ชวนอิ่มอร่อยไปกับ 20 ร้านใหม่ บิบ กูร์มองด์ “มิชลิน ไกด์ ประเทศไทย ปี 68”
เผยแพร่ : 21 พ.ย. 2567 15:17:23
• ร้านอาหารทั้ง 20 ร้านนี้ มาจาก 5 ภูมิภาคทั่วประเทศไทย
• ชลบุรี เป็นจังหวัดใหม่ที่ถูกบรรจุอยู่ในคู่มือมิชลิน ไกด์ปีนี้
• มีร้านอาหารที่ได้รับรางวัล Bib Gourmand รวมทั้งหมด 156 ร้าน
มิชลิน ไกด์ เปิดรายชื่อ 20 ร้านอาหารแห่งใหม่ รางวัล “บิบ กูร์มองด์” ในคู่มือ มิชลิน ไกด์ ประเทศไทย ปี 2568 จาก 156 ร้าน ใน 5 ภูมิภาคทั่วไทย โดยปีนี้ได้คัดสรรชลบุรีเป็นจุดหมายปลายทางแห่งใหม่
เกว็นดัล ปูลเล็นเนค (Gwendal Poullennec) ผู้อำนวยการฝ่ายจัดทำคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ทั่วโลก เปิดเผยว่า “ผู้ตรวจสอบของมิชลิน ไกด์ พบว่ามีร้านอาหารสไตล์เรียบง่ายและร้านอาหารขนาดเล็กจำนวนมาก ซึ่งถ่ายทอดสูตรอาหารจากรุ่นสู่รุ่นมาอย่างต่อเนื่องยาวนานเพื่อรักษาเอกลักษณ์เฉพาะตัวและรสชาติดั้งเดิมเอาไว้ คนท้องถิ่นนิยมใช้ร้านเหล่านี้เป็นสถานที่พบปะสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนหรือครอบครัว การดำรงอยู่ของร้านดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าอาหารที่มีความโดดเด่นเฉพาะตัวนั้นหาได้ไม่ยากในประเทศไทย และที่สำคัญยังมีราคาสบายกระเป๋าอีกด้วย”
ร้านอาหารที่ผ่านการคัดเลือกได้รับรางวัล “บิบ กูร์มองด์” ประจำปี 2568 ประกอบด้วยร้านที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 52 ร้าน (ติดอันดับครั้งแรก 7 ร้าน), ในพระนครศรีอยุธยา 9 ร้าน (ไม่มีร้านใหม่ติดอันดับ), ในเชียงใหม่ 20 ร้าน (ไม่มีร้านใหม่ติดอันดับ), ใน 4 เมืองตัวแทนภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือ “ภาคอีสาน” 33 ร้าน (13 ร้าน ในขอนแก่น - ติดอันดับครั้งแรก 1 ร้าน), 8 ร้าน ในนครราชสีมา (ติดอันดับครั้งแรก 3 ร้าน), 6 ร้าน ในอุบลราชธานี (ทุกร้านเป็นร้านที่รักษาสถานะ บิบ กูร์มองด์ เอาไว้ได้) และ 6 ร้าน ในอุดรธานี (ติดอันดับครั้งแรก 1 ร้าน), ในเกาะสมุย 4 ร้าน (ทุกร้านเป็นร้านที่รักษาสถานะ บิบ กูร์มองด์ เอาไว้ได้), ในสุราษฎร์ธานี 8 ร้าน (ทุกร้านเป็นร้านที่รักษาสถานะ ‘บิบ กูร์มองด์’ เอาไว้ได้), ในพังงา 6 ร้าน (ไม่มีร้านใหม่ติดอันดับ), ในภูเก็ต 19 ร้าน (ติดอันดับครั้งแรก 3 ร้าน)
รวมทั้งอีก 5 ร้าน ในชลบุรี (ทุกร้านเป็นร้านติดอันดับครั้งแรก เนื่องจากเป็นจุดหมายใหม่ที่คู่มือ มิชลิน ไกด์ ฉบับประเทศไทย ขยายขอบเขตเข้าดำเนินการสำรวจและจัดอันดับเป็นปีแรก)
