เอาไซซ์บิ๊กมาข่มขวัญ!! รัสเซียนำขีปนาวุธยักษ์ข้ามทวีป ICBM ติดหัวรบ‘นุก’ได้ ยิงใส่ยูเครน หลังเคียฟเริงร่าที่US-UKอนุญาต ระดมถล่มจรวดพิสัยไกลเข้าแดนหมีขาว
เผยแพร่ : 21 พ.ย. 2567 22:26:46
• เป็นการยิง ICBM ครั้งแรกนับตั้งแต่รัสเซียเริ่มรุกรานยูเครน
• ICBM ดังกล่าวออกแบบมาเพื่อบรรทุกหัวรบนิวเคลียร์
รัสเซียยิงขีปนาวุธทิ้งตัวข้ามทวีป (ICBM) จรวดยักษ์ใหญ่ที่ออกแบบมาสำหรับการลำเลียงหัวรบนิวเคลียร์โจมตีเป้าหมายระยะไกล เข้าใส่ยูเครนในวันพฤหัสบดี (21 พ.ย.) ถือเป็นครั้งแรกนับแต่มอสโกเปิดฉากรุกรานเมื่อต้นปี 2022 หลังจากก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน เคียฟระดมขีปนาวุธยุทธวิธีพิสัยไกลของอเมริกาและอังกฤษถล่มลึกเข้าไปในดินแดนหมีขาว ขณะเดียวกันสถานทูตสหรัฐฯ ประจำเคียฟเปิดทำการอีกครั้ง แต่ยังเตือนพลเมืองอเมริกันเฝ้าระวังการโจมตีทางอากาศ
การยิงขีปนาวุธ ICBM ที่เป็นอาวุธระดับยุทธศาสตร์ โดยมีพิสัยทำการไกลเป็นระยะทางหลายพันกิโลเมตร และเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งในมาตรการป้องปรามทางนิวเคลียร์ของรัสเซียครั้งนี้ หากได้รับการยืนยันชัดเจน ก็จะเป็นการตอกย้ำถึงความตึงเครียดที่กำลังพุ่งสูงอย่างรวดเร็วในสงครามที่ดำเนินมา 33 เดือนแล้วคราวนี้ หลังจากก่อนหน้านี้ในสัปดาห์นี้ ยูเครนได้ยิงขีปนาวุธยุทธวิธี อะแทคซิมส์ (ATACMS) ที่ได้รับจากสหรัฐฯ และ สตอร์ม แชโดว์ จากอังกฤษ เข้าใส่เป้าหมายต่างๆ ที่อยู่ลึกเข้าไปในแดนหมีขาว ถึงแม้มอสโกได้ส่งเสียงเตือนจะถือการปฏิบัติการดังกล่าวเป็นการไต่บันไดทำให้สถานการณ์บานปลายขยายตัวครั้งสำคัญก็ตามที
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ กล่าวในคำแถลงผ่านคลิปวิดีโอว่า “วันนี้มันเป็นขีปนาวุธใหม่จากรัสเซีย ลักษณะต่างๆ ทั้งหมด เช่น อัตราความเร็ว, ความสูง ล้วนเป็นลักษณะของขีปนาวุธข้ามทวีป เวลานี้การสอบสวนโดยผู้เชี่ยวชาญกำลังดำเนินการกันอยู่”
ขณะที่กองทัพอากาศยูเครนบอกว่า รัสเซียยิงขีปนาวุธลูกนี้ จากแคว้นอัสตราฮัน ใส่เป้าหมายโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในเมืองดนิโปร ตอนกลางของยูเครน ที่อยู่ห่างกันกว่า 700 กิโลเมตร เมื่อเช้าวันพฤหัสฯ (2) แต่ไม่ได้ระบุว่า เป็นขีปนาวุธรุ่นไหนแบบไหน มีการติดตั้งหัวรบชนิดไหน และเกิดความเสียหายหรือไม่อย่างไร ถึงแม้ไม่มีเครื่องบ่งชี้ว่ามันติดหัวรบนิวเคลียร์ก็ตาม
เมื่อถูกพวกผู้สื่อข่าวสอบถามเกี่ยวกับคำแถลงของกองทัพอากาศยูเครน ดมิตริ เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิมตอบว่าให้ไปติดต่อขอความเห็นจากฝ่ายทหารรัสเซียโดยตรง
