"อนุทิน" ลงพื้นที่จันทบุรี ติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไพลิน-​จันทบุรี

เผยแพร่ : 21 พ.ย. 2567 13:20:00
X
• ไทย-กัมพูชาบรรลุข้อตกลงร่วมกัน ส่งเสริมการค้าและการท่องเที่ยว
• เตรียมเสนอ ครม. อนุมัติงบเร่งด่วน 15 ล้านบาท สำหรับโครงการสะพาน
• โครงการสะพานจะช่วยพัฒนาพื้นที่ อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี

จันทบุรี -​ "อนุทิน" นำคณะลงพื้นที่จันทบุรี ติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไพลิน-​จันทบุรี​ ด้าน อ.โป่งน้ำร้อน หลังไทย-กัมพูชา​ บรรลุข้อตกลงหนุนการค้าและการท่องเที่ยวร่วมกัน เตรียมเสนอ ครม. อนุมัติงบเร่งด่วน 15 ล้านบาท

วันนี้ (21 พ.ย.)​ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้นำคณะลงพื้นที่ จ.จันทบุรี เพื่อติดตามการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล และตรวจสอบความคืบหน้าโครงการก่อสร้างสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กข้ามคลองตะเคียน (ด่านผักกาด) ต.คลองใหญ่ อ.โป่งน้ำร้อน เพื่อให้เป็นไปตามข้อตกลงระหว่างไทยและกัมพูชา ที่ได้มีการประชุมร่วมกันเมื่อวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมาที่ จ.ไพลิน ประเทศกัมพูชา

โดยโครงการดังกล่าวจะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวระหว่างไทยและกัมพูชา สนับสนุนการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจ อำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชน และเชื่อมโยงระบบการขนส่งในภูมิภาค ซึ่งฝ่ายไทยจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างทั้งหมด ยกเว้นค่าเวนคืนที่ดินและภาษีในกัมพูชา รวมเป็นเงินประมาณ 15 ล้านบาท พร้อมจัดหาพื้นที่ก่อสร้างโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายจากผู้รับเหมา ส่วนฝ่ายกัมพูชาจะจัดเตรียมพื้นที่ก่อสร้างและอำนวยความสะดวกในเรื่องเอกสารและการทำงาน

และมีนายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี นำหัวหน้าส่วนราชการและเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ร่วมให้การต้อนรับพร้อมนำคณะเข้าเยี่ยมชมโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพ (จุดผ่านแดนถาวรสรุปบ้านผักกาด) ร่วมกับรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยราชอาณาจักรกัมพูชา และผู้ว่าราชการจังหวัดไพลิน ณ สะพานข้ามคลองตะเคียน ด่านพรมแดนบ้านผักกาด

พร้อมรับฟังการนำเสนอรายละเอียดโครงการจากสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดจันทบุรี เกี่ยวกับรายละเอียดโครงการก่อสร้างสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กข้ามคลองตะเคียน ว่าตัวสะพานหลักจะเป็นสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กมีความยาว 40 เมตร แบ่งเป็นฝั่งละ 20 เมตร พร้อมทางเชื่อมยาว 20 เมตร (ฝั่งละ 10 เมตร) รองรับการจราจร 4 ช่อง และทางเท้าสำหรับคนเดินเท้า เหมาะสมกับการใช้งานระยะยาว

ส่วนผลที่คาดว่าคาดว่าจะได้รับจากโครงการดังกล่าวมี 5 ด้านคือ 1.เศรษฐกิจ ที่จะช่วยกระตุ้นการค้าชายแดนและการลงทุนให้เพิ่มมากขึ้น 2.ด้านสังคมมี่จะเชื่อมโยงชุมชน 2 ประเทศ และส่งเสริมคุณภาพชีวิต 3.ด้านการคมนาคม ลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง

4.ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เสริมสร้างความร่วมมือที่มั่นคง และ 5.ด้านสิ่งแวดล้อม ลดมลพิษและคำนึงถึงความยั่งยืน

นายอนุทิน เผยว่า การก่อสร้างสะพานมิตรภาพไพลิน-​จันทบุรี​ บริเวณสะพานข้ามคลองตะเคียน (ด่านผักกาด)​ อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี จะช่วยยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างไทยและกัมพูชาให้ดียิ่งขึ้นและยังเสริมสร้างความมั่นคงในภูมิภาค สนับสนุนการพัฒนาที่ครอบคลุมทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมในระยะยาว ซึ่งการจะใช้งบประมาณ 15 ล้านบาท จะได้นำเรื่องเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาอนุมัติอย่างเป็นทางการต่อไป

"ที่ผ่านมาผู้ว่าราชการ จ.จันทบุรี และผู้ว่าราชการ จ.ไพลิน ประเทศกัมพูชา​ ได้หารือกันจนบรรลุข้อตกลงและนำสู่การทำ MOU เพื่อบันทึกข้อตกลงร่วมกัน จากนั้นจึงจะนำเข้า ครม.เพื่อขอให้นายกรัฐมนตรี​จัดสรรงบกลางเพื่อเป็นงบเร่งด่วนในการดำเนินงาน ซึ่งจุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด มีการค้าชายแดนร่วมกันของทั้ง 2 ประเทศมากกว่าหมื่นล้านบาทต่อปี และสะพานนี้จะช่วยให้พี่น้องประชาชนของไทยสามารถใช้เป็นทางในการนำสินค้าไปจำหน่ายในกัมพูชา และนำนักท่องเที่ยวเข้าไทยผ่านมางจันทบุรี ไประยอง พัทยา และพื้นที่อื่นๆ ในภาคตะวันออกได้" นายอนุทิน กล่าว

มูลค่าการค้าเป็นอันดับ 3 ของด่านชายแดนในพื้นที่

ทั้งนี้ จากการายงานข้อมูลของด่านศุลกากรจันทบุรี ระบุว่าในเดือน ต.ค.2567 ด่านชายแดนถาวรบ้านผักกาด มีมูลค่าการค้ารวมทั้งสิ้น 494.64 ล้านบาท แยกเป็นมูลค่าการส่งออก 477.77 ล้านบาท ส่วนมูลค่าการนำเข้าอยู่ที่ 16.87 ล้านบาท

โดยมีสินค้าส่งออกที่สำคัญ คือ ครีมเทียม กากถั่วเหลือง อาหารสุกร สำเร็จรูป เครื่องดื่มชูกำลัง และอาหารแปรรูป ส่วนสินค้าน้าเข้าที่สำคัญ คือ หัวมันสำปะหลัง ปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก มะม่วง พริก และถ่านไม้

ขณะที่ด่านการค้าชายแดนบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน ซึ่งมีมูลค่าการค้ารวมมากเป็นอันดับ 1 ของจังหวัด มีตัวเลขการค้ารวมในเดือน ต.ค.67 ทั้งสิ้น 950.92 ล้านบาท ส่วนจุดผ่านแดนถาวรบ้านซับตารี อ.สอยดาว ซึ่งมีมูลค่าการค้ารวมเป็นอันดับ 2 ของจังหวัด มีตัวเลขการค้ารวมทั้งสิ้น 570.03 ล้านบาท 

ส่วนด่านการค้าชายแดนบ้านสวนส้ม อ.สอยดาว มีตัวเลขการค้ารวมทั้งสิ้น 4.32 ล้านบาท และด่านการค้าบ้านบึงชนังล่าง อ.โป่ง​น้ำร้อน ​มีตัวเลขการค้ารวมทั้งสิ้น 1.94 ล้านบาท




ที่มา : MgrOnline