บอร์ดทอท.อนุมัติคืนผลตอบแทน“คิง เพาเวอร์”เหตุขอคืนพื้นที่เตรียมสร้างอาคารทิศตะวันออก
เผยแพร่ : 21 พ.ย. 2567 19:58:39
• เพื่อเตรียมพื้นที่ก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านตะวันออก
• ทอท. จ่ายเงินคืนค่าตอบแทนให้ KPS 193.08 ล้านบาท
• การจ่ายเงินจะบันทึกเป็นรายจ่ายในงบประมาณปี 2567
บอร์ดทอท.อนุมัติขอคืนพื้นที่“คิง เพาเวอร์” ในสุวรรณภูมิบางส่วนเตรียมพื้นที่สร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสาร ทิศตะวันออก พร้อมลงบัญชีรายจ่ายงบปี 67 คืนค่าตอบแทนให้ KPS วงเงิน 193.08 ล้านบาทแล้ว
วันที่ 21พ.ย.2567 บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) (ทอท.) หรือ AOT แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่องการขอคืนพื้นที่ประกอบกิจการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จากบริษัท คิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จํากัด เพื่อนํามาใช้ประโยชน์ในการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสาร ด้านทิศตะวันออก ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (East Expansion)
ตามที่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) (ทอท.) จะดําเนินโครงการก่อสร้างอาคาร ส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออก (East Expansion) ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) โดยจะมีพื้นที่ ก่อสร้างบางส่วนอยู่บริเวณสวนหย่อมภายนอกอาคารผู้โดยสารฝ่ังตะวันออก (Food Stop (City Garden เดิม)) ชั้น 2 ซึ่งพื้นที่บริเวณดังกล่าวบางส่วน บริษัท คิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิจํากัด (KPS) ได้รับสิทธิในการประกอบกิจการบริหาร จัดการพื้นที่กิจกรรมเชิงพาณิชย์สําหรับร้านค้าย่อย หรือบริการต่าง ๆ โดยมีอายุสัญญาตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 2563 - 31 มีนาคม 2576 น้ัน
ทอท.จึงมีความจําเป็นที่จะต้องขอคืนพื้นที่บริเวณดังกล่าวจาก KPS โดย ทอท.ได้มีหนังสือแจ้ง และ KPS ได้ส่งมอบพื้นที่บริเวณดังกล่าวคืนให้แก่ ทอท. ตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2564 ท้ังนี้ KPS มีความประสงค์ขอให้ ทอท.จัดสรรพื้นที่ภายในอาคารผู้โดยสารภายในประเทศซึ่งมีขนาดพื้นที่เท่ากับขนาดพื้นที่ Food Stop เดิมให้กับ KPS เพื่อประกอบกิจการจําหน่ายอาหารและ เครื่องดื่มให้กับผู้โดยสารและผู้มาใช้บริการต่อไป
อย่างไรก็ตาม ทอท.ไม่สามารถจัดสรรพื้นที่ที่มีขนาดเท่ากับพื้นที่ที่ ทอท.ขอคืนให้กับ KPS เพื่อเป็นการทดแทนได้เนื่องจากปัจจุบันไม่มีพื้นที่เหลือที่มีขนาดใหญ่เพียงพอ
ในการประชุมคณะกรรมการ ทอท. คร้ังที่ 14/2567 เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2567ที่ประชุมจึงมีมติอนุมัติให้ ทอท.ขอคืนพื้นที่ ประกอบกิจการฯ ของ KPS ณ ทสภ. จํานวนรวมประมาณ 1,257.560 ตารางเมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 4.97 ของพื้นที่ ประกอบกิจการท้ังหมดของ KPS ณ ทสภ. (จํานวน 25,307.260 ตารางเมตร) โดยให้มีผลนับต้ังแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป เพื่อให้ ทอท.นํามาใช้ประโยชน์ในการก่อสร้างอาคารส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออก ณ ทสภ.
ซึ่งการขอคืนพื้นที่ประกอบกิจการฯ ดังกล่าว ทอท.จะต้องคืนค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ําของปีสัญญาที่ 2 (1 เมษายน 2566 – 31 มีนาคม 2567) ที่ KPS ได้ชําระให้แก่ ทอท.ไว้แล้วให้แก่ KPS ตามจํานวนพื้นที่ประกอบกิจการฯ ที่ลดลง นับตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นมา เป็นจํานวนเงินประมาณ 193.08 ล้านบาท โดย KPS ตกลงที่จะ ไม่เรียกร้องค่าเสียหาย ดอกเบี้ย และค่าใช้จ่ายใด ๆ จากการที่ ทอท.ชําระคืนค่าผลประโยชน์ตอบแทนดังกล่าว
ทั้งนี้ การขอคืนพื้นที่ประกอบกิจการฯ จาก KPS ดังกล่าว จะทําให้ ทอท.มีรายได้จากค่าเช่าพื้นที่ประกอบกิจการฯ ภายใน อาคารผู้โดยสาร ณ ทสภ. ลดลงเป็นจํานวนเงินเดือนละประมาณ 591,000.- บาท และค่าผลประโยชน์ตอบแทนข้ันต่ํารายเดือนภายในอาคารผู้โดยสาร ณ ทสภ. ในช่วงปีสัญญาที่ 3 (1 เมษายน 2567 – 1 มีนาคม 2568) ลดลงเป็นจํานวนเงินเดือนละประมาณ 23.46 ล้านบาท ซึ่ง ทอท.ได้รับรู้รายการดังกล่าวไว้ในงบการเงินประจําปี 2567 เรียบร้อยแล้ว
แต่อย่างไรก็ตาม ทอท.คาดว่า เมื่อโครงการก่อสร้าง East Expansion แล้วเสร็จ จะทําให้ ทอท.มีรายได้เพิ่มขึ้นจาก การให้บริการผู้โดยสาร และการอนุญาตให้ประกอบกิจการเชิงพาณิชย์ ซึ่งจะเป็นการชดเชยรายได้ส่วนที่ลดลงต่อไป
ที่มา : MgrOnline