ทางด้าน อูเครนสกา ปราฟดา สื่อซึ่งตั้งฐานอยู่ในกรุงเคียฟ อ้างแหล่งข่าวไม่เปิดเผยชื่อหลายรายระบุว่า ขีปนาวุธลูกนี้คือแบบ อาร์เอส-26 รูเบซ โดยตามข้อมูลของสมาคมควบคุมอาวุธ ขีปนาวุธทิ้งตัวข้ามทวีปแบบนี้ใช้เชื้อเพลิงแข็ง มีพิสัยทำการ 5,800 กิโลเมตร
อาร์เอส-26 ได้รับการทดสอบอย่างประสบความสำเร็จครั้งแรกในปี 2012 ประมาณการกันว่าแต่ละลูกมีความยาว 12 เมตร และหนัก 36 ตัน และสามารถบรรทุกหัวรบนิวเคลียร์หนัก 800 กิโลกรัม ทั้งนี้ตามข้อมูลของศูนย์เพื่อยุทธศาสตร์และการระหว่างประเทศศึกษา (CSIS) หน่วยงานคลังสมองชื่อดังที่ตั้งฐานอยู่ในกรุงวอชิงตัน
CSIS บอกว่า อาร์เอส-26 ได้รับการจัดชี้นว่าเป็นขีปนาวุธ ICBM ภายใต้สนธิสัญญาลดอาวุธนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐฯกับรัสเซีย แต่ก็อาจมองมันเป็นขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยปานกลางก็ได้ เมื่อใส่น้ำหนักมากขึ้นทำให้ลดพิสัยทำการลงจนเหลือต่ำกว่า 5,500 กิโลเมตร
กองทัพอากาศยูเครนระบุว่า นอกจาก ICBM 1 ลูกแล้ว รัสเซียยังยิงขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกคินซาล 1 ลูก, ขีปนาวุธร่อนเคเอช-101อีก 7ลูก แต่ถูกยูเครนสอยร่วง 6 ลูก
กองทัพอากาศยูเครนบอกว่า การโจมตีด้วยขีปนาวุธของรัสเซียคราวนี้ พุ่งเป้าหมายเล่นงานวิสาหกิจต่างๆ และโครงสร้างพื้นฐานสำคัญมากในเมืองดนิโปร แต่ไม่ได้กล่าวชัดเจนว่า ICBM พุ่งเป้าโจมตีอะไรและสร้างความเสียหายมากน้อยแค่ไหน
ขณะที่ เซอร์ฮี ลีซัค ผู้ว่าการแคว้นดนิโปรเปตรอฟสค์ บอกว่า การโจมตีด้วยไอซีบีเอ็มของรัสเซียทำให้วิสาหกิจอุตสาหกรรมการผลิตแห่งหนึ่ง ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพ และบ้านเรือนหลายหลังเสียหาย และเกิดไฟไหม้ในดนิโปร โดยมีผู้บาดเจ็บ 2 คน
สถานการณ์ระหว่างยูเครนกับรัสเซียตึงเครียดขึ้นมากในสัปดาห์นี้ โดยผู้สื่อข่าวสงครามของรัสเซียและเจ้าหน้าที่รัสเซียคนหนึ่งเปิดเผยว่า เคียฟยิงขีปนาวุธร่อน สตอร์มชาโดว์ของอังกฤษ ซึ่งถือเป็นจรวดยุทธวิธีพิสัยทำการไกลชนิดหนึ่ง โดยยิงได้ไกลประมาณ 250 กิโลเมตร เข้าไปในแคว้นคูร์สก์ของรัสเซียเมื่อวันพุธ (20)
อย่างไรก็ดี โฆษกกองเสนาธิการทหารยูเครนบ่ายเบี่ยงว่า ไม่มีข้อมูลเรื่องนี้ ส่วนรัสเซียก็ยังไม่ได้ออกมายืนยันเช่นเดียวกัน และยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่า การโจมตีด้วยจรวดของอังกฤษสร้างความเสียหายมากน้อยแค่ไหน