สำหรับร้านอาหารที่ได้รับรางวัล บิบ กูร์มองด์ ประจำปี 2568 โดยติดอันดับในคู่มือ มิชลิน ไกด์ ประเทศไทย เป็นครั้งแรก มีจำนวนทั้งสิ้น 20 ร้าน ดังนี้
• กรุงเทพฯ และปริมณฑล
-“จันทน์หอม” ร้านอาหารที่เสิร์ฟอาหารปักษ์ใต้แท้ รสชาติถึงเครื่องมากว่า 20 ปี โดยใช้วัตถุดิบสดใหม่ทุกวันและทำเครื่องแกงเอง จานเด็ดที่แนะนำ ได้แก่ แกงไตปลา ผัดสะตอกะปิกับกุ้ง และกบทอดขมิ้น
-“ข้าวมันไก่หน้าโจร” ร้านข้าวมันไก่ที่คนแน่นเต็มร้านตลอดเวลาแห่งนี้มีจุดขายอยู่ที่เนื้อไก่นุ่มฉ่ำและน้ำจิ้มรสเด็ด ที่ช่วยเพิ่มรสชาติให้อร่อยยิ่งขึ้น
-“ลัคกี้ ซีฟู้ด” ร้านอาหารที่เสิร์ฟอาหารทะเลสด ๆ รสชาติต้นตำรับ จากเครื่องแกงและน้ำพริกสูตรลับเฉพาะของทางร้าน เมนูห้ามพลาดได้แก่ เนื้อปูก้อนผัดพริกขี้หนู และหมึกผัดผงกะหรี่
-“ครัวมรกต” ร้านเรียบง่ายในบ้านไม้ที่เสิร์ฟอาหารไทยรสชาติต้นตำรับมากว่า 120 ปี เมนูเด่น คือ ทอดมันปลากรายแท้เนื้อเหนียวเด้ง รสชาติถึงเครื่องแกง รับประทานคู่กับน้ำจิ้มสูตรพิเศษของทางร้าน
-“โนเนม นู้ดเดิ้ล” ร้านที่นำเสนอเมนูขึ้นชื่ออย่าง ชิโอะโซบะ (Shio Soba) และ โชยุสึเกะโซบะ (Shoyu Tsuke Soba) โดยแต่ละเมนูใช้ส่วนผสมมากกว่า 30 รายการ เมนูเส้นและข้าวจะแตกต่างกันไปตามฤดูกาล ใช้โชยุหมักถึงสามชนิดเพื่อให้ได้รสชาติอูมามิเข้มข้น
-“ไทยทำ” ร้านอาหารขนาดเล็กที่ส่งต่อตำนานความอร่อยมานานกว่าหนึ่งร้อยปี จานเด็ดคือเครื่องใน โดยเฉพาะสมองหมู
-“อุไร” ห่านพะโล้ ร้านในตำนานที่เสิร์ฟห่านพะโล้เนื้อนุ่ม หอมกลิ่นเครื่องเทศสูตรลับเฉพาะของครอบครัวมายาวนานกว่าหกทศวรรษ เมนูของร้านมีเพียงสองรายการ แต่มีหลายขนาดให้เลือกรับประทาน
• ขอนแก่น
-“ศรีเรือนผัดไทย” (สาขาถนนรื่นจิตร) ร้านผัดไทยรสเลิศที่อยู่มานานกว่า 30 ปี เสิร์ฟผัดไทยรสชาติโดดเด่นไม่เหมือนใคร ใช้ไข่เป็ดในการปรุง ไม่ว่าจะสั่งเส้นผัดไทยหรือวุ้นเส้นก็อร่อยทั้งคู่
• นครราชสีมา
-“บ้านไม้ชายน้ำ” ร้านอาหารที่เต็มไปด้วยของสะสมโบราณมากมาย มัดใจนักชิมด้วยอาหารจานเด่นอย่างแกงเนื้อสับปลาสลิดที่เครื่องแกงจากน้ำกะทิคั้นสดเข้ากันได้ดีกับปลาสลิดทอดกรอบ
-“ป้าเปลื้องหมี่กระโทก” ร้านอาหารที่นำเสนอผัดหมี่กระโทกของดีเมืองโคราช ซึ่งทำจากเส้นที่มีเนื้อสัมผัสเหนียวนุ่ม อร่อยโดยไม่ต้องปรุงเพิ่ม นอกจากนี้ผัดไทยและส้มตำของที่ร้านก็รสชาติดีไม่แพ้กัน
