แล้ว ศาลอาญาระหว่างประเทศได้ออกหมายจับ โมฮัมเหม็ด เดอิฟ หัวหน้าปีกทหารของฮามาส ผู้ที่ทางอิสราเอลอ้างว่าสามารถปลิดชีพได้แล้ว ในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในเดือนกรกฎาคมปีก่อน

ฮามาส ไม่เคยยืนยันการเสียชีวิตของเขา ในขณะที่ เนทันยาฮู เยาะเย้ยการออกหมายจับหัวหน้าปีกทหารของฮามาสรายนี้ ว่าเป็นการออกหมายจับ "ศพของโมฮัมเหม็ด เดอิฟ"

บรรดาผู้นำโลกมีความเห็นแตกต่างกันออกไปเกี่ยวกับหมายจับของเนทันยาฮู โดยพันธมิตรอย่างสหรัฐฯ ประณามการตัดสินใจไอซีซี ทว่าหลายประเทศ ในนั้นรวมถึงตุรกีและกลุ่มสิทธิมนุษยชนทั้งหลายต่างแสดงความยินดีกับความเคลื่อนไหวดังกล่าว

โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ รายหนึ่ง ระบุว่าอเมริกาปฏิเสธโดยพื้นฐานต่อการตัดสินใจของไอซีซี และ "เรายังคงมีความกังวลอย่างยิ่งต่อการเร่งรีบของอัยการ ในการขอหมายจับและความบกพร่องต่างๆ ในกระบวนการ ที่นำมาซึ่งการตัดสินใจครั้งนี้ สหรัฐฯ เคยพูดอย่างชัดเจนว่า ไอซีซี ไม่มีขอบเขตอำนาจในประเด็นนี้"

อย่างไรก็ตาม พันธมิตรของทั้งอิสราเอลและสหรัฐฯ อย่างสหภาพยุโรป ยอมรับว่าคำตัดสินของไอซีซีมีผลผูกพัน "มันไม่ใช่การตัดสินใจทางการเมือง" โจเซฟ บอร์เรล หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของอียูกล่าว "มันคือการตัดสินในของศาลหนึ่งๆ ศาลยุติธรรม ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ และการตัดสินใจของศาลจำเป็นต้องได้รับความเคารพและปฏิบัติตาม"

องค์การปาเลสไตน์ คู่อริของพวกฮามาส บอกว่ามันเป็นสัญญาณแห่งความหวัง "การตัดสินในของศาลไอซีซี เป็นตัวแทนของความหวัง และความเชื่อมั่นในกฎหมายระหว่างประเทศและสถาบันระหว่างประเทศ" พร้อมเรียกร้องให้สมาชิกไอซีซี "บังคับใช้นโยบายตัดขาดการติดต่อและตัดขาดการประชุมกับเนทันยาฮูและกัลแลนท์"

ในส่วนของฮามาสเอง ชี้ว่าคำตัดสินของไอซีซี คือความยุติธรรม "มันเป็นก้าวย่างสำคัญในการมุ่งสู่ความยุติธรรม และสามารถนำไปสู้การชดใช้เหยื่อโดยทั่วไป แต่มันยังคงมีผลอย่างจำกัดและอาจเป็นเพียงแค่สัญลักษณ์ หากว่าไม่ได้รับการสนับสนุนในทุกวิถีทาง จากทุกประเทศทั่วโลก" ถ้อยแถลงของฮามาสระบุ

ตุรกี โดย ยิลมาซ ทันซ์ รัมนตรียุติธรรมโพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ ระบุว่า "การตัดสินใจของไอซีซี ถือว่าล่าช้า แต่นับว่าเป็นการตัดสินใจที่เป็นบวกในการหยุดการนองเลือด และหยุดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในปาเลสไตน์" ส่วน ฮาคาน ไฟดาน รัฐมนตรีต่างประเทศ แสดงความยินดีกับหมายจับดังกล่าว พร้อมชี้ว่ามันเป็นก้าวย่างที่สำคัญอย่างยิ่ง

ด้าน อิตาลี ทางกุยโด ครอเซตโต รัฐมนตรีกลาโหม บอกว่าประเทศของเขาจะมีหน้าที่จับกุมเนทันยาฮูและกัลแลนท์ หากเดินทางมาเยือนอิตาลี แม้เชื่อว่าการตัดสินใจของไอซีซี เป็นการตัดสินใจที่ผิด ในการจัดให้ เนทันยาฮู อยู่ในระดับเดียวกับฮามาส

ส่วน สเปน ก็แสดงความเคารพต่อการตัดสินใจของไอซีซีเช่นกัน โดยแหล่งข่าวทางการรายหนึ่งเปิดเผยกับเอเอฟพีว่า พวกเขาจะปฏิบัติตามหมายจับ "สเปนเคารพการตัดสินใจและจะดำเนินการสอดคล้องกับความมั่นสัญญาและพันธสัญญาตามธรรมนูญกรุงโรมและกฎหมายระหว่างประเทศ"

(ที่มา : เอเอฟพี)

ที่มา : MgrOnline