ก่อนหน้านั้นในวันอังคาร (19) ยูเครนเพิ่งยิงอะแทคซิมส์ (ATACMS ย่อมาจาก MGM-140 Army Tactical Missile System ระบบขีปนาวุธทางยุทธวิธีกองทัพบกแบบเอ็มจีเอ็ม-140) ซึ่งเป็นขีปนาวุธยุทธวิธีที่ยิงได้ไกลประมาณ 300 กิโลเมตร โจมตีใส่ดินแดนรัสเซีย หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน อนุมัติให้ยูเครนใช้ในการเล่นงานเป้าหมายในดินแดนรัสเซียเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
ในอีกด้านหนึ่ง เมื่อช่วงเย็นวันพุธ สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำเคียฟ กลับมาเปิดทำการอีกครั้ง หลังจากปิดไปในช่วงกลางวันเนื่องจากได้รับรายงานว่า กรุงเคียฟกำลังจะถูกโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่
กระนั้น บริดเจ็ต บริงก์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์เตือนพลเมืองอเมริกันในยูเครนว่า ยังต้องเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมหาที่หลบภัย หากมีการแจ้งเตือนภัยการโจมตีทางอากาศ
แรกทีเดียวนั้น กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงบนเว็บไซต์ให้ปิดสถานทูตในเคียฟและสั่งให้เจ้าหน้าที่สถานทูตหาที่หลบภัย รวมทั้งแนะนำพลเมืองอเมริกันให้เตรียมพร้อมหลบภัยทันทีกรณีที่มีการแจ้งเตือนภัยการโจมตีทางอากาศ รวมทั้งสำรองน้ำดื่ม อาหาร ของใช้จำเป็นอื่นๆ เช่น ยา เผื่อไว้สำหรับกรณีที่ระบบไฟฟ้าและน้ำประปายูเครนเสียหายจากการโจมตีของรัสเซีย
แหล่งข่าวในรัฐบาลสหรัฐฯ เผยว่า การปิดสถานทูตสืบเนื่องจากภัยคุกคามการโจมตีทางอากาศที่ยังคงดำเนินอยู่
สถานเอกอัครราชทูตของอิตาลีและของกรีซในเคียฟ ก็ปิดทำการเช่นเดียวกัน ส่วนสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสเปิดตามปกติ แต่เตือนพลเมืองของตนในยูเครนให้เฝ้าระวัง
เซเลนสกี้ กล่าววิจารณ์ว่า การส่งข้อความที่ก่อให้เกิดความตื่นตระหนกอย่างแพร่หลายเมื่อวันพุธ รังแต่เข้าทางรัสเซีย กระนั้น เขาเตือนให้ประชาชนติดตามการแจ้งเตือนการโจมตีทางอากาศอย่างใกล้ชิด
นอกจากนั้นช่วงบ่ายต้นๆ กองทัพอากาศยูเครนยังแจ้งให้ประชาชนหาที่หลบภัยเนื่องจากมีภัยคุกคามการโจมตีด้วยขีปนาวุธ
ทว่า หลังจากนั้นไม่นาน จียูอาร์ซึ่งเป็นหน่วยข่าวกรองทางทหารของยูเครน ออกคำแถลงเตือนเกี่ยวกับปฏิบัติการทางจิตวิทยาของรัสเซีย ที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยข่าวปลอมซึ่งอ้างว่า จียูอาร์เตือนเรื่องรัสเซียจะโจมตีเมืองต่างๆ ในยูเครนครั้งใหญ่ด้วยขีปนาวุธและระเบิด
(ที่มา: รอยเตอร์/เอเอฟพี)
ที่มา : MgrOnline