-“โซ้ยเจ๊ก” ร้านขนาดย่อมที่ให้บริการมากว่า 12 ปีแห่งนี้มีเมนูเด็ดคืออาหารทะเลสดใหม่ รสชาติกลมกล่อมถึงเครื่องไม่พึ่งผงชูรส อาทิ ปลากะพงผัดขึ้นฉ่าย และทะเลผัดกะเพรา
• อุดรธานี
-“ข้าวซอยไทยใหญ่” ร้านอาหารแห่งนี้มีข้าวซอยเป็นเมนูห้ามพลาด อาหารทุกจานใส่ใจเรื่องคุณภาพเป็นหลัก รวมถึงการใช้เครื่องเทศอย่างพิถีพิถันเพื่อให้ได้รสชาติที่จัดจ้านกลมกล่อมแบบเมืองเหนือ
• ภูเก็ต
-“กินกับอี๋” ร้านอาหารปักษ์ใต้ที่ปรุงตามสูตรของครอบครัว โดดเด่นด้วยอาหารรสชาติกลมกล่อมจากวัตถุดิบคุณภาพในราคาที่เอื้อมถึงได้
-“ครัวบ้านปลาทอง” ร้านลับในซอยเล็ก ๆ ที่เสิร์ฟอาหารคุณภาพเยี่ยมจากวัตถุดิบท้องถิ่นให้รสชาติจัดจ้านตามแบบฉบับภูเก็ตแท้ เมนูแนะนำคือผัดกะปิหยวกกุ้งตัวโต และสามชั้นบูดู ที่มีเนื้อหมูนุ่มละมุนลิ้นเสิร์ฟพร้อมน้ำบูดูอันเป็นเอกลักษณ์ของอาหารใต้
-“นิยม” เป็ดย่างเกลือ ร้านอาหารที่ขายเป็ดเนื้อนุ่ม ย่างสด ๆ บนถ่านร้อน ๆ ประมาณ 30-40 ตัวต่อวัน เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้ม 2 แบบ คือ น้ำจิ้มซีฟู้ดและน้ำจิ้มมะขาม โดยมีไก่ย่างให้ลิ้มลองด้วย
• ชลบุรี
-“ข้าวหลามแม่ไข่ทูลเกล้า” ร้านข้าวหลามรสชาติหอมหวานที่อยู่มานานกว่า 60 ปี มีให้เลือกทั้งข้าวเหนียวขาวและข้าวเหนียวดำ ทั้งยังมีส่วนผสมที่หลากหลายให้เลือก เช่น เผือก ถั่วดำ หรือแปะก๊วย
-“ครัวแล้วแต่ R-Rom” ร้านอาหารที่มีเมนูจำกัดและการเปิดปิดร้านขึ้นกับวัตถุดิบที่หาได้ในแต่ละวัน โดดเด่นทั้งเมนูอาหารทะเล อาหารไทย และแกงรสจัดจ้าน ปรุงด้วยกุ้ง หอย ปู ปลา สดใหม่ ในราคาที่จับต้องได้
-“ล่าวัวพัทยา” ร้านอาหารที่เด่นด้วยเมนูเนื้อตุ๋นซึ่งใช้เนื้อเกรดพรีเมียมในการทำน้ำซุปและ เนื้อตุ๋น เครื่องเครามีให้เลือกทั้งลูกชิ้นเนื้อ เนื้อวัวหลายส่วน เครื่องใน และอีกสารพัด
-“ครัวลุงแฉ่ว” ร้านอาหารบรรยากาศเป็นกันเองที่นำเสนออาหารมาแบบเรียบง่าย ปรุงด้วยวัตถุดิบสดใหม่อย่างเชี่ยวชาญ
-“ปลาดิษฐ์” ร้านอาหารที่เสิร์ฟอาหารสไตล์ Home Cook รสชาติซับซ้อนแต่กลมกล่อมลงตัวมาเป็นชุดหรือ “สำรับ” ตามฤดูกาล พร้อมข้าวหมกกระราง
ทั้งนี้ทางมิชลิน ไกด์ จะจัดงานประกาศผลรางวัลดาวมิชลินอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 นี้ ผู้สนใจสามารถคลิกดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคู่มือ “มิชลิน ไกด์” ได้ทางเว็บไซต์: guide.michelin.com/th/th หรือติดตามข่าวสารล่าสุดของ “มิชลิน ไกด์” ฉบับประเทศไทย ได้ทาง facebook.com/MICHELINGuideAsia
ที่มา : MgrOnline