หน่วยงานรัฐ แจง กมธ.มั่นคงฯ MOU44 ยังไม่คุยแบ่งแนวเขต ท่องคาถาเกาะกูดเป็นของไทย-อยู่ที่เดิม-ไร้เสียหาย

เผยแพร่ : 21 พ.ย. 2567 14:12:31
X
• หน่วยงานรัฐยืนยัน MOU44 ไม่ได้พูดถึงการแบ่งเขตแดน
• เกาะกูดยังคงเป็นของไทยและไม่เสียหาย
• ข่าวลือดังกล่าวไม่เป็นความจริง

"โตโต้" เผย ‘หน่วยงานรัฐ’ คอนเฟิร์ม ‘กมธ.มั่นคงฯ’ MOU44 ยังไม่มีคุยเรื่องแบ่งปันแนวเขตแดน ยัน ’เกาะกูด‘ อยู่ที่เดิม-เป็นของไทย-ไร้เสียหาย

วันนี้ (21พ.ย.) นายปิยรัฐ จงเทพ สส.กทม. พรรคประชาชน ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ(กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมมีการหารือเรื่องความเข้าใจในการอ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อนกัน หรือความตกลงตามกรอบMOU44 ระหว่างไทย-กัมพูชา วันนี้เราถามเรื่องความมั่นคงด้านพลังงาน การแบ่งสรรผลประโยชน์ปิโตรเลียมภายใต้พื้นที่ทะเลที่มีการอ้างสิทธิทับซ้อนกัน โดยเชิญรองอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ ตัวแทนสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อธิบดีกรมเชื้อเพลิงพลังงานธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน เป็นต้น มาชี้แจงต่อกมธ.ฯ

ทั้งที่นี้ประชุมมีการซักถามถึงการทำงานของคณะทำงานร่วมด้านเทคนิค หรือ JTC ว่าได้มีการเริ่มต้นดำเนินการไปมากน้อยแค่ไหน มีคณะทำงานJTC แล้วหรือไม่ ก็ได้รับคำตอบว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดนี้ขึ้นมา โดยทุกการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงคณะทำงานJTC ตามมติครม. จึงเป็นผลกระทบทำให้การเจรจาไม่มีความคืบหน้า

“ที่ผ่านมาเรามีการเจรจาคณะทำงานJTCเพียง2ครั้ง คือปี2544 และ45 จากนั้นมาเราไม่เคยเจรจาอีกเลย ทุกครั้งที่คุยกันเป็นการคุยนอกรอบ ไม่เป็นทางการมากกว่า ”

ดังนั้น ปัจจุบันคณะทำงานJTC ในรัฐบาลน.ส.แพทองธาร ชินวัตรยังไม่มี ยังไม่ทราบหน้าตาเป็นอย่างไร แต่ที่ทราบคือรองนายกฯฝ่ายความมั่นคงจะนั่งเป็นประธาน ส่วนข้อกังวลในเรื่องการเจรจาไปด้วย คุยเรื่องผลประโยชน์ไปด้วย แล้วจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่แบ่งปันเขตแดนนั้น ได้รับการยืนยันจากหน่วยงานรัฐว่า ไม่ส่งผลกระทบ ขอให้ประชาชนเข้าใจได้ ปัจจุบันประเทศไทยไม่ได้สูญเสียพื้นที่ให้ประเทศกัมพูชาแต่อย่างใด วันนี้ยังไม่ได้มีการหารือถึงเรื่องแบ่งปันแนวเขตแดน โดยเฉพาะบนเกาะกูด จ.ตราด ยังอยู่ที่เดิม ไม่ได้เสียหายไปไหน เพียงแต่กำลังศึกษาว่า MOU44 เรามีส่วนได้เสียมากน้อยแค่ไหน

ที่มา : MgrOnline