* เจ้าหน้าที่เตรียมย้ายศพ 11 ศพ จากสำนักสงฆ์เถื่อนลัทธิประหลาดในกำแพงเพชร ไปยังสุสานมังกร โกสัมพีนคร เพื่อพิสูจน์ DNA ก่อนส่งคืนญาติ * ศพทั้งหมดถูกขุดพบจากสำนักสงฆ์ที่สอนเรื่องหูทิพย์ ตาทิพย์ * ศพเจ้าอาวาสยังคงบรรจุอยู่ในโลงแก้ว * ญาติจะรับศพกลับไปประกอบพิธีทางศาสนา
กำแพงเพชร – จนท.เตรียมย้ายศพที่ขุดจากสำนักสงฆ์เถื่อนลัทธิประหลาดสอนหูทิพย์-ตาทิพย์ 11 ศพ ส่งเก็บสุสานมังกร โกสัมพีนคร พร้อมพิสูจน์ DNA ก่อนมอบคืนญาติรับกลับไปประกอบพิธีทางศาสนา เหลือแต่ศพเจ้าอาวาสฯ ยังบรรจุโลงแก้วไว้ ด้านลูกชาย 1 ใน 11 ศพ ยันครอบครัวตกลงมอบร่างพ่อจริง

ความคืบหน้า กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานกำแพงเพชร และส่วนที่เกี่ยวข้อง เข้าขุดศพในลัทธิประหลาดสอนหูตาทิพย์ ภายในสำนักสงฆ์ป่าสิริจันทร์ ม.2 ต.สลกบาตร อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร ตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 20 พ.ย.เป็นต้นมา กระทั่งได้ยุติลงในเวลาประมาณ 18.00 น.วันเดียวกัน ซึ่งจากการขุดค้นหา 17 หลุม พบ 12 ศพ แยกเป็นศพสด 4 ศพ และศพที่เหลือแต่กระดูกแล้ว 8 ศพ หนึ่งในนั้นเป็นศพที่มีญาตินำมามอบไว้ล่าสุดเพียง 55 วันเท่านั้น

ล่าสุดวันนี้(21 พ.ย.) พล.ต.ต.โอภาศ คงเมือง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ สพฐ.กำแพงเพชร นายอำเภอขาณุวรลักษบุรี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เก็บศพที่ขุดจากพื้นที่สำนักสงฆ์ฯดังกล่าว จำนวน 11 ศพ เพื่อจะนำไปเก็บรักษาไว้ที่สุสานมังกร อ.โกสัมพีนคร (เดิมมีแผนจะนำไปเก็บไว้ที่วัดคูหาสวรรค์)

โดยได้ให้เจ้าหน้าที่ตลอดจนอาสากู้ภัย นำศพออกมาห่อบรรจุ ทำการบันทึกข้อมูล แล้วนำมาไว้ที่บริเวณหน้าที่พักศพ รอการลำเลียงไปสุสานฯ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเคลื่อนย้ายได้ในช่วงบ่ายๆหรือเย็นวันเดียวกันนี้ โดยจะเหลือเพียง 1 ศพ เป็นพระอดีตเจ้าอาวาส ที่ยังคงเก็บไว้ในโลงแก้วที่สำนักสงฆ์แห่งนี้อยู่

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ สพฐ.กำแพงเพชร มารอตรวจดีเอ็นเอ จากญาติผู้เสียชีวิต เพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์ว่าตรงกันหรือไม่ ซึ่งในวันนี้พบว่ามีญาติผู้เสียชีวิตเดินทางมาแล้วหนึ่งราย

ด้านนายมน (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ชาวตำบลยางสูง อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร ซึ่งนำเอกสารใบมรณะบัตรมายืนยันตัวตนของศพผู้เป็นพ่อที่เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อเดือนตุลาคม 2567 เล่าให้ฟังว่าครอบครัวตนเป็นลูกศิษย์สำนักสงฆ์แห่งนี้มา 9 ปีแล้ว ส่วนตัวเอง หลังจากได้มาฝึกกรรมฐานที่นี่ ก็มีการเปลี่ยนแปลงได้หลายอย่าง

ส่วนกรณีของศพพ่อที่เสียชีวิตแล้วมีการมอบให้สำนักสงฆ์ฯนั้น ยืนยันว่าครอบครัวได้พูดคุยและตกลงกันเอาไว้ว่า หากใครคนใดคนหนึ่งเป็นอะไรไปจะนำร่างมามอบให้กับทางสำนักสงฆ์ฯ อย่างไรก็ตามเมื่อต้องมานำศพพ่อกลับออกไปฌาปนกิจนั้น ก็รู้สึกโอเคขึ้น เพราะจะได้ไม่มีข่าวกับวัดอีก เพราะตั้งแต่มีข่าวตนก็รู้สึกสงสารวัดสงสารทางสำนักสงฆ์



ที่มา : MgrOnline